ยุคนี้ยากขึ้นที่จะได้รับความรัก แต่ง่ายมากที่จะเสียไป กฎ 3 ข้อช่วยสร้าง Brand Love ในโลกเปราะบาง โดยคุณบี สโรจขบคิดการตลาด ในงาน CTC2025

Last updated on ก.ค. 5, 2025

Posted on ก.ค. 5, 2025

ถ้าอยากสร้าง Brand Love ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าความรักคืออะไร ก่อนจะได้รับมา

ใน Session: Framework of Building Brand Love in Trust Economy โดยสโรจ เลาหศิริ เจ้าของเพจสโรจขบคิดการตลาด ได้ชวนเราสำรวจมุมมองในการสร้าง Brand Love หรือการทำให้แบรนด์เป็นที่รักของลูกค้า ผ่านการเปรียบเทียบและเชื่อมโยงกับความรักความสัมพันธ์ของคนเรา

ไม่แปลกถ้าหลายๆแบรนด์จะเริ่มรู้สึกว่า ผู้บริโภครักเราจริงหรือเปล่า เพราะยุคนี้คือ Distrustful Era ผู้คนให้คำมั่นสัญญาน้อยลง ทุกวันนี้คนไทยมีสถิติอัตราการหย่าร้างสูงขึ้น เทียบกับการแต่งงาน หรือว่าคนไม่เชื่อในความรัก? สาเหตุหลัก ๆ เป็นเพราะ

3 สาเหตุหลัก ที่มีผลให้คนในปัจจุบัน คนมีความผูกมัด (Commitment) กับสิ่งต่างๆ น้อยลง คือ

  • เรามีทางเลือกมากขึ้น: เมื่อมีตัวเลือกที่ดีกว่า ทำไมเราต้องทน?
  • เรารักตัวเองมากขึ้น: เราชัดเจนกับความต้องการของตัวเองมากขึ้น
  • ความเชื่อใจเปราะบาง: ความไว้ใจไม่ได้มีมาให้ตั้งแต่แรก แต่ต้องใช้เวลาและการกระทำเพื่อพิสูจน์ในทุกๆ วัน

เทียบกับการสร้างแบรนด์เองก็เช่นกัน Brand Love ในยุคนี้กลายเป็นสิ่งที่ได้รับมายากขึ้นและง่ายที่จะสูญเสียไป การสร้าง Brand Love ไม่ใช่แค่เรื่องของโฆษณาเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ลูกค้าจะรักแบรนด์ที่ประพฤติดี ไม่ใช่แค่ดูดี

แล้วแบรนด์ที่ทำอยู่ ลูกค้ารักเราเพราะอะไร…?

กฎ 3 ข้อช่วยสร้าง Brand Love ในโลกเปราะบาง

1. Consistency ความสม่ำเสมอ

วินัยของ Brand ที่จะสามารถส่งมอบคุณค่า การปรากฏตัวในแบบเดิมที่ไม่เปลี่ยนแปลงในทุก ๆ เวลา ในทุกช่องทาง ความสม่ำเสมอ ไม่ใช่ความน่าเบื่อ มันคือความเชื่อมั่น ใช้แบรนด์นี้ ไม่เคยผิดหวัง ไม่เคยทรยศต่อคำสัญญาของตัวเอง ถ้าเราไม่เชื่อใจกัน จะกลายเป็น Toxic ของความสัมพันธ์นี้ทันที เคยสัญญาอะไรไว้ แต่ทำไม่ได้ ก็อาจทำให้เสียลูกค้าไปได้ เพราะมันไม่เหมือนเดิม


2. Transparency ความจริงใจ ความโปร่งใส

ในยุคที่มีฟิลเตอร์มากมาย ความจริงใจ เป็นสิ่งสำคัญ เป็นพฤติกรรมที่เราต้องเปิดเผย ต้องเล่าให้ฟังทุกวัน กล้าที่จะตอบความจริง และสิ่งสำคัญคือ คุณต้องTreat ลูกค้าของคุณให้เป็นเหมือนกับ Pertner ที่มีความคิด ความรู้ ไม่ใช่ passive targets

👉 คุณต้องหมั่นสร้างประสบการณ์เชิงบวกที่ดีตลอดเวลา ไม่ใช่การสร้างภาพ นึกภาพ นักการเมือง ที่ ดูเป๊ะตลอดเวลา แต่ไม่มีภาพด้านอื่น ว่าเขาพยายามอย่างไรบ้าง เราอาจไม่ได้รู้สึกร่วมดัวย

👉 จัดการเวลาเกิดปัญหา ยอมรับความผิดพลาดไหม แล้วสัญญาว่าจะไม่ทำอีกหรือไม่ คนจะรู้ได้จากตอนนี้ ว่าเราสร้างภาพ หรือเป็นแบบนั้นจริงๆ (ยกตัวอย่าง ถ้ากำลังเดทกับหลายๆ คน ลองชวนทะเลาะ แล้วดูว่า ใครมีวุฒิภาวะ แล้วใครแก้ปัญหาได้ดีที่สุด)


3. Empathy ความเข้าอกเข้าใจ

คนจำว่า คุณทำให้เขารู้สึกอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะ ช่วงเวลาของความไม่แน่นอน Empathy เปรียบเหมือน EQ ของ Brand ควรทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

👉 ตัวอย่าง ศรีจันทร์ ใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นศิลปิน คลิปที่ถ่ายพี่แท็ป คุกเข่ามอบของพรีเมียมให้แฟนคลับที่มารอ ได้ Engagementดี ยิ่งกว่าทำแคมเปญ ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น ในมุมมองของพี่แท็ป รู้สึกว่า วันงาน แฟนคลับ เขามาขนาดนี้ ต้องตั้งใจมากๆ เลยอยากตอบแทนเขาที่มา เลยได้ใจแฟนคลับไปอีก

👉 ฟาราทอร์ค" (FaraTALK) จริงๆ ความเข้าใจที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ เข้าใจว่าชาวช่อง แฟนคลับ และสปอนเซอร์ ต้องการอะไร เวลาที่เขาไปทำ เขาเข้าใจ ไม่ได้แค่ไปทำ จึงได้รับผลตอบรับที่ดี


บางอย่างต้องพิจารณาว่า การจะทำให้คนรัก บางครั้งเราเองก็ต้องให้ก่อน ต้องอยู่ตรงนั้นเวลาเกิดปัญหา เพอร์เฟกต์ คนต้องการความจริง อย่าเรียกร้องหาความรัก หากคุณไม่ทำตัวให้ควรค่าแก่การถูกรัก และเราไม่ได้รักคนที่สมบูรณ์ที่สุด เรารักคนที่ดีพอ ที่จะทำให้เราไม่ต้องมองหาใครอีก แบรนด์เอง ก็เช่นกัน


ใครที่อยากรับชมแบบจัดเต็ม สามารถซื้อบัตรรับชมย้อนหลังทุกเซสชันเพิ่มเติมได้ที่
👉 https://bit.ly/3TRATke

Creative Talk Conference 2025 (CTC2025) The Future Is Worth A Thousand Words | Zipevent - Inspiration Everywhere
Creative Talk Conference 2025 (CTC2025) The Future Is Worth A Thousand Words -
trending trending sports recipe

Share on

Tags