อายุน้อย 100 งานไม่เกินจริง! ในแต่ละวันเรากำลังเผชิญเรื่องเหล่านี้อยู่หรือไม่ ?
- เลิกงานแล้ว…แต่งานยังไม่เลิก
- แค่คิดเรื่องงานเฉย ๆ คงไม่เป็นไรหรอก
- มีเวลาพัก แต่พักเท่าไหร่ก็ไม่เต็มที่
- เช็กอีเมลก่อนนอนแป๊บเดียว ไม่น่ามีปัญหา…ใช่ไหม?
ถ้าคุณอยากพักผ่อนอย่างแท้จริงและเริ่มวันใหม่อย่างสดชื่น ลองค่อย ๆ อ่านแล้วทำความเข้าใจ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ดูสิ โดยบทความจาก huffpost ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ ถึงเคล็ดไม่ลับสำคัญ ของพฤติกรรมที่ควรเลี่ยง เพื่อช่วยป้องกันอาการหมดไฟและทำให้คุณมีสมาธิกับการทำงานได้ดีขึ้น
เพราะมนุษย์เรามักมีความต้องการอยากเพิ่มประสิทธิภาพในชีวิต แต่กลับใช้ทุกนาทีในแต่ละวันเพื่อทำอะไรให้สำเร็จอยู่เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะกดดันตัวเอง บีบตัวเองให้ทำงานหนักและเร็วขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเสมอไป ตรงกันข้ามเลย ถ้าคุณไม่ให้สมองได้พักและฟื้นตัว ความตั้งใจ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการแก้ปัญหาอาจลดลงไปด้วยซ้ำ
โดยในบทความจาก huffpost ได้เล่าต่อว่า จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญสามคนที่เราได้พูดคุยด้วย วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้เวลาว่างเพื่อเติมพลังให้ตัวเอง Sophie Mort นักจิตวิทยาคลินิกจาก Headspace บอกไว้ว่า “เมื่อเรารู้สึกพักผ่อนเต็มที่และเติมเต็มตัวเองในช่วงเวลานอกงาน เราจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีสมาธิอยู่กับปัจจุบันได้ดีขึ้น”
ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนต้องทำหลังเลิกงานมีผลอย่างมากต่อความตื่นตัวและสมาธิในวันถัดไป
นี่คือ 5 สิ่งที่คุณควรเลี่ยงอย่างยิ่งหลังเลิกงาน ถ้าต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเอง
1. ทำงานต่อหลังเลิกงาน
เชื่อว่าหลายคนแค่เห็นข้อแรกก็ท้อกันซะแล้ว! แต่อยากให้ลองอ่านประโยคถัดไป เชื่อว่าจะช่วยทุกคนอย่างแน่นอน โดย Heather Lamb ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาวะในที่ทำงานและผู้เขียนหนังสือ “How Not to Be a People Pleaser: Five Action Steps to Using Your Voice Without Regret” กล่าวว่า สิ่งสุดท้ายที่เธออยากทำหลังจากวันทำงานหนัก คือการกลับมาทำงานอีก ซึ่งงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าหลายคนรู้สึกกดดันที่จะต้องทำงานตลอดเวลา และคนที่ยังคงลุยโปรเจกต์ต่อหลังเลิกงาน มักมีแนวโน้มที่จะเผชิญภาวะหมดไฟและรู้สึกไม่พอใจในงานมากขึ้น
สิ่งสำคัญคือ ต้องให้สมองของเราได้หยุดพักบ้าง “ถ้าเราฝืนทำงานต่อหลังเลิกงานโดยไม่หยุด สมองของเราจะไม่มีโอกาสฟื้นตัวหรือจัดระบบใหม่” Billy Roberts ผู้ก่อตั้ง Focused Mind ADHD Counseling เล่าให้ฟังว่า สิ่งนี้อาจทำให้เรารู้สึกหมดแรง ขาดความคิดสร้างสรรค์ และไม่มีสมาธิในที่สุด
แทนที่จะทำงานจนถึงเวลานอน คุณ Heather Lamb แนะนำว่า ควรใช้เวลากับกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด เช่น การเดินเล่นหรืออ่านหนังสือ “สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ฉันเคลียร์ความคิดและผ่อนคลาย เพื่อจะได้เติมพลังและกลับไปทำงานในวันถัดไปด้วยความสดชื่น”
ดังนั้นคีย์สำคัญคือ อย่ามัวแต่จมกับงานจนไม่ได้ผ่อนคลาย ลองหากิจกรรมที่ตัวเองชอบ หรืออยากทำดูบ้าง แม้งานจะสำคัญ แต่การดูแลตัวเองก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเมื่อไหร่ที่ตัวเราไม่พร้อมทำงาน นั่นอาจจะส่งผลเสียในระยะยาวได้ในที่สุด
2. เช็กแจ้งเตือนงานตลอดเวลา
ต่อจากข้อก่อนหน้า อีกสิ่งหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ การเช็กแจ้งเตือนงานตลอดทั้งคืน แม้ว่าคุณจะไม่ได้ลงมือทำงานจริง ๆ แต่เพียงแค่เห็นอีเมลจากเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้าของเรา ก็สามารถทำให้สมองของคุณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ตามข้อมูลจาก National Sleep Foundation ระบุไว้ว่า….
‘สิ่งเหล่านี้มันทำให้สมองของเราอยู่ในโหมดแก้ปัญหาและติดอยู่กับความรู้สึกว่าต้องพร้อมตลอดเวลา” เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้จะลดทอนประสิทธิภาพและพลังงานของเรา และในบางกรณี อาจนำไปสู่ความเหนื่อยล้าหรือหมดไฟได้
วิธีรับมือคือ เมื่อคุณเลิกงาน ให้ปิดการแจ้งเตือนงานทั้งหมดและปล่อยให้สมองได้พักจากเรื่องงาน หรือถ้าคุณมีโทรศัพท์, แล็ปท็อปสำหรับงาน ให้วางไว้ในอีกห้องหนึ่ง ‘การทำแบบนี้ช่วยให้สมองของเราปิดจากเรื่องงานได้อย่างสมบูรณ์ ป้องกันการหมดไฟ และรักษาพลังงานไว้ ทำให้เรามีแรงและประสิทธิภาพมากขึ้น’
3. เส้นแบ่งระหว่างเวลางาน และเวลาส่วนตัว เริ่มเลือนลาง
แม้ว่าการทำงานที่บ้านจะมีข้อดี แต่สำหรับหลาย ๆ คน เส้นแบ่งระหว่างเวลางานและเวลาส่วนตัวเริ่มเลือนลางมากขึ้น งานวิจัยยังระบุว่าการที่งานและชีวิตส่วนตัวผสมผสานกันมากเกินไป ทำให้หลายคนเสียสมาธิและหมดแรงจูงใจ โดยเฉพาะช่วงเวลาของการ WFH ดั่งในปัจจุบัน
คุณ Sophie Mort นักจิตวิทยาคลินิกจาก Headspace อธิบายว่า การที่เราไม่มี “ตัวช่วยบอกสมอง” ว่าวันนี้เลิกงานแล้ว อาจทำให้สมองยังคงติดอยู่ในโหมดทำงานแม้ในช่วงเวลาหลังเลิกงานก็ตาม
เธอแนะนำให้หากิจกรรมทำทันทีหลังเลิกงาน เพื่อเป็นสัญญาณให้สมองรู้ว่าเข้าสู่เวลาส่วนตัวแล้ว อาจเป็นอะไรที่ง่าย ๆ อย่างเปลี่ยนเสื้อผ้า, ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น หรือจุดเทียนหอม การทำแบบนี้เป็นประจำจะช่วยให้สมองเชื่อมโยงกิจกรรมเหล่านี้กับการสิ้นสุดวันทำงาน (ย้ำว่า! ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ)
ทั้งนี้ไม่ได้บอกให้ทุกคนมานั่งกำหนดเวลาแบบชัดเจนในการเข้าออกงาน แต่อยากให้ลองหาบาลานซ์ของตัวเองที่ลงตัวจากการผสมผสานระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต
4. ยัดเยียดงานหนัก ๆ เข้าไปในช่วงเย็นมากเกินไป
แทนที่จะพยายามจัดการงานจำนวนมากหลังเลิกงาน เช่น ซักผ้าที่กองอยู่เต็มตะกร้าหรือซื้อของเข้าบ้านที่เลื่อนมาหลายวัน ให้ลองแบ่งงานเหล่านี้ออกไปทำในหลาย ๆ วันแทน
คุณ Billy Roberts ได้พูดไว้ว่า ‘บางครั้งการปล่อยให้งานสะสมจนกลายเป็นกองโต อาจทำให้เรารู้สึกท้อใจและหมดกำลังใจตลอดทั้งวัน’ การรู้ว่ามีงานบ้านที่หนักหนารออยู่ข้างหน้า อาจกดดันจิตใจและดึงพลังงานของคุณออกไปทั้งวันได้
โดยคำแนะนำของคุณ Billy Roberts คือ ถ้าคุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้พยายามแทรกช่วงเวลาพักผ่อนหรือกิจกรรมที่สนุกและให้รางวัลกับตัวเองระหว่างนั้น เช่น หลังเลิกงานต้องซักผ้ากองโต ลองให้รางวัลกับตัวเองเป็นของหวานอร่อย ๆ สักมื้อ หรือ ลองเปลี่ยนจากการซักผ้ากองโต 1 วัน ให้กลายเป็นการทยอยซัก บางครั้งการรีบทำทุกอย่างในเวลาเดียวกัน ก็จะเป็นการเพิ่มภาระจิตใจด้วย เพราะเราทุกคนสามารถจัดการกับความเหนื่อยล้าจากงานที่น่าหงุดหงิดได้ หากมันมาพร้อมกับกิจกรรมที่เติมเต็มและสร้างความสุขได้
5. ลดความสำคัญของการนอนหลับ
ถ้าอ่านมาจนถึงข้อนี้ แล้วคิดว่า 4 ข้อแรกยังทำไม่ได้ อย่างน้อย ๆ ขอให้คุณทำข้อนี้ที่ห้านี้ให้ได้ นั่นคือ ‘การนอนหลับที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง’ สำหรับประสิทธิภาพในการทำงาน, ความจำ, ความคิดสร้างสรรค์ และระดับพลังงานของคุณ หากเราละเลยสุขอนามัยในการนอน อาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าและหงุดหงิดในวันถัดไปได้
แล้วจะเตรียมตัวอย่างไรเพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพหลังเลิกงาน เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วง 6-8 ชั่วโมงก่อนนอน
- หลีกเลี่ยงการงีบหลับในช่วงเย็น และพยายามเข้านอนในเวลาที่เหมาะสม (โดยทั่วไปแนะนำให้นอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน ตามคำแนะนำจาก Centers for Disease Control and Prevention)
คุณ Sophie Mort ยังแนะนำให้สร้างกิจวัตรก่อนนอนที่คุณตั้งตารอได้ เช่น ฟังการทำสมาธิแบบมีไกด์, อ่านหนังสือ หรือยืดเส้นยืดสายเบา ๆ เป้าหมายคือการหากิจกรรมที่เรียบง่ายและผ่อนคลาย เพื่อเตรียมร่างกายสำหรับการนอนหลับ ทำให้คุณหลับสบายและตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นพร้อมเริ่มต้นวันใหม่
เรียบเรียง: กองบรรณาธิการ CREATIVE TALK
ที่มา