เจาะ 6 พฤติกรรมผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนเกมการตลาดปี 2025 ในงาน PUNCH ABOVE THE MARKET

“ผู้บริโภคคือแก่นสำคัญของการเติบโต” รวบรวม 6 กลุ่มผู้บริโภค ซึ่งเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคสำคัญในปี 2025 นี้ โดย IPG Mediabrands ในงาน PUNCH ABOVE THE MARKET

Last updated on ก.ค. 29, 2025

Posted on ก.ค. 29, 2025

ในโลกธุรกิจที่หมุนเร็วและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การ “คิดให้ไกลกว่า” และ “ขยับให้เหนือกว่า” คู่แข่งคือกุญแจสำคัญสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดด 

โดย IPG Mediabrands ขอเรียนเชิญท่านเข้าร่วมงานสัมมนา ภายใต้หัวข้อ “Punch Above the Market – Moves that outsmart the market” งานนี้จะรวบรวมแนวคิดเชิงกลยุทธ์ ข้อมูลเชิงลึก และอินไซต์ล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ พร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนกับผู้นำความคิดในแวดวงสื่อและการตลาด

นักการตลาดในยุคนี้ต้องเผชิญกับแรงกดดันสูง งบประมาณที่ลดลง และความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น งานนี้ถูกออกแบบขึ้นด้วยเป้าหมายเดียวที่ชัดเจน เพื่อจุดประกายและพาคุณก้าวสู่ความสำเร็จที่แตกต่าง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งการตลาดไปด้วยกัน

ดังนั้น “ผู้บริโภคคือแก่นสำคัญของการเติบโต”

เราได้รวบรวม 6 กลุ่มผู้บริโภค ซึ่งเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคสำคัญในปี 2025 นี้

กลุ่มที่ 1: THE SHOPTIMIZER คนซื้อแบบชาญฉลาด

คนกลุ่มนี้มีความฉลาดที่จะใช้เงิน ซึ่งประกอบไปด้วย 76% กระจายไปตัวไปหลายส่วน ดังนั้นเราอาจมีลูกค้ากลุ่มนี้สูง คนส่วนใหญ่ของไทยที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า พวกเขาไม่ได้ซื้อน้อยลง แต่เลือกซื้ออย่างฉลาดขึ้น

คนกลุ่ม THE SHOPTIMIZER พวกเขาไม่ได้ไม่มีเงิน ไม่ได้ต่อต้านทุนนิยม แต่เป็นกลุ่มที่ “คิดก่อนใช้” ทุกครั้ง และท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่มผู้บริโภคแบบ “THE SHOPTIMIZER” กำลังคิดใหม่เรื่องการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โดยปัจจัยกระตุ้นให้คนใช้จ่ายน้อยลง (Triggers to spend less) ได้แก่

  • เศรษฐกิจในประเทศไทยแย่ลง
  • เริ่มตระหนักถึงการใช้จ่ายเกินจำเป็น
  • สถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน
  • ต้องการเก็บออม / ลงทุนมากขึ้น
  • หนี้สินส่วนตัวเพิ่มขึ้น

ข้อมูลจาก IPG Mediabrand x milieu ระบุถึง THE SHOPTIMIZER ไว้ว่า

  • 77% ลดการใช้จ่ายลงอย่างน้อย 10%
  • 48% ช้อปออนไลน์ สัปดาห์ละ 1 ครั้งขึ้นไป (เทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งประเทศที่ 35%)
  • 44% ช้อปมากกว่า 1,000 บาทต่อเดือน (เทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งประเทศที่ 37%)

กลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มจะใช้จ่ายเพิ่มในปีหน้า แม้ของจำเป็นยังมาก่อน แต่ THE SHOPTIMIZER พร้อมจ่ายเพิ่มกับสิ่งที่ “มีความหมายจริง ๆ”

เปลี่ยน “ความลังเล” ให้กลายเป็น “ยอดขาย” แบรนด์ต้องมองให้ออกว่า Shoptimizer กำลังสนใจสินค้า และกระตุ้นด้วย “สิ่งที่ใช่” ในเวลาที่เหมาะสม

