อิสรภาพทางด้านการเงินเป็นสิทธิ์ของทุกคน เราสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวในแต่ละ Generation ได้ ด้วยความเชื่อนี้ จึงเกิดเป็นงาน Money Freedom Forum 2025
ดังนั้นสิ่งสำคัญของงานนี้ โค้ชหนุ่มตั้งใจอย่างมากว่า Money Freedom is Possible (For Everyone) ทุกคนเปลี่ยนได้ ทุกคนสามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้ เพราะพวกเราคือคนธรรมดา ๆ ที่การเงินดี และชีวิตมีความสุข คือสิ่งที่คุณเป็นได้แน่ ๆ
และนี่คือ Step to Money Freedom ทั้ง 5 Stage
Stage 1: ต้องรอด (Survival) นับเป็น Stage ที่ยากที่สุดเพื่อเอาตัวรอดในด้านการเงิน
Stage 2: ตั้งหลัก (Stability) คือสภาวะที่เราก้าวข้าม ทำให้เราเย็นขึ้น
Stage 3: มั่นคง (Security) เริ่มมีความมั่นคงด้านการเงิน
Stage 4: ทะยาน (Growth) ยุคนี้มีคอร์สอบรม มีความรู้ที่เข้าถึงได้ เพื่อให้เราทะยานขึ้นไป
Stage 5: โบยบิน (Freedom) เรามีอิสระในด้านการเงินอย่างแท้จริง
โดย Stage ที่ยากที่สุดคือ “Stage 1 ไป 2” เนื่องจาก Stage นี้จะไม่เห็นภาพไกล ๆ เพราะมัวแต่ต้องแก้ปัญหาไม่จบสิ้น และอีก Stage ที่ยากคือ “Stage 4 ไป 5” เพราะมันไปไม่ถึงสักที
หยุดตั้งคำถาม “ทำไมเกิดแต่กับกู” เลิกดราม่ากับทุกสิ่ง ฝึกคิดไปข้างหน้า ตั้งเป้าหมายให้ไกล เจาะลึก 5 Step to Money Freedom
Stage 1 : ต้องรอด (Survival)
Stage นี้ “หยุดเลือด ลดดอกเบี้ยแพง คุมกระแสเงินสด” ดังนั้นเราต้องเลิกดราม่ากับทุกสิ่ง นั่นคือการทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง โดยคุณต้องกล้าทำสิ่งเหล่านี้
- คิดไปข้างหน้า
- หยุดตั้งคำถามว่า “ทำไมเกิดแต่กับกู”
- ทำงานให้หนัก ให้ยุ่งเข้าไว้ จะได้ไม่มีเวลาดราม่า
- เลิกถามตัวเองว่าทำไม “มึงต้องสู้จนตัวรอดนั่นแหละ จะถามทำไม ?
- ยังไม่ต้องตั้งเป้าหมายไกล “ขอแค่ไฟส่องตีน” (หมายถึง เริ่มจากเป้าหมายเล็ก ๆ ที่ทำได้ก่อน รู้ว่าพรุ่งนี้ทำอะไร เริ่มทำไปก่อน มันก็เหมือนปลูกต้นไม้ ถ้าวันนี้ปลูกแต่ถั่วงอกก็ได้ถั่วงอก แต่ถ้าเริ่มปลูกมะม่วงบ้าง ก็จะได้ทั้งมะม่วง และ ถั่วงอก)
วิธีเอาตัวรอดทางการเงิน
- เงินต้องพอใช้ทุกเดือน
- รู้จักเห็นแก่ตัวบ้าง
- หัดเป็นคนจมูกไว และไม่นิ่งดูดายต่อปัญหา
- เพิ่มพูนความรู้การเงินอยู่เสมอ
- ฝึกนิสัยรักการแก้ปัญหา (อย่าหนี!)
