หลายคนอาจจะสงสัยว่า การเกษตรกับ AI ดูเป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามกัน ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้
แต่จริงๆแล้ว AI สามารถเข้าไปช่วยด้านการเกษตรได้มากมาย CREATIVE TALK และทาง AIEAT ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับ คุณเค-มติชน มณีกาศ Chief Technology Officer & Co-Founder บริษัท อีซีไรช์ ดิจิทัล เทคโนโลยี จำกัด ถึงเรื่องราวต่างๆ
ทำไมคุณเคถึงสนใจเรื่องข้าว การใช้ AI เข้ามาช่วยในการตรวจสอบคุณภาพข้าวมีผลอย่างไร และทำไม AI ถึงเป็นอนาคตในอุตสาหกรรมนี้
คุณเคได้เล่าว่า เริ่มจากที่ครอบครัวของคุณเคนั้นทำเกษตรกรรม โดยมีคุณยายปลูกข้าวที่เชียงใหม่ และมีเพื่อนๆที่ทุกคนก็ปลูกข้าวเช่นเดียวกัน ทำให้รู้สึกว่าเรื่องของ “ข้าว” เป็นเรื่องใกล้ตัว และเริ่มมีความคิดที่จะใช้ AI เข้าไปตรวจสอบคุณภาพข้าว ให้ได้ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้
ซึ่งคุณเคได้เล่าเสริมต่ออีกว่า มีกำหนดเรื่องการตรวจสอบคุณภาพข้าว มาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2500 ที่ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศ และทำการส่งออกข้าวเป็นจำนวนมาก จึงมีการออกกฏหมายเรื่องการขออนุญาติส่งออก มีการตรวจสอบคุณภาพข้าว โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้นวิธีการตรวจสอบข้าวจะใช้คนตรวจสอบจนถึงปัจจุบัน โดยตรวจสอบด้านกายภาพของข้าวและความสมบูรณ์ของข้าวว่าเป็นแบบนไหน เช่น ข้าวเป็นข้าวหัก ข้าวเต็มเมล็ด ข้าวเสีย ข้าวเหลืองเป็นต้น ทั้งหมดนี้ใช้สายตามองดูเท่านั้น
ทำให้เป็นปัญหา ทำให้มีปัญหาเรื่องของราคา และปัญหาพ่อค้าคนกลาง และยังเกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องมาตรฐานการวัด และการตรวจสอบอีกด้วย
คุณเคจึงสร้าง AI เข้ามาเพื่อช่วยตรวจสอบคุณภาพข้าวได้ทั้ง supply chain เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มเครื่องมือที่มีความแม่นยำในการตรวจสอบคุณภาพข้าว
เนื่องจากปัจจุบันเนื่องจากการตรวจสอบข้าวต้องใช้คนที่มีประสบการณ์ แล้วต้องทำงานเป็น routine ทำให้เกิดการขาดแคลนคนกลุ่มนี้มีการขาดแคลนทรัพยากรบุคคลในด้านนี้อยู่เป็นจำนวนมาก และยังมีอีกหลายที่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการตรวจสอบข้าวได้ เกษตรกรบางรายไม่มีการตรวจสอบคุณภาพข้าว และยอมจำหน่ายเป็นข้าวลดเกรด หรือข้าวผสมกันไปทำให้ราคาข้าวลดลงตามคุณภาพของข้าวไปด้วย
ดังนั้นการที่มี AI เข้ามาช่วยก็จะสามารถทำให้ลดปัญหาเรื่องของราคา และปัญหาพ่อค้าคนกลาง และยังเป็นตัวกลางที่ช่วยลดปัญหาเรื่องของมาตรฐานการวัด และการตรวจสอบ แถมยังสามารถประหยัดเวลา ได้มากกว่าในคนอีกด้วย
นอกจากเรื่องของการตรวจสอบคุณภาพข้าวแล้ว AI ตัวนี้ยังสามารถแยกแยะพันธุ์ข้าวได้อีกด้วย เนื่องจากมีความหลากหลายของข้าวมาก หากมี AI ตัวนี้มาช่วยก็จะทำให้ง่ายต่อการแยกแยะพันธุ์ข้าว และลดการปลอมแปลง หรือผสมพันธุ์ข้าวที่ไม่ถูกต้องมาจำหน่ายเพื่อการเกษตรด้วย
และในอนาคตยังสามารถขยายขอบเขตการพัฒนา AI เพื่อยกระดับคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ นอกจากข้าวได้อีก ยกตัวอย่างเช่น สามารถทำได้ เคยมี AI ที่พัฒนาเพื่อตรวจสอบความหวานของอ้อย หรือในต่างประเทศ ที่ประเทศนอรเวย์ มี AI ที่สามารถจดจำใบหน้าของปลาแซลมอนได้อีกด้วย
อนาคตของเกษตรกรไทยอาจจะไม่ได้หมองหม่นอีกแล้ว แต่กลับเติบโตได้ด้วยพลังแห่งเทคโนโลยี
รับชมรายการเต็ม ขับเคลื่อนเกษตรกรรมยุคใหม่ กับ AI อัจฉริยะ และแวะมาพูดคุยเพิ่มเติมกันได้ที่เฟซบุ๊ค Creative Talk