รายงาน Digital Marketing Trends Report 2025 โดย Content Shifu เหมาะกับใคร ?
แน่นอนว่าเหมาะสำหรับนักการตลาดและคนทำธุรกิจทุกคน รวมถึงผู้ที่สนใจเรื่องของ Insight การตลาด ทั้งผู้ที่อยู่ในแบรนด์และบุคคลทั่วไป, หรือใครที่ต้องทำแผนการตลาด หรือเอเจนซีที่ต้องการไป Pitching งานโดยมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ซึ่ง Insights จาก Report เล่มนี้ จะเป็นเหมือนเข็มทิศสำคัญที่จะช่วยนำทางให้นักการตลาดสามารถวางกลยุทธ์และปรับตัวได้อย่างแม่นยำในปี 2025 นี้!
1. ผลลัพธ์จากการทำ Digital Marketing ในปี 2024
- 50.4% ของนักการตลาดดิจิทัลบอกว่า ทำ Digital Marketing ได้ไม่ตามเป้าในปี 2024
- 33.4% ของนักการตลาดดิจิทัลบอกว่า พวกเขาทำได้ตามเป้า ในปี 2024
- 16.2% ของนักการตลาดดิจิทัลบอกว่า พวกเขาทำได้มากกว่าเป้า ในปี 2024
จากภาพรวมชุดนี้คุณแบงค์ สิทธินันท์ พลวิสุทธิ์ศักดิ์ CEO of Content Shifu ได้วิเคราะห์ไว้ถึงมุมของเศรษฐกิจในบ้านเราด้วย ที่ไม่ค่อยจะดีนัก หรือปัญหาการเมืองทั้งในระดับโลกและประเทศ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มที่เยอะมาก จึงส่งผลในการทำให้นักการตลาดทำได้ไม่ตามเป้า!
2. เทรนด์ในด้านเป้าหมายในการทำ Digital Marketing 2024 & 2025 มันแตกต่างกันอย่างไร ?
2.1 สร้างการรับรู้ของแบรนด์
- ในปี 2024 เป้าหมายอยู่ที่ 73.4%
- ในปี 2025 เป้าหมายอยู่ที่ 69.8%
2.2 หาลูกค้าใหม่
- ในปี 2024 เป้าหมายอยู่ที่ 76.0%
- ในปี 2025 เป้าหมายอยู่ที่ 80.4%
2.3 สร้างผู้ติดตาม / เก็บ Leed
- ในปี 2024 เป้าหมายอยู่ที่ 54.2%
- ในปี 2025 เป้าหมายอยู่ที่ 58.2%
2.4 สร้างยอดขาย
- ในปี 2024 เป้าหมายอยู่ที่ 68.2%
- ในปี 2025 เป้าหมายอยู่ที่ 79.9%
2.5 รักษา / สานสัมพันธ์กับลูกค้าเก่า
- ในปี 2024 เป้าหมายอยู่ที่ 37.4%
- ในปี 2025 เป้าหมายอยู่ที่ 53.3%
2.6 เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า
- ในปี 2024 เป้าหมายอยู่ที่ 28.8%
- ในปี 2025 เป้าหมายอยู่ที่ 42.1%
Insight ที่น่าสนใจจากเรื่องนี้คือ เมื่อเทียบปี 2025 กับปี 2024 แล้ว การหาลูกค้าใหม่ และการสร้างยอดขายจะมีความสำคัญขึ้นอย่างมาก ในขณะที่เป้าหมายเรื่องการสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) ของแบรนด์นั้นลดน้อยลง เพราะนักการตลาดในปีนี้ไม่ได้อยากจะได้เพียง Brand Awareness เพียงอย่างเดียว แต่เขาก็อยากได้ลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะโฟกัสเรื่องการขายในปี 2025 นี้
อีกมุมที่น่าสนใจของสถิตินี้คือเรื่องของ การรักษา/สานสัมพันธ์กับลูกค้าเก่า (Retain Customers) คุณแบงค์ได้วิเคราะห์ไว้ถึงแม้ตัวเลขในปีก่อน กับปีนี้จะห่างกันไม่มาก แต่เรื่องนี้ยังคงสำคัญเพราะลูกค้าเก่าคือฐานที่สำคัญ หากเราอยากสร้างยอดขาย การไปหาลูกค้าใหม่เป็นเรื่องที่ดี แต่เราต้องใช้ทุน ใช้เวลาเยอะ ในทางกลับกันหากเรากลับไป Dig Data หรือขุดมันดูสิว่าลูกค้าเก่าเราจะสานสัมพันธ์อย่างไร และมีโอกาสทำให้การสร้างยอดขายได้ดีกว่าการไปหาลูกค้าใหม่ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละธุรกิจของคุณด้วย เพราะบางธุรกิจอาจไม่มีอัตราการซื้อซ้ำเยอะ จึงจำเป็นต้องหากลุ่มลูกค้าใหม่