  • Marketplace – เช็คโปรโมชั่น
  • Social & Reviews – เช็คคุณภาพสินค้า
  • หน้าร้านจริง (Offline Stores) – ดูของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ

โดยสรุปของกลุ่ม THE SHOPTIMIZER 3 ข้อสำคัญคือ

  • ไม่ได้ไม่มีเงิน แค่คิดก่อนใช้ (Not Broke, Just Calculated) แบรนด์พรีเมียมก็ชนะได้ ถ้าพิสูจน์ให้เห็นว่าคุ้มจริง
  • ให้คุณค่า (Value-Driven) เน้นสิ่งที่มีความหมาย เช่น คุณภาพ จุดยืน หรือภาพลักษณ์ที่ตรงกับตัวตนลูกค้า ไม่ใช่แค่ลดราคา
  • ตะกร้ายืดหยุ่น (Dynamic Basket) ใช้โซลูชัน AI ของ IPG เพื่อระบุกลุ่ม Shoptimizers ปรับข้อความให้เหมาะกับแต่ละคน และกระตุ้นให้เกิดการซื้อ

กลุ่มที่ 2: THE RESTARTERS นักเริ่มต้นใหม่ ผู้เปลี่ยนเกมที่ไม่หยุดนิ่ง เข้มแข็ง

THE RESTARTERS คือนักเริ่มต้นใหม่ ผู้เปลี่ยนเกมที่ไม่หยุดนิ่ง เข้มแข็ง มักมองหาเส้นทางใหม่อยู่เสมอ ต่อให้สภาพเศรษฐกิจไม่ดี เขาก็จะมองหาสิ่งที่ดีกว่าเสมอ และพร้อมลุกขึ้นใหม่เสมอ 

คนกลุ่ม THE RESTARTERS ไม่ได้มองความล้มเหลว แต่มักมองว่าทุกครั้งคือการเริ่มใหม่ คนจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ใช่เพราะเบื่อ แต่เพราะแรงผลักดันที่อยากออกแบบชีวิตของตัวเองให้ตรงกับสิ่งที่เชื่อ

ข้อมูลพฤติกรรมของกลุ่ม THE RESTARTERS

  • 89% เคยรู้สึกหมดไฟกับสิ่งที่ทำ หรือสิ่งที่เป็นอยู่
  • 79% ขับเคลื่อนตัวเองด้วยเป้าหมายในการพัฒนาตัวเอง
  • 70% เปิดใจรับโอกาสใหม่ ๆ พร้อมลุยกับสิ่งที่ไม่เคยทำ
  • ในส่วนข้อมูลพื้นที่คนกลุ่มนี้ โดย 38% ของกลุ่ม Restarter อยู่ในกรุงเทพฯ

พลังในการออกแบบชีวิตใหม่ ของคนกลุ่มนี้ มีจิตวิญญาณของผู้เริ่มต้นใหม่ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องวัย โดย

  • 40% Gen Y เมื่อหลุดจากชีวิตวนลูปเดิม ๆ พวกเขาค้นพบ เป้าหมายที่แท้จริง ในสิ่งที่หลงใหล
  • 26% Gen Z จากงานประจำสู่อิสระทางความคิด ต่อยอดทักษะ สร้างธุรกิจของตัวเอง- 21% Gen X ถูกเลิกจ้าง แต่ไม่หมดไฟ เปิดใจเริ่มต้นใหม่ ผ่านประสบการณ์และการเรียนรู้ที่ไม่คาดคิด
  • 13% Silver Gen

คนกลุ่ม THE RESTARTERS พวกเขาไม่ได้แค่ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่า แต่กำลังลงมือสร้างเส้นทางใหม่ ด้วยแรงขับจาก เป้าหมายที่ชัดเจน โดยมีสถิติที่น่าสนใจดังนี้

EMPOWERED TO CARE

  • 74% ต้องการดูแลตัวเองให้ดี
  • 69% ต้องการมีรายได้สูงสุด

EVERY SECOND COUNTS

  • 59% อยากมีสมดุลระหว่างงานกับชีวิต

MASTERING OWN DESTIN

  • 56% ต้องการความมั่นคงในชีวิต
  • 37% กล้าที่จะออกจาก “พื้นที่ปลอดภัย” ของตัวเอง

คนกลุ่ม THE RESTARTERS ต้องการเริ่มต้นใหม่อย่างจริงจัง ต้องการแรงผลักดัน เพื่อก้าวไปสู่จุดหมายใหม่ โดยให้ความสำคัญกับ MONEY ถึง 76% มองหาโอกาสทางการเงินใหม่ ๆ รวมไปถึง สุขภาพจิตใหม่ใกล้ฉัน  (MENTAL) ที่มีมากถึง 70% ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพใจและความเป็นอยู่ที่ดี

ความรู้และทักษะที่ตรงใจกลุ่ม THE RESTARTERS

  • 47% การลงทุน (Investment)

สนใจเนื้อหาเกี่ยวกับการวางแผนการเงินและโมเดลธุรกิจ

  • 36% ทักษะยุคดิจิทัล (Digital-Age Skills)
    เช่น การใช้เครื่องมือออกแบบออนไลน์หรือแพลตฟอร์มดิจิทัล
  • 33% สุขภาพใจ (Mental Well-Being)
    เช่น คอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ หรือให้แนวคิดชีวิต
  • 30% การตลาด (Marketing)
    เช่น กลยุทธ์การตลาดที่เข้าใจผู้บริโภคผ่านประสาทสัมผัส
  • 27% เนื้อหาเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Story)
    เช่น เรื่องราวของการปลูกผักหรือวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับโลก

3 พลังขับเคลื่อนหลักของกลุ่ม THE RESTARTERS

Search (ค้นหา)

มากถึง 54% มักค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอ ทั้งการ ค้นหาผ่านโซเชียลมีเดีย, ค้นหาผ่าน Google, ค้นหาผ่าน AI

Social Media (โซเชียลมีเดีย)

โดย 68% ใช้มากกว่าแค่เพื่อความบันเทิง เพราะช่วยให้ได้รับข้อมูลและมุมมองใหม่ ๆ เช่น YouTube, Facebook, TikTok เป็นต้น

Social Proof (แรงบันดาลใจจากคนรอบตัว)

โดย 45% ได้แรงจูงใจจากคนใกล้ตัว หรือคนที่มีประสบการณ์

โดยสรุป 3 เรื่องสำคัญของ THE RESTARTERS 

  • Ready for a Fresh Brand Start พร้อมเปิดรับแบรนด์ใหม่ ๆ กลุ่ม THE RESTARTERS มักเปิดใจให้แบรนด์ใหม่ ๆ เพราะพวกเขากำลังนิยามอาชีพและเป้าหมายชีวิตใหม่อีกครั้ง

  • Life Enabler Needed ต้องการแบรนด์ที่ช่วยผลักดันให้เดินหน้าชีวิตได้ แบรนด์สามารถส่งพลังให้กับพวกเขาผ่าน การสนับสนุนด้านการเงิน, กำลังใจ, และ คอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ

  • Content is Compass คอนเทนต์เป็นเหมือนเข็มทิศนำทาง คอนเทนต์คือสิ่งที่พาเขาเดินทางไปข้างหน้า

แบรนด์จึงต้องมีตัวตนอยู่ในช่องทางการค้นหา โซเชียลมีเดีย และคำบอกเล่า (รีวิว)


กลุ่มที่ 3: NEXT-WAVE TOURISTS นี่คือกลุ่มนักท่องเที่ยวระลอกใหม่

คนเที่ยวอาจน้อยลง แต่โอกาสยังมีอยู่ มาชิงใจพวกเขากันเถอะ

พลังเศรษฐกิจในวันนี้นักท่องเที่ยวจีนลดลง โดย ม.ค.–พ.ค. 2025- นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 1.96 ล้านคน (ลดลง 32.7% เมื่อเทียบรายปี)

  • ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ลดตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนทั้งปี 2025 จาก 7 ล้านคน เหลือ 5 ล้านคน
  • จำนวนนักท่องเที่ยวจีนต่อวันเฉลี่ย 5,833 คน (ก่อนโควิดอยู่ที่ ~15,000–20,000 คนต่อวัน)

ภาพรวมที่นักโฆษณาไทยควรเข้าใจ

  • นักท่องเที่ยวจีนยังคงสร้างรายได้ให้ประเทศไทยประมาณ 1.2–1.5% ของ GDP
  • ข้อมูลเฉลี่ยจากธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2023 รายละเอียดการใช้จ่าย (Spending Breakdown)
    • ที่พัก: 36%
    • อาหารและเครื่องดื่ม: 23%
    • ช้อปปิ้ง: 18%
    • การเดินทางภายในประเทศ: 10%
    • ความบันเทิงและอื่น ๆ: 23%

อีกข้อมูลที่น่าสนใจของคนจีนที่พำนักในประเทศไทย

  • จำนวนประมาณ 60,000–90,000 คน
  • โดยเป็นผู้พำนักระยะยาว (Long-term residents)
  • Key Hubs เมืองหลักที่อาศัยอยู่ ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่ และ ภูเก็ต
  • ความสนใจหลักคือ การพักผ่อนระดับพรีเมียม, สุขภาพและความเป็นอยู่, การช้อปปิ้ง

หากใช้ช่องทางแพลตฟอร์มเหล่านี้ คุณจะไม่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ เช่น Google, Meta, Instagram, YouTube, TripAdvisor, Amazon เป็นต้น

แต่กลับกันหากแบรนด์เข้าถึงคนจีนได้ ต้องใช้ช่องทางเหล่านี้

  • WeChat – แอปครอบจักรวาล ใช้ได้ทั้งแชท จ่ายเงิน และโซเชียล
  • Douyin – TikTok เวอร์ชันจีน
  • Xiaohongshu – โซเชียลสายไลฟ์สไตล์ + อีคอมเมิร์ซ
  • Huawei – แพลตฟอร์มที่ทำได้มากกว่าแค่มือถือ
  • Bilibili – คอมมูนิตี้วิดีโอของกลุ่มวัยรุ่นจีน
  • KOLs, KOCs และ Virtual Influencers – คอนเทนต์จากผู้คนจริง ๆ หรือแบรนด์ที่ดูเหมือนคนจริง
  • JD & Taobao, Pinduoduo – แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ + ไลฟ์ขายของ
  • Ctrip, Tongcheng, Mafengwo – แพลตฟอร์มท่องเที่ยว
  • Xiaohongshu, Douyin – เป็นเหมือนเครื่องมือค้นหาเรื่องเที่ยวสำหรับผู้ใช้ชาวจีน

กลุ่มที่ 4: THE DEEP 'Z' 

หรือกลุ่ม Gen Z ลึกซึ้ง คน Gen Z ที่แสวงหาความหมาย มากกว่าความฮือฮา นี่คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คิดลึกซึ้งเกี่ยวกับการมีอยู่ของตัวเองบนโลกใบนี้ และต้องการอิสระในการเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง จากผลสำรวจของกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16–29 ปี

โดยข้อมูลระบุไว้ว่า 92% ของคน Gen Z กำลังตามหาความหมายของชีวิต

LIFESTYLE IS ILLUSION ไลฟ์สไตล์คือภาพลวงตาที่แบรนด์สร้างขึ้น เพื่อให้คนรู้สึกอยากเป็นคนอื่น แต่ Gen Z มองทะลุสิ่งนั้น พวกเขาไม่ได้ต้องการแค่ชีวิตที่ดูดี แต่ต้องการชีวิตที่รู้สึกดีจริง ๆ

อยากเข้าใจคนรุ่นใหม่ เริ่มจากการเข้าใจเรื่องของ N-Po Generation (N 포 세대) คือคนรุ่นใหม่ที่ยอม “ถอย” หรือ “ยอมแพ้” กับหลายเรื่องในชีวิต เช่น การแต่งงาน, การมีบ้านเป็นของตัวเอง, การมีงานมั่นคง, การมีลูก หรือแม้แต่การดูแลรูปลักษณ์ตัวเอง ซึ่งในไทยก็เผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจคล้ายกับในเกาหลี โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เริ่ม “ถอดใจ” จากเป้าหมายสำคัญในชีวิตหลายเรื่อง เช่น การมีบ้าน, การแต่งงาน หรือการสร้างครอบครัว เพราะเจอกับ แรงกดดันด้านรายได้ หนี้สิน และค่าครองชีพที่สูงขึ้น

การปล่อยวางความทะเยอทะยาน แล้วหันมาใช้ชีวิตแบบขี้เกียจระยะยาว พวกเขาแสวงหาความมั่งคั่งและสุขภาพที่ดี… เพื่อจะได้ “ขี้เกียจอย่างมีคุณภาพ” ได้นานขึ้นอีกหน่อย โดยกิจกรรมที่คนรุ่นใหม่ใช้เวลาไปกับการพักใจจากเป้าหมายเดิม ๆ

  • 45% วางแผนการเงิน
  • 37% ดูแลสุขภาพจิต
  • 35% ออกกำลังกาย / เล่นกีฬา
  • 31% อ่านหนังสือ / พ็อกเกตบุ๊กเพื่อเรียนรู้
  • 29% เดินทางเพื่อเปิดมุมมองใหม่
  • 28% พัฒนาทักษะดิจิทัล (เช่น การเขียนโค้ด AI ฯลฯ)
  • 25% ฝึกงานฝีมือ / ศิลปะ
  • 24% เรียนรู้การขายและการตลาด
  • 23% ทำเพลง / สร้างเสียง
  • 20% สร้างคอนเทนต์ / เขียนบล็อก
  • 17% ปลูกต้นไม้ / ทำกิจกรรมใกล้ชิดธรรมชาติ
  • 12% โยคะ / สมาธิ
  • 6% ไม่ทำอะไรเลย
  • 4% ทำอย่างอื่น

ดารามีอิทธิพลต่อความสุข และการตัดสินใจของคนทั่วไป จากการสำรวจว่า “อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คนเชื่อถืออินฟลูเอนเซอร์หรือครีเอเตอร์” โดยเรียงจากการตัดสินใจของคนรุ่นใหม่ ดังนี้

  • 43%: คนที่สื่อสารจริงใจ และพูดให้รู้สึกว่า “เข้าใจเรา”
  • 40%: คนที่มีประสบการณ์ตรงในเรื่องที่พูด
  • 43%: ผู้เชี่ยวชาญในด้านที่เราสนใจ
  • 34%: อินฟลูเอนเซอร์ที่พูดความจริง
  • 28%: ศิลปินหรือคนดังที่เราชื่นชอบ

Delusion is the Solution (Delulu is the Solulu) หนึ่งในวลีที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม GenZ ถึงเรื่องของการเพ้อฝัน อาจเป็นคำตอบ การมองโลกในแง่บวกเกินจริงอาจเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่เอาตัวรอดจากความเครียดในโลกจริง ในวันนี้ GenZ สนุกกับ Pop Culture แบบที่ไม่ต้องจริงจัง เช่น หัวเราะกับมีมงี่เง่า หรือกว่า 62% ชอบคอนเทนต์ที่เป็นมีมหรือไวรัล

ร้องไห้กับเพลงป็อป

  • 81% ฟังเพลงป็อป
  • 63% ฟัง K-pop

ตกหลุมรักตัวละครในจินตนาการ

  • 65% ชอบแนวแฟนตาซี
  • 60% ชอบแนวโรแมนติก
  • 59% ชอบอนิเมะ

Close Friends. Alt accounts. Private stories. คนรุ่นใหม่พวกเขาใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแชร์เรื่องราวเฉพาะกับเพื่อนสนิทหรือคนที่ไว้ใจได้

