ในโลกธุรกิจที่หมุนเร็วและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การ “คิดให้ไกลกว่า” และ “ขยับให้เหนือกว่า” คู่แข่งคือกุญแจสำคัญสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดด
โดย IPG Mediabrands ขอเรียนเชิญท่านเข้าร่วมงานสัมมนา ภายใต้หัวข้อ “Punch Above the Market – Moves that outsmart the market” งานนี้จะรวบรวมแนวคิดเชิงกลยุทธ์ ข้อมูลเชิงลึก และอินไซต์ล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ พร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนกับผู้นำความคิดในแวดวงสื่อและการตลาด
นักการตลาดในยุคนี้ต้องเผชิญกับแรงกดดันสูง งบประมาณที่ลดลง และความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น งานนี้ถูกออกแบบขึ้นด้วยเป้าหมายเดียวที่ชัดเจน เพื่อจุดประกายและพาคุณก้าวสู่ความสำเร็จที่แตกต่าง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งการตลาดไปด้วยกัน
ดังนั้น “ผู้บริโภคคือแก่นสำคัญของการเติบโต”
เราได้รวบรวม 6 กลุ่มผู้บริโภค ซึ่งเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคสำคัญในปี 2025 นี้
กลุ่มที่ 1: THE SHOPTIMIZER คนซื้อแบบชาญฉลาด
คนกลุ่มนี้มีความฉลาดที่จะใช้เงิน ซึ่งประกอบไปด้วย 76% กระจายไปตัวไปหลายส่วน ดังนั้นเราอาจมีลูกค้ากลุ่มนี้สูง คนส่วนใหญ่ของไทยที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า พวกเขาไม่ได้ซื้อน้อยลง แต่เลือกซื้ออย่างฉลาดขึ้น
คนกลุ่ม THE SHOPTIMIZER พวกเขาไม่ได้ไม่มีเงิน ไม่ได้ต่อต้านทุนนิยม แต่เป็นกลุ่มที่ “คิดก่อนใช้” ทุกครั้ง และท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่มผู้บริโภคแบบ “THE SHOPTIMIZER” กำลังคิดใหม่เรื่องการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โดยปัจจัยกระตุ้นให้คนใช้จ่ายน้อยลง (Triggers to spend less) ได้แก่
- เศรษฐกิจในประเทศไทยแย่ลง
- เริ่มตระหนักถึงการใช้จ่ายเกินจำเป็น
- สถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน
- ต้องการเก็บออม / ลงทุนมากขึ้น
- หนี้สินส่วนตัวเพิ่มขึ้น
ข้อมูลจาก IPG Mediabrand x milieu ระบุถึง THE SHOPTIMIZER ไว้ว่า
- 77% ลดการใช้จ่ายลงอย่างน้อย 10%
- 48% ช้อปออนไลน์ สัปดาห์ละ 1 ครั้งขึ้นไป (เทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งประเทศที่ 35%)
- 44% ช้อปมากกว่า 1,000 บาทต่อเดือน (เทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งประเทศที่ 37%)
กลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มจะใช้จ่ายเพิ่มในปีหน้า แม้ของจำเป็นยังมาก่อน แต่ THE SHOPTIMIZER พร้อมจ่ายเพิ่มกับสิ่งที่ “มีความหมายจริง ๆ”
เปลี่ยน “ความลังเล” ให้กลายเป็น “ยอดขาย” แบรนด์ต้องมองให้ออกว่า Shoptimizer กำลังสนใจสินค้า และกระตุ้นด้วย “สิ่งที่ใช่” ในเวลาที่เหมาะสม
- Marketplace – เช็คโปรโมชั่น
- Social & Reviews – เช็คคุณภาพสินค้า
- หน้าร้านจริง (Offline Stores) – ดูของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
โดยสรุปของกลุ่ม THE SHOPTIMIZER 3 ข้อสำคัญคือ
- ไม่ได้ไม่มีเงิน แค่คิดก่อนใช้ (Not Broke, Just Calculated) แบรนด์พรีเมียมก็ชนะได้ ถ้าพิสูจน์ให้เห็นว่าคุ้มจริง
- ให้คุณค่า (Value-Driven) เน้นสิ่งที่มีความหมาย เช่น คุณภาพ จุดยืน หรือภาพลักษณ์ที่ตรงกับตัวตนลูกค้า ไม่ใช่แค่ลดราคา
- ตะกร้ายืดหยุ่น (Dynamic Basket) ใช้โซลูชัน AI ของ IPG เพื่อระบุกลุ่ม Shoptimizers ปรับข้อความให้เหมาะกับแต่ละคน และกระตุ้นให้เกิดการซื้อ
กลุ่มที่ 2: THE RESTARTERS นักเริ่มต้นใหม่ ผู้เปลี่ยนเกมที่ไม่หยุดนิ่ง เข้มแข็ง
THE RESTARTERS คือนักเริ่มต้นใหม่ ผู้เปลี่ยนเกมที่ไม่หยุดนิ่ง เข้มแข็ง มักมองหาเส้นทางใหม่อยู่เสมอ ต่อให้สภาพเศรษฐกิจไม่ดี เขาก็จะมองหาสิ่งที่ดีกว่าเสมอ และพร้อมลุกขึ้นใหม่เสมอ
คนกลุ่ม THE RESTARTERS ไม่ได้มองความล้มเหลว แต่มักมองว่าทุกครั้งคือการเริ่มใหม่ คนจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ใช่เพราะเบื่อ แต่เพราะแรงผลักดันที่อยากออกแบบชีวิตของตัวเองให้ตรงกับสิ่งที่เชื่อ
ข้อมูลพฤติกรรมของกลุ่ม THE RESTARTERS
- 89% เคยรู้สึกหมดไฟกับสิ่งที่ทำ หรือสิ่งที่เป็นอยู่
- 79% ขับเคลื่อนตัวเองด้วยเป้าหมายในการพัฒนาตัวเอง
- 70% เปิดใจรับโอกาสใหม่ ๆ พร้อมลุยกับสิ่งที่ไม่เคยทำ
- ในส่วนข้อมูลพื้นที่คนกลุ่มนี้ โดย 38% ของกลุ่ม Restarter อยู่ในกรุงเทพฯ
พลังในการออกแบบชีวิตใหม่ ของคนกลุ่มนี้ มีจิตวิญญาณของผู้เริ่มต้นใหม่ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องวัย โดย
- 40% Gen Y เมื่อหลุดจากชีวิตวนลูปเดิม ๆ พวกเขาค้นพบ เป้าหมายที่แท้จริง ในสิ่งที่หลงใหล
- 26% Gen Z จากงานประจำสู่อิสระทางความคิด ต่อยอดทักษะ สร้างธุรกิจของตัวเอง- 21% Gen X ถูกเลิกจ้าง แต่ไม่หมดไฟ เปิดใจเริ่มต้นใหม่ ผ่านประสบการณ์และการเรียนรู้ที่ไม่คาดคิด
- 13% Silver Gen
คนกลุ่ม THE RESTARTERS พวกเขาไม่ได้แค่ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่า แต่กำลังลงมือสร้างเส้นทางใหม่ ด้วยแรงขับจาก เป้าหมายที่ชัดเจน โดยมีสถิติที่น่าสนใจดังนี้
EMPOWERED TO CARE
- 74% ต้องการดูแลตัวเองให้ดี
- 69% ต้องการมีรายได้สูงสุด
EVERY SECOND COUNTS
- 59% อยากมีสมดุลระหว่างงานกับชีวิต
MASTERING OWN DESTIN
- 56% ต้องการความมั่นคงในชีวิต
- 37% กล้าที่จะออกจาก “พื้นที่ปลอดภัย” ของตัวเอง
คนกลุ่ม THE RESTARTERS ต้องการเริ่มต้นใหม่อย่างจริงจัง ต้องการแรงผลักดัน เพื่อก้าวไปสู่จุดหมายใหม่ โดยให้ความสำคัญกับ MONEY ถึง 76% มองหาโอกาสทางการเงินใหม่ ๆ รวมไปถึง สุขภาพจิตใหม่ใกล้ฉัน (MENTAL) ที่มีมากถึง 70% ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพใจและความเป็นอยู่ที่ดี
ความรู้และทักษะที่ตรงใจกลุ่ม THE RESTARTERS
- 47% การลงทุน (Investment)
สนใจเนื้อหาเกี่ยวกับการวางแผนการเงินและโมเดลธุรกิจ
- 36% ทักษะยุคดิจิทัล (Digital-Age Skills)
เช่น การใช้เครื่องมือออกแบบออนไลน์หรือแพลตฟอร์มดิจิทัล - 33% สุขภาพใจ (Mental Well-Being)
เช่น คอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ หรือให้แนวคิดชีวิต - 30% การตลาด (Marketing)
เช่น กลยุทธ์การตลาดที่เข้าใจผู้บริโภคผ่านประสาทสัมผัส - 27% เนื้อหาเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Story)
เช่น เรื่องราวของการปลูกผักหรือวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับโลก
3 พลังขับเคลื่อนหลักของกลุ่ม THE RESTARTERS
Search (ค้นหา)
มากถึง 54% มักค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอ ทั้งการ ค้นหาผ่านโซเชียลมีเดีย, ค้นหาผ่าน Google, ค้นหาผ่าน AI
Social Media (โซเชียลมีเดีย)
โดย 68% ใช้มากกว่าแค่เพื่อความบันเทิง เพราะช่วยให้ได้รับข้อมูลและมุมมองใหม่ ๆ เช่น YouTube, Facebook, TikTok เป็นต้น
Social Proof (แรงบันดาลใจจากคนรอบตัว)
โดย 45% ได้แรงจูงใจจากคนใกล้ตัว หรือคนที่มีประสบการณ์
โดยสรุป 3 เรื่องสำคัญของ THE RESTARTERS
-
Ready for a Fresh Brand Start พร้อมเปิดรับแบรนด์ใหม่ ๆ กลุ่ม THE RESTARTERS มักเปิดใจให้แบรนด์ใหม่ ๆ เพราะพวกเขากำลังนิยามอาชีพและเป้าหมายชีวิตใหม่อีกครั้ง
-
Life Enabler Needed ต้องการแบรนด์ที่ช่วยผลักดันให้เดินหน้าชีวิตได้ แบรนด์สามารถส่งพลังให้กับพวกเขาผ่าน การสนับสนุนด้านการเงิน, กำลังใจ, และ คอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ
-
Content is Compass คอนเทนต์เป็นเหมือนเข็มทิศนำทาง คอนเทนต์คือสิ่งที่พาเขาเดินทางไปข้างหน้า
แบรนด์จึงต้องมีตัวตนอยู่ในช่องทางการค้นหา โซเชียลมีเดีย และคำบอกเล่า (รีวิว)
กลุ่มที่ 3: NEXT-WAVE TOURISTS นี่คือกลุ่มนักท่องเที่ยวระลอกใหม่
คนเที่ยวอาจน้อยลง แต่โอกาสยังมีอยู่ มาชิงใจพวกเขากันเถอะ
พลังเศรษฐกิจในวันนี้นักท่องเที่ยวจีนลดลง โดย ม.ค.–พ.ค. 2025- นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 1.96 ล้านคน (ลดลง 32.7% เมื่อเทียบรายปี)
- ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ลดตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนทั้งปี 2025 จาก 7 ล้านคน เหลือ 5 ล้านคน
- จำนวนนักท่องเที่ยวจีนต่อวันเฉลี่ย 5,833 คน (ก่อนโควิดอยู่ที่ ~15,000–20,000 คนต่อวัน)