3. เทรนด์ในการทำ Digital Marketing ในปี 2025
- อันดับ 1 - Content Marketing (76.3%)
- อันดับ 2 - Social Ads (i.e. Facebook Ads, TikTok Ads) (68.8%)
- อันดับ 3 - Social Media Marketing (66.9%)
- อันดับ 4 - SEO (56.4%)
- อันดับ 5 - Community Marketing (45.2%)
หนึ่งในเหตุผลของ Content Marketing, Community Marketing และ SEO มาแรงในปีนี้คือเรื่องของการไปยิงโฆษณามันแพงขึ้น ความเจ็บปวดเหล่านี้เป็นประเด็นสำคัญมาก หรืออย่าง SEO คุณแบงค์ได้เสริมถึงในอนาคตมันจะกลายเป็น ‘Search everywhere optimization’ คือการที่คนต้องคิดมากขึ้นว่าคนส่วนใหญ่ Search ในโซเชียลมีเดีย หรือ Search ใน AI มากขึ้น
ดังนั้นมุมมองของคำว่า Search จะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้นักการตลาดกลับมาโฟกัสมุมนี้มากขึ้น ซึ่งการทำ Content Marketing ให้ดีมีคุณค่า คอนเทนต์เหล่านั้นต้องตอบคำถามหรือแก้ไขปัญหาอะไรให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญในปีนี้ที่มาแรงยืนหนึ่ง
รวมถึงอีกจุดที่ควรโฟกัสในปี 2025 ที่จะมีคนวางแผนทำเรื่องนี้มากขึ้น คือเรื่องของ Email Marketing, Live Commerce, Referral Marketing และ UGC (User-generated Content) เป็นวิธีการทำการตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด (เกิน 100%)
4. ประเภทของคอนเทนต์ที่มาแรงในปี 2025
- อันดับ 1 - Short Video (81.2%)
- อันดับ 2 - Social Post / Album (64.6%)
- อันดับ 3 - Long-form Video (57.7%)
- อันดับ 4 - Short-form Article (45.4%)
- อันดับ 5 - Infographic (39.7%)
Insight ที่น่าสนใจจากเรื่องนี้คือ Short Video เป็นหนึ่งในประเภทคอนเทนต์ที่นักการตลาดิจิทัลวางแผนจะทำในปี 2025 มากที่สุด ในขณะที่ Long-form Article, eBook / Report / White Paper, Podcast, Quiz และ Webinar/Online Event เป็น Content ที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก (นักการตลาดมองหารูปแบบ Content ใหม่ ๆ มากขึ้น)
อีกมุมที่น่าสนใจจากคุณแบงค์ คือคนที่สามารถทำคอนเทนต์การตลาดแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี จากสถิติส่วนใหญ่เลือกจะทำคอนเทนต์ประเภท Long-form Video ซึ่งมีตัวเลขสูงถึง 84.8% เหตุผลหลัก ๆ ของ Video ยาวจะเน้นในเชิงของ Consideration ช่วงที่ลูกค้ากำลังพิจารณาว่าจะซื้อ หรือไม่ซื้อ ซึ่งมักจะนำไปใช้ในการรีวิวให้ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก, โน้มน้าวลูกค้าในการตัดสินใจซื้อ และที่สำคัญเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีกับ Search Engine ด้วยเช่นกัน อย่างการไปทำลง YouTube ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า YouTube เองก็เป็น Search Engine อันดับ 2 ของโลก ซึ่งอย่างในทุกวันนี้ก็มีคนทำ Video ยาว ๆ มากถึง 3 ชม. ก็ยังมีคนดูอยู่เรื่อย ๆ
5. E-Marketplace ในปี 2025 นี้อะไรมาแรง!
- อันดับ 1 - TikTok Shop (47.4%)
- อันดับ 2 - Shopee (42.8%)
- อันดับ 3 - Lazada (35.8%)
- อันดับ 4 - ไม่ใช้ มีมากถึง (37.9%)
- อันดับ 5 - LINE SHOPPING (30.6% :
Insight ที่น่าสนใจจากเรื่องนี้คือ TikTok Shop ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มมาแรงแซงโค้งมาก ๆ เมื่อเทียบกับปี 2024 มีเพียงแค่ 27% เท่านั้นแต่ปีนี้แซงนำไปถึง 47.4% ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่าในปีนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะอย่าลืมว่าเรายังพึ่งผ่านกันมาแค่ครึ่งเดือนของมกราคมเท่านั้น E-Marketplace ณ ตอนนี้ยังคงต้องจับตาดูกันอีกยาว!
ส่วนอันดับ 4 ทำไมถึงมีคนไม่ใช้เยอะ เหตุผลส่วนใหญ่มาจากธุรกิจเน้นไปที่ B2B เป็นหลัก ซึ่งไม่ได้มีความจำเป็นในการเข้ามาขายใน E-Marketplace นั่นเอง
6. Social Media ที่นักการตลาดทำผลลัพธ์ได้ดีในปี 2025
- อันดับ 1 - Facebook (83.1%)
- อันดับ 2 - TikTok (80.2%)
- อันดับ 3 - YouTube (59.5%)
- อันดับ 4 - LINE (58.3%)
- อันดับ 5 - Instagram (54.5%)
Insight ที่น่าสนใจจากเรื่องนี้คือ นักการตลาดดิจิทัลที่ทำผลลัพธ์ได้ตามเป้าหรือมากกว่าเป้าจากการใช้ Digital Marketing ให้ความสำคัญกับ Social Media อย่าง Facebook, TikTok และ YouTube มากที่สุดตามลำดับ แต่เฉพาะ Facebook ถ้าเทียบสัดส่วนจากปีก่อนถือว่าเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่นักการตลาดส่วนใหญ่วางแผนจะใช้งานน้อยลง เนื่องด้วยจากการแข่งขันที่มากขึ้น และมีการปรับเปลี่ยนอัลกอริทึมอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ที่น่าสนใจคือแพลตฟอร์มที่มีการเติบโตในการใช้งานสูงมากขึ้นคือ Lemon8 (เกิน 500%) เมื่อเทียบจากปีก่อน ซึ่งถือว่าเป็นอีกแพลตฟอร์มที่น่าจับตามองเช่นกัน
7. การใช้ AI ของนักการตลาดที่ทำผลลัพธ์ได้ดีในปี 2025
- อันดับ 1 - ขยายไอเดีย) (78.7%)
- อันดับ 2 - สร้างไอเดีย (75.5%)
- อันดับ 3 - เขียนคอนเทนต์ / เขียนคำโฆษณา (68.2%)
- อันดับ 4 - Personalize Content (56.6%)
- อันดับ 5 - แก้ไขข้อความ หรือ Edit Text (50.7%)
จากข้อมูลชุดนี้ในปี 2025 สิ่งที่เราจะเห็นนักการตลาดนำ AI มาใช้มากขึ้นคือ เราจะเห็น Use Case มากขึ้น ทั้งการซื้อโฆษณา อย่างการให้ AI Optimize bidding ราคาให้, การทำ Customer Support, การทำ Personalize Content และ Automate Task รวมไปถึงการนำ AI มาสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้ Creative ขึ้น หรือทำคอนเทนต์ในรูปแบบ Video ที่ใช้ AI มากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของรายงานจาก Digital Marketing Trends Report 2025 โดย Content Shifu แนะนำเพื่อน ๆ ลองทำความเข้าใจจากข้อมูลชุดนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีของนักการตลาด และคนทำธุรกิจทุกคนเมื่อเรามีวัตถุดิบที่ดีแล้ว อย่าลืมไปต่อยอดทำให้มันกลายเป็นข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
สามารถดาวน์โหลด Digital Marketing Trends Report 2025 ได้ที่
เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