ใช้เพื่อเชื่อมต่อกับคนอื่น

  • Instagram, X, TikTok, YouTube, Facebook

ใช้เพื่อผ่อนคลาย

  • Instagram, TikTok, YouTube, Facebook

ใช้ติดตามข่าวสาร

  • X, Instagram, TikTok, YouTube

ใช้เพื่อความบันเทิง

  • Instagram, TikTok, YouTube, Facebook

กลุ่มที่ 5: THE EDGY AGING รุ่นใหญ่หัวทันสมัย 

กลุ่มผู้สูงวัยยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตในช่วงเวลาทองของตัวเองอย่างมั่นใจและอยากรู้อยากเห็น EDGY AGING ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์หรือแฟชั่น แต่คือ ทัศนคติที่มั่นใจ และไลฟ์สไตล์ที่หยุดไม่อยู่

EDGY AGING วัยเก๋าทันโลก กลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป ที่เปิดรับผู้คนใหม่ ๆ ไอเดียใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ พร้อมอัปเดตตัวเองให้ทันยุค เพื่อใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าเสมอ

ในปี 2019 มีจำนวน 2 ล้านคนจากทั้งหมด 15.7 ล้านคน อายุ 55 ปีขึ้นไป แต่ล่าสุดปี 2025 มีจำนวน 5.6 ล้านคนจากทั้งหมด 18.6 ล้านคน อายุ 55 ปี นับว่าเป็นกลุ่มที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

High Value Audience to Capitalize Thailand’s Aged Society
กลุ่มผู้บริโภคคุณค่าสูง ในสังคมผู้สูงอายุของไทย

กลุ่มผู้สูงวัยในยุคใหม่ คือกลุ่มที่กระฉับกระเฉง มีสมดุลระหว่างการดูแลตัวเอง และผูกพันกับครอบครัว โดย 3 เรื่องที่น่าสนใจคือ

พึ่งพาตัวเองได้ (Self Reliance)

  • 71% มีรายได้ระดับกลางขึ้นไป
  • 59% ยังทำงานอยู่

ใกล้ชิดครอบครัว (Yet Connected)

  • 93% อาศัยอยู่กับครอบครัว
  • 80% เลี้ยงสัตว์

ใส่ใจสุขภาพ (In-Charge of Wellbeing)

  • 60% มีภาวะสุขภาพเรื้อรัง (NCDs)
  • 74% ประเมินว่าตนเองมีสุขภาพดีถึงดีมาก

Reward Shopping, Active Sharing คนกลุ่มนี้ซื้อของอย่างมีรางวัล แบ่งปันประสบการณ์อย่างกระตือรือร้น โดยข้อมูลระบุไว้ว่า

  • 66% ไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากนัก ยังซื้อของจำเป็นตามปกติ
  • 2 เท่า พร้อมจ่ายเพิ่มเพื่อสิ่งที่มีความหมาย
  • 78% แบ่งปันประสบการณ์การใช้งานสินค้าอย่างจริงจัง

หมวดสินค้าที่ผู้สูงวัยยินดีจ่ายแพงขึ้น

  • ดูแลสุขภาพ (Health Care) - 69%
  • อาหารและการกิน (Food & Dining) - 62%
  • ของใช้ส่วนตัว (Personal Care) - 48%
  • การเงินและการลงทุน (Finance & Investment) - 46%
  • ดูแลสัตว์เลี้ยง (Pet Care) - 41%
  • ของใช้ภายในบ้าน (Home Care) - 34%
  • เทคโนโลยี / อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Gadget / IT) - 25%
  • ท่องเที่ยวในประเทศ (Domestic Travel) - 22%
  • เครื่องใช้ไฟฟ้า (Home Appliance) - 17%
  • ของซ่อมแซม / DIY (DIY / Maintenance) - 13%

โดยสรุปพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่ม Edgy Aging

  • มีกำลังซื้อสูง (High Spending Power) มีศักยภาพในการใช้จ่ายและตั้งใจซื้อ โดยเฉพาะในสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพ ความสุข และอิสรภาพส่วนตัว
  • เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง (Prime Selection) ใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ด้วยการเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ ตั้งใจออกแบบชีวิต และเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเองอย่างรอบคอบ
  • ตัดสินใจจากความเชื่อมั่น (Trust-Driven Decision) สนใจสื่อที่เชื่อถือได้ และตัดสินใจจากคำแนะนำของคนในชุมชนที่ไว้ใจ

