ผู้กำกับออสการ์ เขาหาไอเดียกันยังไง สรุป 5 เทคนิค ‘เติมความครีเอทีฟให้กับงาน’ โดย Christopher Nolan ผู้กำกับ Oppenheimer

ทำไมคริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) จึงมักถูกแฟนหนังเรียกว่า ‘เสด็จพ่อ’ กันล่ะ เพราะความอลังการจากผลงานที่เขาสร้าง หรือเพราะความคิดสร้างสรรค์ที่เขามี เรามาดูกันดีกว่าว่าทำไมชายคนนี้ถึงสร้างภาพยนตร์ดัง ๆ ได้มากมาย

Last updated on มี.ค. 11, 2024

Posted on ก.ค. 21, 2023

20 กว่าปีที่โลดแล่นในอุตสาหกรรมครีเอทีฟ ทำหนังจนได้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ ผู้คนเรียกขานเขาว่า ‘เสด็จพ่อ’ ตั้งแต่ยังไม่เคยได้จับรางวัลออสการ์ เหตุใดคริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) จึงสามารถหาไอเดียใหม่ ๆ มาครีเอทีฟให้กับผลงานของตนได้เสมอ

คริสโตเฟอร์ โนแลน เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องคนหนึ่งของฮอลลีวูด โดยล่าสุดเขาเพิ่งคว้ารางวัลออสการ์ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง จากหนังเรื่อง Oppenheimer ซึ่งก่อนหน้านั้นโนแลนมีผลงานที่โด่งดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ไตรภาคแบทแมน The Dark Knight, Inception, interstellar, TENET โดยเอกลักษณ์ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน คือการที่ในแต่ละเรื่องมักจะมีก้อนไอเดียที่อันน่าทึ่ง มาผสมกับเนื้อหาหนังที่ซับซ้อนจนทำให้คนดูติดใจ

ความครีเอทีฟ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาถูกยกย่องโดยแฟนหนังมากมาย จนในที่สุดก็กวาดรางวัลออสการ์ไปนอนกอดสมใจ และวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกแนวคิด และวิธีการหาไอเดียในฉบับผู้กำกับออสการ์ ว่าทำอย่างไร ถึงครองใจคนทั่วโลกได้

1. แก้งานทุก 4-5 หน้า เพื่อหาลูกเล่นใหม่ ๆ

ปกติคนเขียนบทมักจะใช้วิธีเขียนให้เสร็จแล้วค่อยแก้บท แต่โนแลนจะใช้วิธีเขียนไป 4-5 หน้า จากนั้นจึงเขียนใหม่ซ้ำ ๆ อย่างละเอียด แล้วค่อยแก้ไข วิธีการนี้ช่วยให้เขาสามารถสำรวจไอเดียแต่ละส่วนได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้เขามั่นได้ใจว่าเรื่องราวต่าง ๆ จะมีความสอดคล้องกัน

สำหรับคนทำงานที่ต้องใช้ความครีเอทีฟแล้ว วิธีปรับแต่งทีละขั้นตอน ด้วยการค่อย ๆ ทบทวน และปรับปรุงงานอยู่ตลอดจะช่วยให้เราค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และได้ไอเดียที่คาดไม่ถึงอยู่เสมอ


2. ติดไดอะแกรมบนกำแพง

ลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของโนแลนคือการเลือกใช้วิธีการที่มองเห็น และสัมผัสได้ ในขณะที่เขาพัฒนาโปรเจกต์ เขาจะวาดรูปทรงกับไดอะแกรม แล้วนำสิ่งนั้นมาเขียนไอเดียเพื่อติดมันเข้าไปกับผนัง

ไดอะแกรมเหล่านี้ ทำให้เราสามารถติดตามได้ว่าไอเดียไหนจะสามารถต่อยอดไปสู่อะไรได้บ้าง ซึ่งการติดไดอะแกรมเข้ากับผนัง ทำให้เราเข้าใจกระบวนการที่ซับซ้อน สามารถจัดลำดับความสำคัญ พร้อมทั้งได้ไอเดียที่ทำให้เราเห็นภาพที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมได้


3. ใช้กระดาษ Post-It มากรองไอเดีย

นอกเหนือไปจากการติดไดอะแกรมบนกำแพงแล้ว โนแลนยังเป็นคนที่ชอบใช้กระดาษโพสต์อิท หรือ Index Cards เอามาก ๆ โดยเขาใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อจดช่วงเวลาสำคัญของบทหนัง และใช้รหัสสีเพื่อให้สังเกตได้ง่าย ซึ่งการใช้โพสต์อิทมาจดประเด็นไปจนถึงจัดเรียงโครงสร้างไอเดีย จะทำให้งานของเราสามารถปรับเปลี่ยนแนวคิด และปรับปรุงไอเดียได้ง่ายขึ้น


4. ร่างดราฟต์แรกด้วยปากกากับกระดาษ

เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ที่รู้ว่าโนแลนตั้งใจหลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์ในช่วงเริ่มต้นของการคิดไอเดีย เพราะเขานั้นชอบปากกากับกระดาษที่จับต้องได้มากกว่า ซึ่งการใช้ปากกามาจดไอเดียลงไป จะทำให้เราปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ เพราะมือที่จับปากกานั้นทำงานไปพร้อมกับสมองของเรานั่นเอง


5. ทำงานพร้อมกันหลายอย่าง ช่วยปั้นไอเดียใหม่

โนแลนไม่ใช่คนที่มุ่งความสนใจไปที่โปรเจกต์เดียว เขามีส่วนร่วมในการพัฒนาโปรเจกต์หลายตัวพร้อม ๆ กัน แม้ว่าการทำงานหลายโปรเจกต์อาจเป็นเรื่องที่ดูน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วมันช่วยเพิ่มไอเดีย และป้องกันการปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ได้

การสลับไปมาระหว่างโปรเจกต์ที่แตกต่างกัน ทำให้จิตใจของเรารู้สึกมีแรงบันดาลใจมากขึ้น ฉะนั้นแล้วเมื่อเราเผชิญปัญหาในโปรเจกต์หนึ่ง ลองเปลี่ยนไปโฟกัสอีกโปรเจกต์ดูสิ เพราะมันอาจนำมาสู่มุมมอง และแนวทางแก้ไขใหม่ ๆ ได้นะ


ท้ายที่สุดสิ่งด้วยความตั้งใจ เด็ดขาด และความครีเอทีฟ ก็ช่วยให้คริสโตเฟอร์ โนแลน สามารถขึ้นไปยืนแถวหน้าของโลกภาพยนตร์ในฐานะผู้กำกับออสการ์ได้ ซึ่งเขาคงไม่สามารถจะมีวันนี้ได้เลย หากขาดทีมงานที่ดี ระบบการจัดการความคิด และเทคนิคความคิดสร้างสรรค์ที่หล่อหลอมให้เขาเป็น ‘เสด็จพ่อโนแลน’


ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags