คุยกับ ‘พิริยะ กุลกาญจนาชีวิน’ ถึง 10 ปี TEDxBangkok และศิลปะการเล่าเรื่องจากใจ

เมื่อรอยร้าวไม่ใช่แค่แผล แต่คือจุดเริ่มของการเข้าใจ ผ่าน 3 ก. เทคนิคการเล่าเรื่องที่ได้ลองถอดมาจากเวที TEDxBangkok ที่สอนให้เราเล่าเรื่องด้วยใจ

Last updated on ต.ค. 21, 2025

Posted on ต.ค. 21, 2025

ปี 2025 เป็นปีที่เต็มไปด้วยแรงสั่นไหว รอยร้าว และ Aftershock ในสังคมไทย

ถ้าให้มานั่งลิสต์แฮชแท็กยอดฮิตในโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นในปี 2025 เชื่อว่าปีนี้มีเยอะนับไม่ถ้วน ตั้งแต่เรื่องการเมือง สังคม ศาสนา และภัยพิบัติที่หลายคนเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน 

“ทำไมตัวเรา และคนจำนวนมาก ตอนเกิดเหตุถึงเลือกคว้าคอมฯวะ? ถ้ามันพังไป เราจะยังมีความหมายอยู่ไหม?”

คำถามชวนคุยติดตลก แต่ก็ได้นึกย้อนตั้งคำถามกลับกับตัวผู้ถามเองด้วยเช่นเดียวกัน ในวันที่ CREATIVE TALK ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณพิ-พิริยะ กุลกาญจนาชีวิน License Holder ของงาน TEDxBangkok ถึงเบื้องหลังของงาน TEDxBangkok ในปี 2025 ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 ต.ค. 68 นี้ (ยังซื้อบัตรกันได้อยู่นะ 😁)

จากรอยร้าวแผ่นดินไหว สู่ Aftershock ในสังคมไทย

แผ่นดินไหว เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน จบจาก COVID-19 ยังไม่ทันหายเหวอดี กลับต้องมาสั่นสะเทือนกันต่อ และครั้งนี้ไม่ได้สร้างแรงกระเพื่อมแค่ทางกาย แต่กลับทำให้ข้างในของใครหลายคนสั่นไหวด้วยเช่นกัน

นี่คือหนึ่งในจุดเริ่มต้น ‘รอยร้าว’ ที่นำมาสู่ Theme ของงาน TEDxBangkok ในปีนี้ ที่ทำให้ตัวคุณพิ รวมถึงทีมงานเองก็ได้ตั้งคำถามถึงการให้ความสำคัญกับอะไรบางอย่าง ว่าเราให้คุณค่ากับสิ่งนี้เป็นแบบสิ่งสําคัญที่สุดของชีวิตจริงเหรอ อย่างเช่น “การเลือกคว้าคอมพิวเตอร์เป็นอย่างแรก” เป็นต้น

ท่ามกลางโลกที่หมุนเร็วมาก Aftershock ที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่แค่เรื่องของแผ่นดินไหว แต่ยังตามมาด้วยเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ในไทยอีกหลากหลายเรื่องราว ที่นำมาซึ่งรอยร้าวที่มองเห็นได้ด้วยตา และรอยร้าวที่ไม่อาจสัมผัสได้

เรื่องราวเหล่านี้กำลังจะถูกถ่ายทอดผ่าน ‘ผู้เล่าเรื่อง’ ที่จะชวนพวกเราทุกคนมานั่งล้อมรอบกองไฟ เพื่อฟังเรื่องเล่า 18 นาที นี้ไปด้วยกัน อาทิ 

ออม-ณัชนาถ กระแสร์ชล นักศิลปะบำบัด ผู้พาเรากลับมาสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับใจตัวเอง ที่จะได้พาเราย้อนกลับไป ณ เหตุการณ์วันนั้นว่าแท้จริงแล้วได้สร้างรอยร้าวทางใจให้กับใครไปบ้าง และ Aftershock ในวันนั้นยังคงร้าวต่อเนื่องในใจใครบางคนมาจนถึงทุกวันนี้

ไปป์-ธาวัน อุทัยเจริญพงษ์ วิศวกรไทย ผู้ออกแบบหุ่นยนต์เก็บขยะอวกาศในวงโคจรโลก ที่ชวนเรามาตั้งคำถามว่าถ้าได้ออกไปนอกโลก คุณคิดว่าโลกของเราหน้าตาเป็นแบบไหน? เชื่อไหมว่าตอนนี้จริง ๆ แล้วเต็มไปด้วยดาวเทียมหลายหมื่นดวง ในขณะที่หลายคนก็กำลังจะส่งของใหม่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วยความคิดที่ว่าผืนทะเลนี้ช่างกว้างใหญ่ แต่ตอนนี้สภาพอาจจะกำลังกลายเป็นสุสานอวกาศอยู่แล้ว 

ไก่-ณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องจริงจากจินตนาการ ที่จะมาตีแผ่วิธีการเล่าเรื่องที่ทำให้ Mad Unicorn นั้น Mass ได้จริง ๆ ในวันที่ยุคหนึ่งคนไทยเองก็เกาะอยู่กับกระแสความเป็นอายุน้อยร้อยล้าน

ปั๊บ-พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข ศิลปินผู้เติบโตจากความคาดหวังของสังคมและบาดแผลในชีวิต ผู้ผ่านมาทุกยุคของรอยร้าว บาดแผล ความคาดหวัง และการวัดผล แล้วอะไรคือการข้ามผ่านรอยร้าวที่ว่านั้น

และ Speakers อีกมากมาย สิงห์-วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล นักเล่าเรื่องที่ใช้เลนส์สำรวจรอยร้าวของมนุษยชาติผ่านสงคราม, Mackcha-ชรารัตติ์ สาระอาภรณ์ ศิลปินผู้สร้างคาแรกเตอร์ Chalotte ให้เป็นตัวแทนของความกล้า, ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาผู้ตามหาความจริงด้วยการถอดรหัสตัวตนของมนุษย์, ลาดิด-ณชนก ยุวภูมิ นักศึกษาแพทย์ปี 5 ที่ลาออกมาเป็นนักเขียนวรรณกรรมเควียร์, ดร.สันติ ภัยหลบลี้ นักธรณีวิทยาผู้ส่งสารจากโลก, ลุงธร-พีรธร เสนีย์วงศ์ อดีตคนไร้บ้าน ผู้ริเริ่มร้านค้าศูนย์บาทที่เปลี่ยนขยะให้กลายเป็นทุนชีวิต และตูน-ชยานันท์ อนันตวัชกร ศิลปินคินสึงิที่ซ่อมสิ่งแตกร้าวด้วยรัก

นี่คือรอยร้าวที่เราจะได้มาสำรวจด้วยกันที่ TEDxBangkok 2025 “Through the Cracks ผ่านรอยร้าว”

เรามีแผ่นดินไหวในจิตใจตลอดเวลา เราเห็นความร้าวในครอบครัว ในสังคม ในความเชื่อ คำถามคือ เราจะอยู่กับรอยร้าวเหล่านี้อย่างไร

จาก 18 นาที สู่เทคนิคการเล่าจากแก่นไอเดีย

เชื่อว่าศิลปะการเล่าเรื่องของ Speaker หลายคน ยังคงเป็นตำนานบนเวที TED Talk ซึ่งคุณพิบอกว่าความเจ๋งของ TED คือการเล่าเรื่องที่ไม่ได้ใช้ ‘คน’ นำ แต่ใช้ ‘ไอเดีย’ นำ

สมัยก่อนเวลาเล่าเรื่อง เรามักจะพูดแบบเริ่มต้นจากความลำบาก แล้วปิดจบที่ความสำเร็จ แต่วันนี้คนไม่ได้อยากฟังแค่ว่าคุณเก่งยังไง เขาอยากฟังว่าคุณ ‘รู้สึกยังไง’ ตอนที่ยังไม่เก่ง

“Speaker แต่ละคนมีราก มีที่มาของตัวเองอยู่แล้ว มีแก่นของตัวเองที่ชัดประมาณหนึ่ง”

คุณพิเล่าต่อถึงเรื่องเทคนิคการเล่าเรื่องแบบ TED ที่ทำให้ใครก็อยากฟัง แม้ผู้เล่าเรื่องคนนั้นอาจจะยังไม่เจนเวทีก็ตาม แต่หน้าที่ของ TED ก็คือการหากิ่งก้านไอเดียของต้นที่มีรากที่แข็งแรงนั้น โดยทุกคนมีจุดร่วมเดียวกันคือการเล่าเรื่องที่จริงใจ บนพื้นที่ปลอดภัย

ไม่ใช่การโชว์ความเก่ง แต่คือการเปิดใจให้คนเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน เพราะในยุคที่ใครก็สร้างคอนเทนต์ได้ สิ่งที่หายากที่สุดคือ “ความจริงใจของมนุษย์”

ท้ายที่สุดเนื้อหายาว 18 นาที มีคลิปสั้น มีพอดแคสต์ท่วมทะเลไปหมดแล้ว ที่บางเรื่องก็อาจจะหาฟังจากที่ไหนก็ได้ แต่อย่างที่บอกว่า 18 นาทีสำหรับ TEDxBangkok 2025 จะเหมือนมานั่งล้อมกองไฟในยุคที่ยังไม่มี AI แบบยิ่งใกล้ยิ่งได้

“เหมือนได้คุยกับคนในหลากหลายแวดวงนั้นว่าแบบ เฮ้ยของพี่เป็นไงบ้าง พี่เจอความ_บหายอะไรในชีวิตบ้างแล้วพี่รอดมันมาได้ยังไง เราเองก็คงแชร์ในมุมที่เราไปเจอมา แชร์อะไรบางอย่างที่น่าจะเป็นประโยชน์กับใครสักคนเหมือนกัน”

สรุปการจะเล่าเรื่องให้คนอยากฟัง สไตล์ TEDxBangkok อาจประกอบไปด้วย 3 ก. คือ

1. แก่น: หาแก่นไอเดียของตัวเองให้เจอ

อย่างที่คุณพิบอกว่าเราทุกคนมีเมล็ดพันธุ์บางอย่างที่ดีอยู่แล้ว และแก่นของแต่ละคนก็มีความชัดที่แตกต่างกัน เมื่อเราเจอก็จะสามารถแตกกิ่งก้านไอเดีย หรือค้นหากิ่งก้านที่น่าสนใจ เผื่อต่อยอดเรื่องราว สู่เรื่องเล่าต่อไปได้

2. ใกล้: เล่าให้ใกล้คนฟัง ไม่ใช่แค่ตัวเรา ของเรา

หลายคนจะติดสูตรสำเร็จของการเล่าเรื่อง ที่จะเล่าประวัติที่มาของเส้นทางตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้ย้อนกลับไปที่คนฟังว่าเขาจะนำสิ่งที่ได้ฟังไปต่อยอดอะไรต่อได้บ้าง ดังนั้น “ยิ่งใกล้ยิ่งได้” การทำให้เนื้อหา related คนฟังมากขึ้นเหมือนจับกลุ่มเม้ากัน

3. กล้า: ไม่โอนเอนตามเสียงรอบข้างมากเกินไป

คนพูดต้องมีเข็มทิศของตัวเอง เพราะสุดท้ายไม่มีใครมารับผิดชอบคำพูดแทนเราได้ เวลาซ้อมหรือรับ Feedback เราต้องรู้ว่าอะไรใช่สำหรับเรา เพราะสุดท้ายคนที่จะรับผิดชอบสิ่งที่พูดออกไปบนเวทีได้ มีแค่ตัวเราเอง ให้รู้สึกว่าขึ้นไปพูดแล้วกลับมาดูอีกครั้งจะไม่เสียดายวันที่ได้พูดสิ่งนั้นออกไป มันคือการซื่อตรงกับความรู้สึกแท้จริงของตัวเอง ณ โมเมนต์นั้น