กลุ่มที่ 6: THE RURAL GOLD CLASS ชนชั้นทองจากต่างจังหวัด ผู้ทรงอิทธิพลชนบท 

กลุ่มคนต่างจังหวัดระดับพรีเมียม ที่ภูมิใจ เชื่อมต่อโลกดิจิทัล และโน้มน้าวใจเก่ง

ข้อเท็จจริงที่หลายคนอาจไม่รู้ โดยคนไทยส่วนใหญ่ (63%) ยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดและมีคนกว่า 8 ล้านคน ที่จัดอยู่ในกลุ่ม รายได้สูง

THE RURAL GOLD CLASS พวกเขาคือใคร

  • กลุ่มคนอายุ 35 ปีขึ้นไป อยู่ในกลุ่ม SES A+ และกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่านั้น
  • 76% ให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” มากกว่าราคาเสมอ
  • 70% เชื่อว่าการลงทุนช่วยเพิ่มความมั่งคั่ง
  • 56% เป็นกลุ่มที่จัดการการเงินของตัวเองได้ดี

คนกลุ่มนี้เป็น Influencer by Nature เป็นอินฟลูเอนเซอร์โดยธรรมชาติ

  • 56% บอกว่า คนรอบตัวมักถามความเห็นก่อนตัดสินใจซื้อหรือเลือกสิ่งต่าง ๆ
  • 69% ชอบแนะนำสินค้า/บริการที่ใช้แล้วดีให้เพื่อนหรือคนในครอบครัว

Crave Connection, trust star signs, and the NEED TO BE SEEN คนกลุ่มนี้โหยหาการเชื่อมโยง เชื่อในดวง และต้องการเป็นที่สนใจ โดย 56% ชอบพบปะและใช้เวลากับคนใหม่ ๆ

O2O Shopping พฤติกรรมการช้อปปิ้งทั้งออนไลน์และออฟไลน์

  • 75% ซื้อของออนไลน์
  • 70% ซื้อของตามตลาดนัด
  • 63% ร้านสะดวกซื้อ
  • 62% ร้านโชห่วย
  • 55% ร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต / ซูเปอร์มาร์เก็ต
  • 54% ห้างสรรพสินค้า
  • 40% ของผู้บริโภคมีงบช้อปปิ้งออนไลน์เดือนละ 1,000–3,000 บาท และงบสูงสุดที่พร้อมจ่ายต่อเดือนคือ 9,000 บาท

วัฒนธรรมท้องถิ่นและงานเทศกาล คือสิ่งที่ชนะใจคนกลุ่มนี้

  • โดย 87% เคยไปร่วมงานเทศกาลในท้องถิ่น หลายคนรู้สึกภูมิใจและสนับสนุนกิจกรรมเหล่านี้อย่างจริงจัง

ยังไม่หลับ! คนกลุ่มนี้มักขัดกับภาพจำที่คิดว่าหลับเร็ว แต่จริง ๆ แล้ว 50% ยังไม่หลับตอน 3 ทุ่ม และยังเลื่อนฟีด ดูทีวี และช้อปออนไลน์ต่อ

โดยสรุป กลยุทธ์สำหรับเข้าถึง THE RURAL GOLD CLASS

  • สื่อ O2O และการยึดช่วงเวลา Prime Time กลางคืน

ใช้สื่อทีวีและไลฟ์สดในช่วงเวลาคนดูเยอะ พร้อมเชื่อมต่อโลกออนไลน์กับออฟไลน์ผ่าน QR Code

ความไว้ใจจากชุมชน

ร่วมมือกับบุคคลที่มีอิทธิพลในชุมชนท้องถิ่น และเน้นเสียงจากผู้บริโภคตัวจริง

เนื้อหาที่คนอยากแชร์

ใช้การขายแบบไลฟ์, รีวิวจากประสบการณ์จริง และเนื้อหาที่มีอารมณ์ขัน เพื่อให้เชื่อมต่อกับชีวิตประจำวันของพวกเขา

trending trending sports recipe

Share on

Tags