ภาพรวมที่นักโฆษณาไทยควรเข้าใจ
- นักท่องเที่ยวจีนยังคงสร้างรายได้ให้ประเทศไทยประมาณ 1.2–1.5% ของ GDP
- ข้อมูลเฉลี่ยจากธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2023 รายละเอียดการใช้จ่าย (Spending Breakdown)
- ที่พัก: 36%
- อาหารและเครื่องดื่ม: 23%
- ช้อปปิ้ง: 18%
- การเดินทางภายในประเทศ: 10%
- ความบันเทิงและอื่น ๆ: 23%
อีกข้อมูลที่น่าสนใจของคนจีนที่พำนักในประเทศไทย
- จำนวนประมาณ 60,000–90,000 คน
- โดยเป็นผู้พำนักระยะยาว (Long-term residents)
- Key Hubs เมืองหลักที่อาศัยอยู่ ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่ และ ภูเก็ต
- ความสนใจหลักคือ การพักผ่อนระดับพรีเมียม, สุขภาพและความเป็นอยู่, การช้อปปิ้ง
หากใช้ช่องทางแพลตฟอร์มเหล่านี้ คุณจะไม่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ เช่น Google, Meta, Instagram, YouTube, TripAdvisor, Amazon เป็นต้น
แต่กลับกันหากแบรนด์เข้าถึงคนจีนได้ ต้องใช้ช่องทางเหล่านี้
- WeChat – แอปครอบจักรวาล ใช้ได้ทั้งแชท จ่ายเงิน และโซเชียล
- Douyin – TikTok เวอร์ชันจีน
- Xiaohongshu – โซเชียลสายไลฟ์สไตล์ + อีคอมเมิร์ซ
- Huawei – แพลตฟอร์มที่ทำได้มากกว่าแค่มือถือ
- Bilibili – คอมมูนิตี้วิดีโอของกลุ่มวัยรุ่นจีน
- KOLs, KOCs และ Virtual Influencers – คอนเทนต์จากผู้คนจริง ๆ หรือแบรนด์ที่ดูเหมือนคนจริง
- JD & Taobao, Pinduoduo – แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ + ไลฟ์ขายของ
- Ctrip, Tongcheng, Mafengwo – แพลตฟอร์มท่องเที่ยว
- Xiaohongshu, Douyin – เป็นเหมือนเครื่องมือค้นหาเรื่องเที่ยวสำหรับผู้ใช้ชาวจีน
กลุ่มที่ 4: THE DEEP 'Z'
หรือกลุ่ม Gen Z ลึกซึ้ง คน Gen Z ที่แสวงหาความหมาย มากกว่าความฮือฮา นี่คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คิดลึกซึ้งเกี่ยวกับการมีอยู่ของตัวเองบนโลกใบนี้ และต้องการอิสระในการเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง จากผลสำรวจของกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16–29 ปี
โดยข้อมูลระบุไว้ว่า 92% ของคน Gen Z กำลังตามหาความหมายของชีวิต
LIFESTYLE IS ILLUSION ไลฟ์สไตล์คือภาพลวงตาที่แบรนด์สร้างขึ้น เพื่อให้คนรู้สึกอยากเป็นคนอื่น แต่ Gen Z มองทะลุสิ่งนั้น พวกเขาไม่ได้ต้องการแค่ชีวิตที่ดูดี แต่ต้องการชีวิตที่รู้สึกดีจริง ๆ
อยากเข้าใจคนรุ่นใหม่ เริ่มจากการเข้าใจเรื่องของ N-Po Generation (N 포 세대) คือคนรุ่นใหม่ที่ยอม “ถอย” หรือ “ยอมแพ้” กับหลายเรื่องในชีวิต เช่น การแต่งงาน, การมีบ้านเป็นของตัวเอง, การมีงานมั่นคง, การมีลูก หรือแม้แต่การดูแลรูปลักษณ์ตัวเอง ซึ่งในไทยก็เผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจคล้ายกับในเกาหลี โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เริ่ม “ถอดใจ” จากเป้าหมายสำคัญในชีวิตหลายเรื่อง เช่น การมีบ้าน, การแต่งงาน หรือการสร้างครอบครัว เพราะเจอกับ แรงกดดันด้านรายได้ หนี้สิน และค่าครองชีพที่สูงขึ้น
การปล่อยวางความทะเยอทะยาน แล้วหันมาใช้ชีวิตแบบขี้เกียจระยะยาว พวกเขาแสวงหาความมั่งคั่งและสุขภาพที่ดี… เพื่อจะได้ “ขี้เกียจอย่างมีคุณภาพ” ได้นานขึ้นอีกหน่อย โดยกิจกรรมที่คนรุ่นใหม่ใช้เวลาไปกับการพักใจจากเป้าหมายเดิม ๆ
- 45% วางแผนการเงิน
- 37% ดูแลสุขภาพจิต
- 35% ออกกำลังกาย / เล่นกีฬา
- 31% อ่านหนังสือ / พ็อกเกตบุ๊กเพื่อเรียนรู้
- 29% เดินทางเพื่อเปิดมุมมองใหม่
- 28% พัฒนาทักษะดิจิทัล (เช่น การเขียนโค้ด AI ฯลฯ)
- 25% ฝึกงานฝีมือ / ศิลปะ
- 24% เรียนรู้การขายและการตลาด
- 23% ทำเพลง / สร้างเสียง
- 20% สร้างคอนเทนต์ / เขียนบล็อก
- 17% ปลูกต้นไม้ / ทำกิจกรรมใกล้ชิดธรรมชาติ
- 12% โยคะ / สมาธิ
- 6% ไม่ทำอะไรเลย
- 4% ทำอย่างอื่น
ดารามีอิทธิพลต่อความสุข และการตัดสินใจของคนทั่วไป จากการสำรวจว่า “อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คนเชื่อถืออินฟลูเอนเซอร์หรือครีเอเตอร์” โดยเรียงจากการตัดสินใจของคนรุ่นใหม่ ดังนี้
- 43%: คนที่สื่อสารจริงใจ และพูดให้รู้สึกว่า “เข้าใจเรา”
- 40%: คนที่มีประสบการณ์ตรงในเรื่องที่พูด
- 43%: ผู้เชี่ยวชาญในด้านที่เราสนใจ
- 34%: อินฟลูเอนเซอร์ที่พูดความจริง
- 28%: ศิลปินหรือคนดังที่เราชื่นชอบ
Delusion is the Solution (Delulu is the Solulu) หนึ่งในวลีที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม GenZ ถึงเรื่องของการเพ้อฝัน อาจเป็นคำตอบ การมองโลกในแง่บวกเกินจริงอาจเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่เอาตัวรอดจากความเครียดในโลกจริง ในวันนี้ GenZ สนุกกับ Pop Culture แบบที่ไม่ต้องจริงจัง เช่น หัวเราะกับมีมงี่เง่า หรือกว่า 62% ชอบคอนเทนต์ที่เป็นมีมหรือไวรัล
ร้องไห้กับเพลงป็อป
- 81% ฟังเพลงป็อป
- 63% ฟัง K-pop
ตกหลุมรักตัวละครในจินตนาการ
- 65% ชอบแนวแฟนตาซี
- 60% ชอบแนวโรแมนติก
- 59% ชอบอนิเมะ
Close Friends. Alt accounts. Private stories. คนรุ่นใหม่พวกเขาใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแชร์เรื่องราวเฉพาะกับเพื่อนสนิทหรือคนที่ไว้ใจได้
ใช้เพื่อเชื่อมต่อกับคนอื่น
- Instagram, X, TikTok, YouTube, Facebook
ใช้เพื่อผ่อนคลาย
- Instagram, TikTok, YouTube, Facebook
ใช้ติดตามข่าวสาร
- X, Instagram, TikTok, YouTube
ใช้เพื่อความบันเทิง
- Instagram, TikTok, YouTube, Facebook
กลุ่มที่ 5: THE EDGY AGING รุ่นใหญ่หัวทันสมัย