และเมื่อผ่านการเล่าเรื่องนับร้อยเรื่อง ผ่านผู้คนหลากหลายรุ่น คุณพิเองก็ได้เรียนรู้บางอย่างจากการทำ TEDxBangkok มาตลอดสิบปี

10 ปีของการ Talk แบบ TEDxBangkok

สิบปีที่ผ่านมา TEDxBangkok ไม่ได้เป็นเพียงเวทีแห่งการพูด 18 นาที แต่คือพื้นที่ของ “การได้อยู่ร่วมกัน” ของผู้คนที่อยากเข้าใจโลกในแบบลึกกว่าเดิม

หากเป็นแต่ก่อนคุณพิบอกว่าบทเรียนที่ได้จากการทำงานนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องการเล่าเรื่อง หรือการสร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านพื้นที่แบบนี้ แต่ในวัย 33 ปี ได้ค้นพบอีกเรื่องที่เปลี่ยนชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ คือ การได้มี ‘กัลยาณมิตร’

คุณพิเล่าว่า TEDx เริ่มจากกลุ่มอาสาสมัครเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะไปไกลแค่ไหน แต่ทุกคนเชื่อในสิ่งเดียวกัน เชื่อว่า “ความคิดดี ๆ เปลี่ยนโลกได้” นำมาสู่ ‘กัลยาณมิตร’ ดี ๆ ที่ทำให้เกิดงานดี ๆ เช่นเดียวกัน ไม่เถียงเลยกับประโยคที่ว่า “คุณคือค่าเฉลี่ยของคนที่คุณสนิทที่สุด 5 คน” การได้ทำ TEDx มาตลอดสิบปีก็นำมาซึ่งแวดล้อมดี ๆ เช่นกัน

สำหรับ TED มีความ ‘朋友’ (péngyou) มีความเป็นเพื่อน แต่ละปีที่ก้าวเดิน แต่ละช่วงที่ก้าวไป ทั้งพลังงาน และวิธีการก็เปลี่ยนไปในแต่ละวัยของเรา แน่นอนว่าในปีนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของเพื่อนกลุ่มนี้เช่นกัน

“เราอยู่กับฟอร์แมต TED มานานมาก จนเริ่มถามตัวเองว่า ยังจะทำแบบเดิมได้อีกเหรอ ในวันที่โลกเปลี่ยนไปมากขนาดนี้?”

ทำให้ในปีนี้ TEDx ได้นำไปสู่ Experience ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภายนอกเวที ที่ถูกออกแบบให้เป็น พิพิธภัณฑ์แห่งรอยร้าว (Museum of Broken) นิทรรศการที่คนร่วมงานได้ออกแบบเอง นอกจากนี้ข้างในยังมีกิจกรรมที่ชวนผู้คนกลับมา “ต่อชิ้นส่วนของตัวเอง” ผ่านศิลปะ การฟัง และเทคโนโลยี


แล้วไปสัมผัสใจ สำรวจรอยร้าวด้วยตัวเอง
📅 วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2025 (13.00 - 19.00 น.)
📍 KBank SiamPic Hall (อาคารสยามสแควร์วัน ชั้น 7)
👉 ลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ ทาง Eventpop (บัตรมีจำนวนจำกัด)

Eventpop | TEDxBangkok 2025
TEDxBangkok 2025 กลับมาอีกครั้ง !Through the Cracks ผ่านรอยร้าวในวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2025 เวลา 13.00 - 19.00 น.ณ KBank SiamPic Hall (อาคารสยามสแควร์วัน ชั้น 7

บัตรราคา 1,200 บาท (ชำระเมื่อกรอกใบสมัครครบถ้วน) และ Bundle พิเศษ 1,500 บาทสำหรับ 2 เวที TEDxBangkok 2025 และ TEDxBangkok Youth 2025

trending trending sports recipe

Share on

Tags