- หน้าด้าน! ถ้าไม่จำเป็น
Stage 2 : ตั้งหลัก (Stability)
Stage นี้ “มีเบาะรองรับฉุกเฉิน เลิกหนี้ดอกสูง” เราจะดูยังไง ว่าชีวิตการเงินของเราเริ่ม “ตั้งหลัก” ได้
2.1 เงินคงเหลือแต่ละเดือน ไม่ติดลบ
2.2 เงินออมและลงทุนต่อเดือน มากกว่า 10%
2.3 เงินผ่อนหนี้ต่อรายได้ ไม่เกิน 59%
ถ้าคุณมาถึง Stage นี้ คุณจะนอนหลับสบายได้มากขึ้น เพราะเราเคลียร์หนี้ได้แล้ว เราเอาตัวรอดได้มากขึ้น แล้วใช้จังหวะนี้ทยอยจัดการไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เราดีกว่านี้ได้อีก
Stage 3 : มั่นคง (Security)
Stage นี้ “ป้อนกันความเสี่ยง วางแผนพื้นฐานครบ” เวลาพูดถึงความมั่นคง มักจะมาพร้อมความเสี่ยงเช่นกัน คนที่อยู่ Stage นี้จะมีลักษณะ ดังนี้
- มีเครื่องมือทางการเงินมากกว่า 1 ทาง ไม่ว่าจะ เงินเดือน, อาชีพเสริม, การลงทุน เป็นต้น
- เงินออมคนกลุ่มนี้เก็บได้ถึง 6-12 เดือน
- คนที่มีความมั่นคงมักมีประกันชุดใหญ่ ทั้งแต่ ชีวิต, สุขภาพ, โรคร้ายแรง และ อุบัติเหตุ
- เพราะการเงินมันขึ้นลงตลอดเวลา การมีเกราะป้องกันชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ
Stage4 : ทะยาน (Growth)
Stage นี้ “เร่งสะสมทรัพย์ เพิ่มรายได้หลายทาง” อีกหนึ่ง Stage ที่ยากมากเช่นกัน เพราะหลายคนไปไม่ถึงสักที ดังนั้นคุณจะไม่มีไปสู่จุดที่ต้องการได้ ถ้าไม่มีแผนของตัวเอง มันไม่ใช่ทุกคนต้องมีแผนเดียวกันหมด ซึ่งนั่นคือ “Playbook ของคุณเอง”
ตัวอย่าง Playbook ของโค้ชหนุ่ม เริ่มจากแหล่งรายได้หลัก 2 ประเภท
→ อสังหาริมทรัพย์ + ธุรกิจ
→ อสังหาริมทรัพย์ = สร้างรายได้จาก ค่าเช่า และ กำไรส่วนต่าง (Capital Gain)
→ ธุรกิจ = สร้างรายได้จาก เงินปันผล
รายได้ที่ได้มา → นำไป “Invest” (ลงทุนต่อ)
→ รายได้จากค่าเช่า, กำไรส่วนต่าง, หรือเงินปันผล
→ ถูกนำกลับไป “ลงทุน” ในสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น, ตราสารหนี้, กองทุนรวม
รายได้จากการลงทุน → “Reinvest” (หมุนกลับไปลงทุนซ้ำ)
→ รายได้จากการลงทุนจะไม่หยุดอยู่ที่การใช้จ่าย แต่จะถูกนำกลับไปต่อยอด
→ ลงทุนเพิ่มในอสังหาฯ หรือธุรกิจ เพื่อให้ระบบรายได้โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
→ นี่คือ วงจรหมุนเวียนของความมั่งคั่ง เมื่อเงินทำงานแทนเรา
วงจรบริหารรายได้ สู่ความมั่นคง แบบฉบับคนทั่วไป
ขั้นที่ 1 : สร้างรายได้ (Income Creation)
โดยโค้ชหนุ่มแยกรายได้ ออกเป็น 2 ประเภทสำคัญ นั่นคือ
→ Active Income – รายได้ที่เราต้อง “ลงแรงทำงาน” เพื่อให้ได้เงิน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าคอมมิชชั่น
→ Passive Income – รายได้ที่ “เงินทำงานแทนเรา” เช่น ดอกเบี้ย, เงินปันผล, ค่าเช่า, ค่าลิขสิทธิ์
→ อย่าพึ่งพาแค่ Active income เพราะจะเหนื่อยไม่จบ ควรเริ่มสร้าง Passive income เพื่อเสริมฐานระยะยาว
ขั้นที่ 2 : การบริหารรายได้ (Income Management)
เมื่อรายได้เข้ามาแล้ว โค้ชหนุ่มชี้ให้เห็นว่า “เงิน” ต้องถูกจัดสรรเป็น 3 กอง
→ เงินออม – เพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ใช้ลงทุนต่อ เช่น หุ้น กองทุน อสังหาฯ
→ ค่าใช้จ่าย – เพื่อการดำรงชีวิตประจำวัน ต้องรู้ขีดจำกัดของตัวเอง ไม่ใช้เกินรายได้
→ เงินคงเหลือ – ส่วนที่เหลือจากการใช้และออม ใช้ “เพื่อความสุข” ไม่ใช่เพื่อโชว์หรือตามเทรนด์
การบริหารเงินที่ดีไม่ใช่แค่ “ออม” แต่ต้อง “บาลานซ์ระหว่างออม ใช้ และมีความสุขกับชีวิต”
