ไม่มีใครไม่รู้จักคำว่า Count Down แต่เมื่อหลายคนมาเห็นคำว่า ‘CountUp’ ก็อาจทำให้ชะงักและหยุดสงสัยว่า คำนี้มีความหมายว่าอะไร?
“CountUp คือ การนับก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่นับถอยหลัง”
นี่คือนิยามความหมายของคำว่า ‘CountUp’ จาก วรรณา สวัสดิกูล เจ้าของเพจ CountUp - เค้าท์อัพ ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 2 แสนคน และให้คำจำกัดความของตนเองว่าเป็น ‘พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนวัย 50+ ลุกมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มา ‘เค้าท์อัพ’ กับชีวิต ไม่คิดถอยหลัง”
นับถอยหลังไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว CountUp ถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้ Silver Gen ได้ใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง ไม่ใช่แค่การนับถอยหลัง แต่เป็นการก้าวไปข้างหน้า และเมื่อพูดถึงวัย 50+ หลายคนอาจไปถึงคำว่า ‘ผู้สูงอายุ’ แล้วเห็นภาพเป็นผู้สูงวัยที่เกษียณตัวเองออกจากสังคม วันๆ หมกตัวอยู่แต่ในบ้าน แต่ CountUp มองต่างออกไป

เพราะวรรณาเชื่อว่าคนอายุ 50+ หรือจริงๆ ณ ขณะนี้สามารถนับรวมไปถึงคนวัย 45+ ที่เตรียมตัวเองเพื่อมให้พร้อมก้าวเข้าสู่ Silver Gen นั้นไม่ได้จำกัดตัวเองให้อยู่กับภาพจำแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่พวกเขาสามารถเป็น ‘Role Model’ ในการใช้ชีวิตที่มีพลังและมีความสุขได้
“เราต้องการปฏิวัติวงการ Silver Gen ทำให้คนเข้าใจว่าวัยไม่ใช่อุปสรรค แต่คือโอกาสในการเติบโต”
ดังนั้น CountUp จึงเป็นมากกว่าคอนเทนต์ออนไลน์ แต่กลายเป็นแพลตฟอร์มและคอมมูนิตีที่ช่วยเติมเต็มความรู้ อัปเดตตัวเองให้ก้าวทันสังคม สร้างแรงบันดาลใจ และเชื่อมโยงคนวัยเดียวกันผ่านคอนเทนต์และกิจกรรมที่ทันสมัย รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตให้กับลูกหลาน และน้องๆ รุ่นหลังด้วยความเก๋าจากประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมมา แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่ยอมหยุดนิ่งเพื่อรอวันจากไป พร้อมอัปเดตชีวิตให้ทันทุกการเปลี่ยนแปลงในสไตล์ของคนวัย Silver Gen

