คนไทยเราชอบหิมะ เพราะประเทศเราไม่มีหิมะ เราอยากไปเล่น ไปถ่ายรูป ไปสกี
แต่ใครจะรู้ว่า หิมะมีอีกหนึ่งวิธีที่เราสามารถ enjoy กับมันได้ นั่นคือ
“กิน”
..
เวอร์มอนต์ เป็นชื่อรัฐที่อยู่ทางเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐนี้เป็นรัฐเล็ก ๆ ที่มีประชากรอาศัยอยู่เพียงหกแสนกว่าคน น้อยจนติดอันดับรัฐที่มีประชากรน้อยที่สุดอันดับสองของอเมริกา
อย่างไรก็ตามแม้ว่ารัฐนี้จะมีประชากรน้อยนิด แต่ก็เป็นต้นกำเนิดของไอศกรีมยี่ห้อดัง “Ben and Jerry” ที่มีขายกระจายไปทั่วทุกมุมโลก
แต่ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว แน่นอนว่ารัฐที่อยู่เหนือนิวยอร์ก เหนือบอสตันไปแล้วนั้น จะหาความอบอุ่นคงเป็นไปได้ยากยิ่ง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10 องศาเซลเซียส ความหนาวอุณหภูมิต่ำสุดที่เคยวัดได้อยู่ที่ติดลบ 46 องศา!! ใช่ครับ ติดลบ 46 สำหรับคนไทยอย่างเราตัวเลข 46 ยังมีโอกาสใกล้ความเป็นจริงมากกว่า -46 เป็นแน่แท้
อากาศหนาวอย่างนี้ต้องมีหิมะ
แน่นอนว่าคนที่นี่ต้องคุ้นชินกับความหนาว เมืองเงียบ ๆ อากาศเย็น ๆ คนน้อย ๆ เป็นอะไรที่ชวนให้เหงายิ่งนัก ผมมีโอกาสได้ขึ้นไปเวอร์มอนต์ในช่วงที่หิมะขาวโพลนแต่นุ่มไปทั่วพื้นที่ ภาพที่ไม่ค่อยจะคุ้นตาแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น
แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ผมเองกลับไม่ชอบหิมะเท่าไหร่ เพราะนอกจากมันจะหนาวเย็นเยือกเข้าถึงกระดูกแล้ว การใส่เสื้อ 4-5 ชั้นยังทำให้ตัวหนาเป็นหมี ขยับตัวยาก จะลุกนั่ง เข้าออกรถยนต์ก็แสนจะยากเย็น นี่ยังไม่พูดถึงมือที่ต้องใส่ถุงมือหนังหนา ๆ หยิบจับอะไรก็ยาก แต่ถ้าจะถอดออกมาก็ต้องมั่นใจว่ามันจะไม่แข็ง ชา จนไร้ความรู้สึก
พื้นหิมะหนา ๆ นี่ก็แล้วใหญ่ ตัวดีเหนือสิ่งอื่นใด ถ้าคุณนึกภาพการเดินบนหิมะสูงเท่าเข่าไม่ออก ลองจินตนาการตัวเองเดินอยู่บนโคลนหนาเท่าเข่าแทน ผมว่ามันน่าจะทุลักทุเลพอกัน
พื้นถนนที่หิมะถูกกวาดออกหมดแล้วก็ใช่ว่าจะดี น้ำที่เหลือเมื่อสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นจะกลายเป็นน้ำแข็ง เดินไม่ดีก็มีโอกาสพลาดลื่นล้มหัวแตก หรืออย่างน้อยก็ก้นจ้ำเบ้า มีเพียงผู้ที่รอบคอบ และมีประสบการณ์แล้วเท่านั้นจึงจะรอดผ่านอุปสรรคเช่นนี้ไปได้ ถ้าจะให้ฝึกสติ ที่เวอร์มอนต์น่าจะเป็นสถานที่ที่เอื้ออำนวยอันดับต้น ๆ ของประเทศนี้
การเดินทางขึ้นไปเวอร์มอนต์ก็เพื่อไปพบกับฝรั่งครอบครัวหนึ่งที่พี่สาวผมเคยไปขออาศัยอยู่ด้วยในโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน แม้ว่าผมจะไม่ได้แลกเปลี่ยนกับเค้า แต่ด้วยความใจดีของครอบครัวนี้ เค้าจึงเชื้อเชิญให้ผมมาร่วมสนุกช่วงวันหยุดคริสมาสประจำปี
สโนว์โมบิล คือ เครื่องเล่นยอดนิยม จริง ๆ มันเป็นยานพาหนะหน้าตาคล้าย ๆ เจ็ทสกี แต่เล่นบนหิมะแทนที่จะเล่นในทะเล และมันก็ถูกใช้เพื่อความบันเทิงมากกว่าการเดินทาง เหมือนเจ็ทสกีเป๊ะ
เราขับมันเล่นรอบบ้าน ลูกชายคนโตของครอบครัวสร้างเนินสูง ๆ เอาไว้ให้เรากระโดดลอยตัว
หลังจากเล่นเสร็จ พวกเราก็เหนื่อย ดักกลาส คุณพ่อเจ้าของบ้านที่มีเคราเฟิ้มสีขาวเดินมาบอกผมว่า “เดี๋ยวมีอะไรให้กิน”
จากนั้นดักกลาสก็เดินเข้าไปในบ้าน หยิบจานออกมา 4-5 ใบ แล้วเริ่มตักหิมะส่วนที่ยังขาวโพลน นุ่มปุกปุย และสะอาดใส่จาน จากนั้นก็ทยอยนำเข้าไปวางไว้บนโต๊ะทานข้าว
“มากินด้วยกันสิ” ดักกลาสบอก
ผมทำหน้าตา งง ๆ แต่ก็เดินเข้าไปอย่างว่าง่าย
เดาไม่ยากว่าดักกลาสน่าจะให้พวกเราได้กินหิมะเป็นแน่ เพราะจากประวัติที่ผมเคยเห็นแกกินดอกไม้มั่วสั่วเมื่อครั้งมาเยือนเมืองไทย ก็คิดว่าการกินหิมะคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ว่าแล้ว ดักกลาสก็เริ่มราด “เมเปิลไซรัป” น้ำหวานอย่างดีมีชื่อของรัฐเวอร์มอนต์
“กินสิ” แกบอก
อ้ำ.. อร่อย.. กินแล้วน้ำตาจะไหล.. คิดถึงน้ำแข็งใสเมืองไทย
นี่แหละ น้ำแข็งใสธรรมชาติสไตล์อเมริกัน