หนึ่งในปีที่ยากที่สุด ปัญหาเยอะที่สุด ปีหนึ่งของโลก
แต่ความน่าสนใจคือปัญหาที่ซุกซ่อนเหล่านั้น “กลับมีโอกาสซ่อนอยู่”
ในหัวข้อ ปัญหาที่นำไปสู่ “โอกาส” โดย คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี ผู้บริหารหญิงแกร่ง ได้ชื่อว่าเป็น "นักแก้ปัญหา" ผ่านมาแล้วทุกวิกฤต โดดเด่นด้านการบริหารธุรกิจและบริหารคน ทั้งระดับประเทศและระดับโลก ตั้งแต่เป็นผู้บริหารสูงสุดของไอบีเอ็ม (ประเทศไทย) และก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารบริษัทแม่ที่อเมริกา กระทั่งมาเป็น CEO ไทยคม พาบริษัทก้าวข้ามวิกฤตครั้งสำคัญ และ 9 ปีกับ "ดุสิตธานี" และสร้างโอกาสใหม่จากวิกฤต
3 วิธีแก้ปัญหาธุรกิจเพื่อนำไปสู่ “โอกาส”
1. มองปัญหาที่นำไปสู่โอกาส
- มองให้เป็น = มองให้เห็นปัญหา มองว่าปัญหาคือข้อมูล คือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้
- เห็นด้วยใจ = เราต้องแก้ปัญหาร่วมกับคนหมู่มาก (ผู้นำต้องทำงานกับคน) การมองเห็นและคำนึงถึงสถานการณ์สำคัญมากคือการใช้ความเข้าใจ ความเมตตา และการเปิดใจ
1.1 ปัญหานำสู่โอกาสได้
- ปัญหานั้น - บอกบางสิ่งที่เรายังไม่รู้
- ปัญหานั้น - เปิดช่องให้เราคิดใหม่ ทำใหม่
- ปัญหานั้น - สร้างโอกาสในการเติบโตและเปลี่ยนแปลง
1.2 ปัญหา 3 กองในชีวิตเรา
- แก้ได้ → การแก้ปัญหาประเภทนี้คือแก้ได้แก้เลย อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง
- แก้ไม่ได้ → ปัญหาที่เกิดจากอดีต หรือสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว เราควรปรับตัวเอง ปรับกระบวนยุทธ์ ปรับใจ
- ไม่ควรแก้ → ปัญหาบางอย่างไม่ต้องแก้ก็ได้ เพราะมันอาจจะไม่ใช่ปัญหาที่เป็นเรื่องของเรา แล้วเราก็ไปเสียพลังงานกับการไปแก้ปัญหาคนอื่น
ไม่ใช่ทุกปัญหาที่ต้องแก้ บางปัญหาต้องเข้าใจ บางปัญหาต้องปล่อยวาง จำไว้ว่าปัญหาต้องแก้ด้วยวิธีคิด ถ้าแก้ไม่ได้ต้องเปลี่ยนวิธีเดิน
2. วิธีแก้ปัญหาในมุมมองของคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์
2.1. Purpose เราทำอะไร เราทำเพื่อใคร
- คีย์สำคัญคือทุกคนในองค์กรต้องรู้สิ่งนี้ ต้องเข้าใจเป้าหมายขององค์กร
- ถ้าเป้าไม่ชัดไปต่อยากมาก จุดเริ่มต้นที่ดี คือการทำให้ทีม และเป้าหมายชัดเจน และต้องรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร
- การมีขั้นตอนที่ชัดเจน และความยืดหยุ่น ในการทำให้คนทำงานตัดสินใจได้ มีส่วนร่วมในองค์กรสำคัญมาก นั่นคือการสร้างวัฒนธรรมในองค์กร
- ทำดีต้องมีคนเห็น ทำไม่ดีต้องมีคนเห็นสำคัญมาก ไม่ใช่ว่าทำไม่ดีแล้วเงียบ หรือทำดีแล้วเงียบ
2.2 รู้ใน รู้นอก รู้จังหวะ (รุก-รับ-ปรับ-ถอย)
- รู้ใน+รู้นอก สำคัญ การที่เราจะแก้ปัญหาหรือกลยุทธ์ที่ลงมือทำ เราต้องรู้จากข้างในก่อนเสมอ ว่าเรามีข้อดีอะไร ข้อด้อยอะไร เราทำอะไรได้ และทำอะไรไม่ได้ รวมไปถึงเมื่อรู้ในแล้ว ต้องรู้นอกให้เป็น ว่าข้างนอกเป็นอย่างไร
- รู้จังหวะ รู้ว่าเราจะรุก เราจะรับ เราจะปรับ เราถอยอย่างไร จังหวะถึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องผ่อนได้ ต้องรุกเป็น
3. วิธีดูแลใจตัวเอง มีทั้งหมด 3 เรื่องใหญ่ ๆ
3.1 ยึดมั่นในคุณค่า ไม่ยึดติดกับคำพูดของคน
คุณค่าของเราคืออะไร อย่าไปฟังเสียงรอบข้างแล้วลดคุณค่าตัวเอง
3.2 ฝึกการแยกแยะ ระหว่างข้อเท็จจริง กับเสียงรบกวน
ยุคนี้โซเชียลมี เราตอบรับเปิดใจได้ ในการแก้ปัญหา แต่เราต้องไม่จมกับเสียงรบกวน
3.3 เข้าใจในเหตุและปัจจัย ไม่ยึดติดผลลัพธ์
ปัจจัยภายนอกมีทั้งสิ่งที่แก้ได้, แก้ไม่ได้, และไม่ต้องแก้ ดังนั้นเราต้องเข้าใจเหตุและปัจจัยต่อสถานการณ์ พยายามมองปัญหาให้เป็นโอกาสในการพัฒนา
เคล็ดไม่ลับในแก้ปัญหาเพื่อทำเป้าหมายให้สำเร็จของคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์
การสร้างความเชื่อมั่นของทีมในการแก้ปัญหา Quick Win สำคัญ เพราะทีมจะมั่นใจกับความสำเร็จเล็ก ๆ เพื่อไปสู่เป้าหมายใหญ่ ๆ
เราต้องมี Model อย่างตัวอย่างของคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ คือโมเดล ‘TAM’
-
Think Big - มองให้กว้าง มองให้ยาว รู้กว้างว่าอุตสาหกรรมใกล้เคียงมีอะไรบ้าง ต้องคิดใหญ่และมองไปถึงนอกประเทศ
-
Act Small - คิดใหญ่ได้ แต่ทำให้เล็ก และซอยเป้าหมายให้คนทำงานทำต่อได้ ให้เขาเดินได้อย่างมั่นคง ไม่ใช่เดินแล้วเหนื่อยไปไม่ถึง รวมไปถึงทำตัวเล็ก ๆ เพื่อให้เรามีพันธมิตร หาคนมาช่วยให้เราเดินไปข้างหน้าได้
-
Move Right - เดินไปในทิศที่ควรจะเป็น หมั่นเช็กกลยุทธ์เสมอว่าถูกต้องเหมาะสมไหม และขยับเดินไปข้างหน้าอย่างถูกต้องตามจังหวะ
หลักเศษส่วน ปัญหาต้องแก้ทีละเปลาะ เวลาเจอปัญหาใหญ่ เราต้องรวมทั้ง ‘เศษ’ และ ‘ส่วน’ เข้าไว้ด้วยกัน พยายามแก้ไปทีละเปลาะ ไม่จำเป็นต้องแก้ทีเดียวทุกอย่าง และสุดท้ายจะนำไปสู่การ Focus เพราะทุกคนในทีม ในองค์กรต้องรู้ว่าเรากำลัง Focus อะไร ทำอะไรก่อน-หลัง เสมอ ย้ำ! ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
วันนี้ลูกค้าเปลี่ยนไป พฤติกรรมเปลี่ยนไป สิ่งสำคัญที่ คุณศุภจี เน้นย้ำ! คือเราต้องกล้าเปลี่ยน กล้าปรับกลยุทธ์ กล้าปล่อยสิ่งเดิม แม้ธุรกิจเราจะมีอยู่มานานอย่าง Dusit ที่มาสร้างสิ่งใหม่อย่าง Dusit Central Park ที่เดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว ในวันนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว อย่าเป็นผู้นำไม่กล้าเติมสิ่งใหม่ และไม่กล้าปล่อยสิ่งเดิม
วิกฤต COVID19 ที่ผ่านมา คุณศุภจีใช้โอกาสในการเป็นผู้นำที่เริ่มทำให้คนในองค์กรเห็น การเปลี่ยนแปลงเริ่มจาก “การทำให้ดู” ไม่ใช่ “แค่สั่งให้ทำ” ผู้นำที่นำเป็น และทำให้ดูมีความสำคัญในการนำช่วงวิกฤตมาก
ในทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ มองให้เห็นโอกาส และมองให้เห็นด้วยใจ รวมไปถึงตั้งต้นด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนสำคัญมาก
เมื่อใจเปลี่ยน มุมมองก็จะเปลี่ยน และโอกาสก็จะปรากฎกับทุกคน
เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