เมื่อเป็น ‘มากกว่า’ คอนเทนต์ออนไลน์ แล้ว CountUp จะสามารถเป็นอะไรได้อีก?
BrandThink x CountUp จึงกลายเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ ครั้งใหญ่ของ Silver Gen Content ที่พร้อมขับเคลื่อนแนวคิดใหม่ของ ‘Silver Generation’ ในยุคปัจจุบัน ที่ผสานแนวคิด ‘Creative Change’ ที่เป็นหัวใจการทำงานของ BrandThink
ด้วยสองมุมมองจาก เอกลักญ กรรณศรณ์ Managing Director & Founder แห่ง BrandThink และ จักรพันธุ์ ขวัญมงคล ขึ้นแท่น Head of Contents คนใหม่ของ CountUp พร้อมที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้ CountUp และพาคนทุกวัยเข้าใจถึงแก่นแท้ของแพลตฟอร์มนี้ และบทบาทของกลุ่ม Silver Age ที่มีต่อสังคมไทย
“CountUp ต้องทันกับยุค Super Aged Society ที่สังคมเรากำลังจะไปถึง เราจึงสร้างคอนเทนต์ที่เป็นมากกว่าแค่เรื่องสุขภาพ แต่เป็นแพลตฟอร์มที่สะท้อนถึงชีวิตและแรงบันดาลใจ”
เมื่อเอ่ย CountUp โฉมใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้าน จักรพันธุ์ ขวัญมงคล ในฐานะ Head of Content คนใหม่ที่จะเข้ามากำหนดทิศทางของ CountUp ให้ทันสมัยยิ่งกว่าเดิม อธิบายว่า ก้าวใหม่ของชาว Silver Gen ที่จะมี CountUp เดินไปข้างหน้าเคียงข้างกัน คอนเทนต์, กิจกรรม และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในแพลตฟอร์มนี้ ล้วนให้ความสำคัญในเรื่องของ Content Strategy, Visual Identity และ Storytelling ที่ทรงพลัง
พร้อมอธิบายต่อว่า การจับมือกันครั้งนี้นำไปสู่การ Rebrand ครั้งใหญ่ของ CountUp ที่จะปรับภาพลักษณ์ให้สดใหม่ ทันสมัย และตอบโจทย์คนวัย 45+ ขึ้นไปอีกด้วย
การที่ CountUp ขยับกลุ่มเป้าหมาย จากเดิมที่เน้นกลุ่ม 50-60 ปี ใหม่ให้ครอบคลุมคนวัย 45+ นั้นถือเป็นการปฏิวัติวงการคอนเทนต์สำหรับกลุ่ม Silver Gen เป็นอย่างมาก และแน่นอนว่านี่คือการทำงานที่มองไปอนาคตข้างหน้า
ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนไทยในสังคมยุคนี้ ส่งผลให้กลุ่มคนวัย 45+ ต่างกำลังมองหาความมั่นคงในชีวิต และเริ่มวางแผนการใช้ชีวิตในวัยสูงอายุ สังคมไทยกำลังเปลี่ยนไป การมีลูกเริ่มมีสัดส่วนน้อยลง คนรุ่นใหม่เริ่มเลือกชีวิตแบบ Single Family ซื้อคอนโดเลี้ยงสัตว์แทนมีครอบครัว หรือบางคนก็เลือกที่จะอยู่คนเดียว ด้วยเหตุผลนี้ จักรพันธุ์จึงย้ำว่า “เราจึงต้องรีแบรนด์ CountUp เพื่อให้เข้ากับ ‘ไลฟสไตล์ใหม่’ ของ ‘Silver Gen 2.0’

แล้วไลฟ์สไตล์แบบไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของ Silver Gen 2.0?
ปัจจุบัน การนำเสนอคอนเทนต์ภายใต้การบริหารของจักรพันธุ์ ได้นำแนวคิดหลักของ CountUp มาต่อยอดและพัฒนาเป็นไอเดียของ Collect to Living, Sharing, Inspiring
โดย ‘Collect to Living’ หมายถึง การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ด้วยทรัพยากรและประสบการณ์ที่สั่งสมมา ต่อมาคือ ‘Collect to Sharing’ คือ การแบ่งปันความรู้และแนวคิดให้คนรุ่นใหม่ และ ‘Collect to Inspiring’ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนวัยเดียวกันและสังคม ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตรงกับแก่นของ BrandThink ที่มุ่งเน้นเรื่อง Creative Change ทำให้อนาคตของคอนเทนต์ CountUp จึงไม่ได้เป็นแค่คอนเทนต์ออนไลน์ แต่ จักรพันธุ์กำลังออกแบบ Edutainment และ Community-Driven ให้เกิดในสังคมมากขึ้น
CountUp ได้ปรับโฉมใหม่แล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้ง CI, โลโก้ และรูปแบบคอนเทนต์ โดยแบ่งเสาหลักของคอนเทนต์เป็น 4 ด้าน ได้แก่ Wake Up ที่นำเสนอคอนเทนต์อัปเดตข่าวสารและเทรนด์ของกลุ่ม Silver Gen ที่เกิดขึ้น, Health Up นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพ, Wealth Up นำเสนอเรื่องราวการเงิน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญของคนกลุ่มนี้ ปิดท้ายด้วย Live Up หรือการนำเสนอคอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจ
จะเห็นได้ว่ารูปโฉมที่ทันสมัยและสนุกมากขึ้นของคอนเทนต์ CountUp ไม่ได้มีไว้แค่สำหรับ Silver Gen เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ (Awareness) ให้คนรุ่นอื่นๆ เตรียมตัวเข้าสู่วัยนี้ได้อย่างมีคุณภาพ
สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ เอกลักญ กรรณศรณ์ ในฐานะ MD และผู้ก่อตั้ง BrandThink ที่เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย อย่างการที่สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่ Super Aged Society
“สิ่งที่ CountUp และ BrandThink มีเหมือนกัน คือความเชื่อมั่นในการขับเคลื่อนสังคมด้วยพลังของความคิดสร้างสรรค์ เช่นเดียวกับ BrandThink ที่มีหัวใจหลักคือ ‘Creative Change’ โดย Empowering ผู้คนให้กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ Diversity ที่หลอมรวมมุมมองที่แตกต่าง และ Positive Impact ที่เปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”
ด้วยศักยภาพของ CountUp ที่จะเป็น ‘ผู้นำด้านคอนเทนต์สำหรับ Silver Gen’ และความเข้าใจ Insight ของคนกลุ่มนี้เป็นอย่างดี ประกอบกับที่ BrandThink เข้ามาเสริมทัพให้กับ CountUp ผ่านการทำ Content ที่เข้มข้นและมี Impact มากขึ้น โดยผสานความเชี่ยวชาญด้าน Hybrid Creator ตั้งแต่งานวิดีโอ งานเขียน และกิจกรรม On-ground Experience การร่วมงานครั้งนี้ช่วยให้เราต่อยอดกลยุทธ์ด้าน Content Marketing ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของ Silver Gen ที่ต้องการทั้งข้อมูลเชิงลึกและความบันเทิง
“เรา (BrandThink และ CountUp) จึงเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่พอดีกัน เราสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ไม่เพียงแต่ดึงดูดให้ผู้คนสนใจ แต่ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมด้วย”