กลุ่มผู้สูงวัยยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตในช่วงเวลาทองของตัวเองอย่างมั่นใจและอยากรู้อยากเห็น EDGY AGING ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์หรือแฟชั่น แต่คือ ทัศนคติที่มั่นใจ และไลฟ์สไตล์ที่หยุดไม่อยู่
EDGY AGING วัยเก๋าทันโลก กลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป ที่เปิดรับผู้คนใหม่ ๆ ไอเดียใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ พร้อมอัปเดตตัวเองให้ทันยุค เพื่อใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าเสมอ
ในปี 2019 มีจำนวน 2 ล้านคนจากทั้งหมด 15.7 ล้านคน อายุ 55 ปีขึ้นไป แต่ล่าสุดปี 2025 มีจำนวน 5.6 ล้านคนจากทั้งหมด 18.6 ล้านคน อายุ 55 ปี นับว่าเป็นกลุ่มที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
High Value Audience to Capitalize Thailand’s Aged Society
กลุ่มผู้บริโภคคุณค่าสูง ในสังคมผู้สูงอายุของไทย
กลุ่มผู้สูงวัยในยุคใหม่ คือกลุ่มที่กระฉับกระเฉง มีสมดุลระหว่างการดูแลตัวเอง และผูกพันกับครอบครัว โดย 3 เรื่องที่น่าสนใจคือ
พึ่งพาตัวเองได้ (Self Reliance)
- 71% มีรายได้ระดับกลางขึ้นไป
- 59% ยังทำงานอยู่
ใกล้ชิดครอบครัว (Yet Connected)
- 93% อาศัยอยู่กับครอบครัว
- 80% เลี้ยงสัตว์
ใส่ใจสุขภาพ (In-Charge of Wellbeing)
- 60% มีภาวะสุขภาพเรื้อรัง (NCDs)
- 74% ประเมินว่าตนเองมีสุขภาพดีถึงดีมาก
Reward Shopping, Active Sharing คนกลุ่มนี้ซื้อของอย่างมีรางวัล แบ่งปันประสบการณ์อย่างกระตือรือร้น โดยข้อมูลระบุไว้ว่า
- 66% ไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากนัก ยังซื้อของจำเป็นตามปกติ
- 2 เท่า พร้อมจ่ายเพิ่มเพื่อสิ่งที่มีความหมาย
- 78% แบ่งปันประสบการณ์การใช้งานสินค้าอย่างจริงจัง
หมวดสินค้าที่ผู้สูงวัยยินดีจ่ายแพงขึ้น
- ดูแลสุขภาพ (Health Care) - 69%
- อาหารและการกิน (Food & Dining) - 62%
- ของใช้ส่วนตัว (Personal Care) - 48%
- การเงินและการลงทุน (Finance & Investment) - 46%
- ดูแลสัตว์เลี้ยง (Pet Care) - 41%
- ของใช้ภายในบ้าน (Home Care) - 34%
- เทคโนโลยี / อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Gadget / IT) - 25%
- ท่องเที่ยวในประเทศ (Domestic Travel) - 22%
- เครื่องใช้ไฟฟ้า (Home Appliance) - 17%
- ของซ่อมแซม / DIY (DIY / Maintenance) - 13%
โดยสรุปพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่ม Edgy Aging
- มีกำลังซื้อสูง (High Spending Power) มีศักยภาพในการใช้จ่ายและตั้งใจซื้อ โดยเฉพาะในสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพ ความสุข และอิสรภาพส่วนตัว
- เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง (Prime Selection) ใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ด้วยการเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ ตั้งใจออกแบบชีวิต และเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเองอย่างรอบคอบ
- ตัดสินใจจากความเชื่อมั่น (Trust-Driven Decision) สนใจสื่อที่เชื่อถือได้ และตัดสินใจจากคำแนะนำของคนในชุมชนที่ไว้ใจ
กลุ่มที่ 6: THE RURAL GOLD CLASS ชนชั้นทองจากต่างจังหวัด ผู้ทรงอิทธิพลชนบท
กลุ่มคนต่างจังหวัดระดับพรีเมียม ที่ภูมิใจ เชื่อมต่อโลกดิจิทัล และโน้มน้าวใจเก่ง
ข้อเท็จจริงที่หลายคนอาจไม่รู้ โดยคนไทยส่วนใหญ่ (63%) ยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดและมีคนกว่า 8 ล้านคน ที่จัดอยู่ในกลุ่ม รายได้สูง
THE RURAL GOLD CLASS พวกเขาคือใคร
- กลุ่มคนอายุ 35 ปีขึ้นไป อยู่ในกลุ่ม SES A+ และกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่านั้น
- 76% ให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” มากกว่าราคาเสมอ
- 70% เชื่อว่าการลงทุนช่วยเพิ่มความมั่งคั่ง
- 56% เป็นกลุ่มที่จัดการการเงินของตัวเองได้ดี
คนกลุ่มนี้เป็น Influencer by Nature เป็นอินฟลูเอนเซอร์โดยธรรมชาติ
- 56% บอกว่า คนรอบตัวมักถามความเห็นก่อนตัดสินใจซื้อหรือเลือกสิ่งต่าง ๆ
- 69% ชอบแนะนำสินค้า/บริการที่ใช้แล้วดีให้เพื่อนหรือคนในครอบครัว
Crave Connection, trust star signs, and the NEED TO BE SEEN คนกลุ่มนี้โหยหาการเชื่อมโยง เชื่อในดวง และต้องการเป็นที่สนใจ โดย 56% ชอบพบปะและใช้เวลากับคนใหม่ ๆ
O2O Shopping พฤติกรรมการช้อปปิ้งทั้งออนไลน์และออฟไลน์
- 75% ซื้อของออนไลน์
- 70% ซื้อของตามตลาดนัด
- 63% ร้านสะดวกซื้อ
- 62% ร้านโชห่วย
- 55% ร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต / ซูเปอร์มาร์เก็ต
- 54% ห้างสรรพสินค้า
- 40% ของผู้บริโภคมีงบช้อปปิ้งออนไลน์เดือนละ 1,000–3,000 บาท และงบสูงสุดที่พร้อมจ่ายต่อเดือนคือ 9,000 บาท
วัฒนธรรมท้องถิ่นและงานเทศกาล คือสิ่งที่ชนะใจคนกลุ่มนี้
- โดย 87% เคยไปร่วมงานเทศกาลในท้องถิ่น หลายคนรู้สึกภูมิใจและสนับสนุนกิจกรรมเหล่านี้อย่างจริงจัง
ยังไม่หลับ! คนกลุ่มนี้มักขัดกับภาพจำที่คิดว่าหลับเร็ว แต่จริง ๆ แล้ว 50% ยังไม่หลับตอน 3 ทุ่ม และยังเลื่อนฟีด ดูทีวี และช้อปออนไลน์ต่อ
โดยสรุป กลยุทธ์สำหรับเข้าถึง THE RURAL GOLD CLASS
- สื่อ O2O และการยึดช่วงเวลา Prime Time กลางคืน
ใช้สื่อทีวีและไลฟ์สดในช่วงเวลาคนดูเยอะ พร้อมเชื่อมต่อโลกออนไลน์กับออฟไลน์ผ่าน QR Code
ความไว้ใจจากชุมชน
ร่วมมือกับบุคคลที่มีอิทธิพลในชุมชนท้องถิ่น และเน้นเสียงจากผู้บริโภคตัวจริง
เนื้อหาที่คนอยากแชร์
ใช้การขายแบบไลฟ์, รีวิวจากประสบการณ์จริง และเนื้อหาที่มีอารมณ์ขัน เพื่อให้เชื่อมต่อกับชีวิตประจำวันของพวกเขา