เผยเคล็ดลับสร้างพื้นที่ให้ ‘คนเก่งปล่อยของ’ โดย Paperspace ธุรกิจสร้างสรรค์ ที่เข้าใจคนทำงาน

Last updated on ส.ค. 21, 2024

Posted on ส.ค. 10, 2024

มี Research ที่น่าสนใจของ CABE (หน่วยงานดูแลด้านสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อมจากอังกฤษ) เกี่ยวกับ ‘โครงสร้างการออกแบบออฟฟิศ ส่งผลให้คนทำงานมี Creativitiy’ ออฟฟิศที่มีวิธีคิดถึงการออกแบบ รวมถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี จะสามารถช่วยจุดประกายแรงบันดาลใจ และสิ่งนี้ยังส่งผลต่อคุณภาพของงานอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น ออฟฟิศที่มีแสงไฟสว่างเพียงพอ มีการจัดระเบียบดี จะช่วย boost energy พนักงาน และส่งผลถึงความเป็นอยู่ที่ดี หรือออฟฟิศไหนมีการออกแบบให้อยู่ในรูปแบบที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ จะมีประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้พนักงานตื่นตัว มีสมาธิ และช่วยหลีกเลี่ยงจากอาการปวดหัว เพราะแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนซ์จะมีการกะพริบ แม้การกะพริบเราจะมองเห็นด้วยตาเปล่าไม่ได้ แต่เพราะสาเหตุเหล่านี้แหละทำให้เกิดไมเกรน และเวียนหัวระหว่างวัน

วันนี้นับเป็นเรื่องดีสำหรับผู้อ่านทุกท่าน เพราะทาง #CREATIVETALK ได้รับเกียรติจากคุณสมบัติ งามเฉลิมศักดิ์, Co-Founder & Chief Experience Officer, Paperspace Asia ได้มาร่วมพูดคุยถึงการดีไซน์พื้นที่ในออฟฟิศ หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่บริษัทระดับโลก และบริษัทชั้นนำในไทยให้ความสำคัญกับคนทำงานในการเพิ่ม Creativity ที่ดี

🏢 พื้นที่ของคนทำงาน มีประโยชน์กับคนทำงานอย่างไร

ออฟฟิศที่ดี สามารถเพิ่มศักยภาพให้กับคนทำงาน และเกิด Productivity สูงมาก ในทางกลับกันออฟฟิศที่ไม่ได้ใส่ใจในด้านการออกแบบ ก็มีโอกาสทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานไม่เอื้ออำนวย ทำให้พนักงานเหนื่อยล้าเครียด และทำได้ไม่ดี จนเป็นหนึ่งในสาเหตุของการลาออก เพราะปัจจัยขั้นพื้นฐานไม่เอื้ออำนวยให้กับคนทำงานนั่นเอง

คุณสมบัติ หรือคุณอุ้มได้เล่าให้เราฟังว่า ธุรกิจหลักของ Paperspace เสมือนเป็น Tools ในการวางแผนตั้งแต่ Day 1 ในการออกแบบออฟฟิศ เพื่อนำไปสู่การตอบโจทย์ของทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Productivty, การเพิ่ม Creativity หรือแม้กระทั่งเราจะทำอย่างไรให้คนทำงานรู้สึกรัก และชอบทำงานที่ออฟฟิศ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกับ Performance ของตัวคนทำงาน และองค์กรด้วยเช่นกัน


🏢 แล้วตัวอย่างออฟฟิศที่มีการออกแบบไม่ดี มีหน้าตาเป็นอย่างไร

  • ออฟฟิศที่มีโต๊ะทำงานที่คนหันให้ทางเดิน ก็จะทำให้คนไม่ชอบ มีคนเดินผ่านหลัง เดินผ่านข้างหน้า ซึ่งมันเกิดการ distract ตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งออฟฟิศที่อัดคนเข้ามาในพื้นที่เล็ก ๆ
  • ออฟฟิศที่เสียงดังเกินไป ไม่มีการออกแบบพื้นที่ให้พูดคุย ก็จะทำให้คนทำงานคนอื่น ๆ ไม่มีสมาธิ
  • ออฟฟิศที่ห้องประชุมแน่นจนเกินไป ทำให้ไม่มีพื้นที่เพียงพอต่อความต้องการ

ซึ่ง Pain เหล่านี้เกิดจาก Insight สำคัญที่ทาง Paperspace ไปร่วมออกแบบและได้พบเจอ เหตุการณ์เหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของคุณภาพชีวิตของคนทำงาน หากเราไม่ดูแล ไม่ใส่ใจ ก็อาจจะมีโอกาสทำให้พนักงานเบื่องาน หมดแพสชัน หรือหงุดหงิดกับเรื่องทั่วไปแทนที่เขาจะไปโฟกัสการทำงาน นำไปสู่การลาออกในที่สุดได้เช่นกัน เพราะบางครั้งผู้บริหารหรือองค์กรเองก็อาจจะไม่ได้โฟกัสคุณภาพชีวิตของพนักงานมากพอ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่บริษัทต้องให้ความสนใจความเป็นอยู่ของพนักงานที่ดี เรื่องความเป็นอยู่พื้นฐาน หรือมีพื้นที่ให้คนทำงานได้อย่างสบายใจ