เอกลักญอธิบายเพิ่มเติมว่า CountUp เป็นพื้นที่ที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของสังคม ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มที่พูดถึง Silver Gen แบบเดิมๆ อีกต่อไป แต่เป็นการเชื่อมโยงคนที่กำลังจะก้าวข้ามไปสู่วัยนี้ด้วย

“เราอยากให้คนเข้าใจว่า ‘อนาคตที่คุณคิดว่าไกล มันใกล้กว่าที่คิด’ และ CountUp จะเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้ทุกคนเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างมั่นใจ” ต๊ะ-จักรพันธุ์ กล่าว
คอนเทนต์ CountUp ในปัจจุบันจึงสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่เกิดขึ้นพร้อมกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในสังคมไทยที่กำลังเข้าสู่ Aged Society อย่างเต็มตัวแล้ว โดยในปี 2568 คาดว่าผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปจะคิดเป็น 14.26% ของประชากรทั้งหมด ขณะเดียวกันอัตราการเกิดก็ลดลงต่อเนื่อง จาก 796,104 คน ในปี 2554 เหลือเพียง 461,421 คน ในปี 2567
“คนกลุ่ม Silver Gen ในวันนี้ กำลังเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีบทบาทกำหนดทิศทางการตลาดและเศรษฐกิจของประเทศ”
ทั้งนี้ จักรพันธุ์ยังชี้ให้เห็นความสำคัญของคนกลุ่ม Silver Gen นอกจากกำลังซื้อที่สูงแล้ว พวกเขายังมีประสบการณ์ สั่งสมความรู้ และมีศักยภาพที่จะสร้างผลกระทบต่อสังคม และ CountUp เชื่อว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่เพียงแค่ ‘ผู้บริโภค’ แต่คือ ‘Change Makers’ ที่สามารถแบ่งปันมุมมอง สร้างคอมมูนิตี และขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้าได้
โลกในวันนี้กับโลกเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว หรือเมื่อ 40-50 ปีที่แล้วต่างกันมาก และสมัยก่อน สังคมโลกไม่ได้เชื่อมกันเท่าทุกวันนี้ เทคโนโลยีการแพทย์ก็ไม่ได้ดี รวมถึงการใส่ใจเรื่องสุขภาพ หรือ Health & Wellness ก็ไม่ได้เป็นเหมือนทุกวันนี้
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ภาพจำของคำว่า ‘ผู้สูงอายุ’ หรือ ‘คนแก่’ จะกลายเป็นคนที่อยู่อีกโลกกับพวกเรา กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกสังคมละเลยไม่เห็นความสำคัญ เพราะคนอายุเยอะก็คืออายุเยอะ เป็นไปตามอายุขัย เป็นไปตามชุดความรู้ตามยุคสมัยนั้นมีอยู่ แต่ทุกวันนี้ คนกลุ่ม Silver Gen เปลี่ยนไปเยอะมาก เราอาจไม่รู้และดูไม่ออกด้วยด้วยซ้ำว่าผู้หญิงที่เราเจอในร้านอาหาร ผู้ชายที่นั่งตรงบาร์คนนั้น คือ คนวัย 50+ แล้ว เพราะความสนใจและไลฟ์สไตล์ที่สดใสและสดใหม่อยู่เสมอ
“CountUp จึงไม่ได้เป็นตัวแทนของ Silver Gen ในเรื่องอายุ แต่เป็นตัวแทนของคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในช่วงเวลาใหม่ ที่มาแชร์เรื่องต่างๆ ให้พวกเราฟัง” ลักญ-เอกลักญ กล่าว

ด้วยเอกลักญเองก็เป็นคนที่สนใจสร้างคอมมูนิตี เชื่อมโยงวัฒนธรรมใหม่ๆ นี่จึงเป็นโอกาสที่จะเข้าไปทำความเข้าใจและเรียนรู้จากคนวัยนี้ การเข้ามาทำงานกับ CountUp ทำให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น ได้เชื่อมโยงทั้งผู้คน มุมมองทางธุรกิจ และความครีเอทีฟเข้าด้วยกันอย่างลงตั
และในอนาคตข้างหน้า CountUp จะไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มคอนเทนต์ แต่จะเป็น On-Ground Experiences ที่มีมิติหลากหลาย ตั้งแต่งานทอล์ก (Talk Session) ไปจนถึง Community Event ที่ช่วยสร้างวัฒนธรรมใหม่ของคนวัยนี้ โดยเป้าหมายของพวกเรา คือ ทำให้ Silver Gen กลายเป็นกลุ่มที่มีพลังในการขับเคลื่อนสังคม ไม่ใช่แค่ผู้รับสาร แต่เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง
แล้วสุดท้าย…CountUp คืออะไร?
‘CountUp สะสมมาเพื่อแบ่งปัน’ นี่คือหัวใจสำคัญที่เอกลักญให้คำจำกัดความของแพลตฟอร์มนี้
“คนเราสะสมสิ่งต่างๆ ไว้มากมาย และคงเป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าไม่มีใครได้ใช้สิ่งเหล่านั้นต่อ ถ้าเราสามารถแบ่งปันมันออกไปได้ ก็น่าจะสร้างประโยชน์ต่อได้มากมาย”
ด้านวรรณา เสริมว่า CountUp เป็นทัศนคติ (Attitude) ที่ต้องการให้คนวัย Silver Gen ภูมิใจในตัวเอง ถ้าสมมติให้ CountUp เป็นแบรนด์ และคนวัยแบบเธอจะไม่อายที่สวมใส่เสื้อผ้าที่มีโลโก้ CountUp เพราะสิ่งนี้หมายถึงการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่มองไปข้างหน้า
“CountUp กำลังจะบอกกับทุกคนว่า ‘อย่าประเมินศักยภาพของ Silver Gen ต่ำเกินไป’ พวกเรายังคงมีพลัง มีศักยภาพ และยังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้เสมอ และสิ่งที่เรายืนหยัด คือ อายุไม่ใช่ข้อจำกัด ไม่ว่าคุณจะอายุ 50, 60 หรือ 80 ปี ถ้าคุณมีแนวคิดแบบ CountUp—มองไปข้างหน้า ไม่ถอยหลัง คุณก็คือส่วนหนึ่งของเรา”

CountUp จึงเป็นแบรนด์ที่สร้างขึ้นจากแนวคิดแบบ Positive Thinking และเป็นงานที่วรรณาตั้งใจและทุ่มเทมาโดยตลอด CountUp จึงไม่ใช่แค่แพลตฟอร์ม แต่เป็นการสะท้อนตัวตนและวิธีคิดของตัวเธอเอง
และสุดท้าย…จักรพันธุ์ เสริมว่า เขาเองก็กำลัง สร้างคอมมูนิตี ไว้รอเพื่อนๆ ตัวเองมา รวมถึงรุ่นน้องๆ ด้วยในอนาคตด้วย
“มา! พวกเอ็งก็หนีไม่พ้นหรอก วันนี้ยังมาไม่ถึง วันหน้าก็ต้องแก่เหมือนกัน (หัวเราะ)” จักรพันธุ์ ทิ้งท้าย
จากจุดเริ่มต้นของ CountUp สู่การร่วมมือครั้งใหม่กับ BrandThink นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญของ Silver Gen ในประเทศไทย การเดินทางของคนวัย 50+ ไม่ใช่การ Count Down ไปสู่จุดจบ แต่คือการ CountUp เพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้น
CountUp จึงเป็นการนับก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความหมาย
เรื่อง : ภีมรพี ธุรารัตน์
ภาพ : ภรัณยู วรรณศรีพิศุทธิ์