ขั้นที่ 3 : การลงทุน (Investment & Reinvestment)
โค้ชหนุ่มวางโครงให้เห็นว่า “เงินออม” ที่มีอยู่ → ต้องถูกนำไปต่อยอดให้เกิดผลตอบแทน เช่น หุ้น / กองทุนรวม / อสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างรายได้กลับเข้ามาในรูปของ Passive Income และหมุนกลับเข้าไปใน “วงจรรายได้” อีกครั้ง
และนี่คือ “วงจรแห่งความมั่งคั่ง” เริ่มจาก รายได้ → ออม → ลงทุน → ได้ผลตอบแทน → กลับมาเป็นรายได้ใหม่ เร็วช้า ไม่ต้องไปเทียบกับคนอื่น แต่วันนี้ควรกลับถอยหลังกลับมามองตัวเอง มองคนที่เรารัก เพื่อให้ตัวเราทะยานไปสู่การมีอิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริง
Stage 5 : โบยบิน (Freedom)
Stage นี้ “รายได้ ไม่ต้องพึ่งงานประจำ” เป็นการใช้ชีวิตตามความหมาย ออแบบเวลาได้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
5.1 Financial Freedom (อิสรภาพทางการเงิน)
คือการมีรายได้ที่ไม่ต้องใช้แรงทำงานโดยตรง (Passive Income) มากพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายรายเดือนทั้งหมด โดย แหล่งรายได้หลักมาจาก ดอกเบี้ย, ค่าเช่า, ค่าลิขสิทธิ์, เงินปันผล, รวมถึง รายได้จากการลงทุนต่าง ๆ
รายได้จากสินทรัพย์เหล่านี้รวมกัน = รายได้รวมต่อเดือน และถ้าทำได้จน Passive Income ≥ รายจ่ายต่อเดือน ถือว่าเข้าสู่จุดของ “Financial Freedom” แล้ว
5.2 Financial Independence, Retire Early (FIRE)
คือ ขั้นสูงกว่า ของ Financial Freedom เป้าหมายไม่ใช่แค่มีรายได้พอใช้ แต่มี ทรัพย์สินมากพอให้ใช้ชีวิตได้ทั้งชีวิตโดยไม่ต้องทำงานอีกเลย
→ สินทรัพย์ (Assets) ต้องมากกว่า 25 เท่า ของรายจ่ายต่อปี (เช่น ใช้เดือนละ 40,000 บาท/ปีละ 480,000 บาท → ต้องมีสินทรัพย์ ≥ 12 ล้านบาท)
→ หนี้สิน (Debt) ต้องอยู่ในระดับต่ำหรือเป็นศูนย์
→ Key Point แนวคิด FIRE มาจากการลงทุนอย่างมีวินัยและใช้ชีวิตต่ำกว่ารายได้ เพื่อให้เก็บเงินได้มากจน ผลตอบแทนจากการลงทุน กลายเป็นรายได้แทนการทำงาน
สิ่งสำคัญของการมีอิสระภาพทางการเงินที่แท้จริง คือการมี “อิสระ” ในการเลือกใช้ชีวิตได้จริง และวันนี้โค้ชหนุ่ม มีอิสระภาพทางการเงิน จึงเป็นจุดสำคัญที่ทำให้โค้ชหนุ่ม กลับมา “สอนเรื่องการเงินให้กับคนไทยทั้งประเทศ”
ในวันนี้การตื่นเช้า แล้วเรามีพลัง
ในวันนี้เรามีพลัง แล้วเรามีความสุขในการอยากตื่นขึ้นมาทุกเช้า
ในวันนี้ คุณโชคดีมากแล้วนะ
หากเป้าหมายยังไปไม่ถึงคำว่า อิสระภาพทางการเงิน
แต่ขอให้คุณไม่หยุด มองไปข้างหน้าเสมอ
โค้ชหนุ่มเองมีความสุขในทุกครั้งที่ตื่น เพราะมีลูกเป็นพลังให้กับชีวิต วันนี้คุณลองหันกลับไปมองคนข้างหลัง โอบกอดรับพลังนั้นไว้ เพื่อให้ทุกเช้าที่ตื่นมา คุณได้มีแรงสู้ต่อไป
สุดท้ายนี้ โค้ชหนุ่มได้ปิดท้ายคำ ๆ นึงว่า “MIND MOVE MATTER” จิต เคลื่อน สสาร ด้วยความคิดของเรา ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้ เพราะความคิดของเราทรงพลังมาก วันนี้คุณคิดกับคนรอบตัวยังไง จิตความคิดจะพาเราไปได้ หัวใจสำคัญมีอยู่แค่ว่า ขอแค่ทุกครั้งที่คิด จดจ่อตั้งใจกับมัน คุณจะทำได้ คนธรรมดานี่แหละ ทุกครั้งที่คิด ขอให้คุณทำด้วย ลงมือทำมัน เปิดประตูทำมันไปเรื่อย ๆ ถ้าตันก็พักก่อนได้ แต่ไม่หยุดคิด ไม่หยุดลงมือทำ เพื่อให้คุณคิดใหญ่ ทำจริง มีทถกสิ่งที่ตั้งใจ
ติดตามชมย้อนหลังของเซสชันนี้ได้ที่ https://creativetalkonline.com
สำหรับใครที่ยังไม่มีบัตรเข้าชม สามารถรอติดตามบัตร Rerun ได้ที่