🏢 เคสน่าสนใจที่ทาง Paperspace ออกแบบให้กับองค์กร

💡 The Standard

โดยทาง The Standard มีเป้าหมายที่ชัดเจนตั้งแต่ Renovate ออฟฟิศใหม่โดย ซึ่งทาง Paperspace ได้เข้าไปออกแบบตั้งแต่คิด Strategy, ออกแบบ Design ไปจนถึงเข้าไปพูดคุยเพื่อหา Need ขององค์กรนั้น ๆ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์อะไรให้กับองค์กร โดยในช่วงเวลานั้นทาง The Standard เองอยู่ในช่วง Covid จึงทำให้พนักงานต่างก็ WFH กันหมด พฤติกรรมคนทำงานเปลี่ยนแปลงไปและต่างคนก็ต่างชินกับการทำงานที่บ้าน ดังนั้นการจะนำพวกเขากลับมาออฟฟิศอีกครั้งนับเป็นเรื่องท้าทาย ซึ่งวิธีการคิดนั้นนำมาสู่การออกแบบที่เป็นสไตล์ของ The Standard เอง ซึ่งช่วยให้คนอยากกลับมาทำงานที่ Office มากขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้พนักงานรักองค์กรมากขึ้น นำไปสู่ Coperate Culture ที่ดี

💡 Google

Google เองก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับ The Standard คือในช่วงที่คนต่างก็เข้าสู่การทำงานที่บ้านได้ แต่หนึ่งในโจทย์สำคัญของ Google คือไม่ใช่แค่อยากให้เขากลับมาเท่านั้น แต่ต้องทำให้คนทำงานเกิด Inspiration หรือ Creativity มากกว่าการทำงานนอกสถานที่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้พนักงานที่ Google กลับมาออฟฟิศกันมากขึ้น สามารถสร้างความผูกพัน และทำให้เกิด Coffee Talk ได้ ด้วยการออกแบบ เมื่อเรามีพื้นที่เอื้ออำนวยกับคนทำงาน เขาจะมีความสุขมากขึ้น และเกิดไอเดียใหม่ ๆ ได้จริงซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมของ Google

💡 TDRI

TDRI หรือ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เป็นอีกเคสที่น่าสนใจ และมีความท้าทายมาก ๆ เนื่องจากก่อนหน้าองค์กรมีความเก่าแก่ พื้นที่การทำงานพนักงานส่วนใหญ่มีแต่เอกสารเต็มโต๊ะไปหมด ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ทำให้ไม่เกิด Motivate ในการทำงาน แต่หลังจากการปรับครั้งใหญ่นี้ มีเรื่องที่น่าสนใจคือมีพนักงานที่เคยออก กลับมาบอกว่า ขอสมัครเข้าทำงานอีกครั้ง เนื่องจากออฟฟิศน่าทำงาน!


🏢 ดังนั้นออฟฟิศที่ดี ควรต้องตอบโจทย์ 4 เรื่องนี้

1. Focus

ต้องมีพื้นที่ให้พนักงาน โดยเฉพาะพื้นที่ทำงานเงียบ ๆ อาจจะเป็นโต๊ะทำงานเล็ก ๆ และเป็นพื้นที่เก็บเสียง หรือมีความส่วนตัวในการทำงาน

2. Collaborate

พื้นที่ทำงานควรอำนวยในการให้คนทำงานแลกเปลี่ยนไอเดีย คุยเล่นบ้าง ผ่อนคลายได้ ซึ่งการจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดี พื้นที่อย่างโซนส่วนกลางทำกิจกรรมมีความสำคัญ หรือห้องประชุมไว้คุยงาน

3. Solutioning

พื้นที่ในการกำหนดกลยุทธ์ เรื่องไหนสำคัญ เป็นเป้าใหญ่ขององค์กร พื้นที่อย่างห้องเทรนนิ่งจะช่วยให้เราสามารถระดมไอเดียได้ ได้ปลดปล่อยศักยภาพอย่างเต็มที่ โดยไม่รบกวนคนทำงานคนอื่น

4. Networking

หรือพื้นที่ให้คนทำงานกลับเข้าออฟฟิศ เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์พูดคุยกัน ส่วนนี้มีความสำคัญในปัจจุบันมาก อาจจะเป็นพื้นที่ย่อย หรือบาร์เครื่องดื่มที่ในปัจจุบันเราก็เห็นหลายองค์กรใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลางให้คนทำงานมาสังสรรค์กัน

ซึ่งออฟฟิศที่จะสร้าง Creativity ให้กับองค์กรได้ จะต้องทำให้คนทำงานสามารถทำงานได้ดีที่สุด ที่เขารู้สึก Comfortable ที่สุด มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีพื้นที่ให้เขาได้ลองผิด ลองถูก หรือทำให้คนทำงานรู้สึกสบายใจ และสามารถจัดการ Pain ใหญ่ ๆ ขององค์กรได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีเอกสารเต็มโต๊ะไปหมด มันก็จะส่งผลให้เราไม่มีโฟกัส ทำงานไม่เรียบร้อย แต่หากมีออฟฟิศที่ดี ถูกออกแบบเรื่องการจัดเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย โต๊ะทำงานสะอาด มีที่จัดเก็บ ก็จะช่วยให้คนทำงาน สามารถมีโฟกัส มี Creativty เพิ่มขึ้นได้ และยังเป็นการสร้างนิสัยใหม่ที่ดีให้คนทำงานได้อีกด้วย


บางครั้งออฟฟิศที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง หรือไม่มีความยืดหยุ่นก็จะทำให้คนทำงานคิดอะไรไม่ค่อยออก บางครั้งก็อาจจะขาดความคิดสร้างสรรค์ เพราะไม่มีพื้นที่ให้เขาได้ลองผิด ลองถูก ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียของธุรกิจที่ใส่ใจออฟฟิศในยุคปัจจุบัน การลงทุนในบรรยากาศการทำงาน ก็ถือเป็นเรื่องที่ผู้นำองค์กรควรให้ความสำคัญ


แปล เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ

ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags