อย่าไปต่อเพราะคนอื่นบอกให้ทำ ลงลึกถึงแนวคิดของ ดาร์ท yes.iam.dart เดี๋ยวเล่าให้ฟัง!

Last updated on เม.ย. 25, 2025

Posted on เม.ย. 25, 2025

Unscripted Talk Story No.1 -  คุณดาร์ท - ธนทร ศิริรักษ์ ผู้ชายธรรมดา ที่ทำคอนเทนต์ได้ไม่ธรรมดา ในช่อง yes.iam.dart ชีวิตของเขาอาจไม่ได้เปิดฉาก ด้วยความพิเศษใด ๆ แต่สิ่งที่ทำให้เขาต่างออกไป คือความตั้งใจที่จะค้นหาตัวเอง จนวันหนึ่งเขารู้ว่าชีวิตมันไม่ต้องมีสคริปต์ ก็สามารถกำกับได้ด้วยมือเราเอง แล้วทุกคนล่ะอยากรู้จักชายคนนี้ไหม….เดี๋ยวเล่าให้ฟัง (🎶 เดี๋ยวดาร์ทเล่าให้ฟัง 🎶)

🎯 “จะไปต่อ หรือพอแค่นี้ ?” หนึ่งในคำถามสำคัญถึงช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ที่ในบางครั้งเราก็ต้องตัดสินใจ แม้ใจลึก ๆ จะลำบากใจแค่ไหนก็ตาม

บางครั้งความฝัน กับความจริง ก็มักจะชอบเดินสวนทางกันเสมอ โดยเฉพาะเมื่อถึงทางแยกของชีวิตที่เรียกว่า “การตัดสินใจ” หรือที่ใครมักจะพูดว่า “เราจะไปต่อ หรือพอแค่นี้” มันอาจจะโผล่ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่แม้แต่คุณผู้อ่านทุกคนก็มักจะต้องเผชิญกับทางแยกนี้กันทั้งนั้น รวมถึงผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ “ดาร์ท” หรือที่หลายคนรู้จักกันในช่อง yes.iam.dart 

คุณดาร์ท - ธนทร ศิริรักษ์ ผู้ชายธรรมดา ที่ทำคอนเทนต์ได้ไม่ธรรมดา ในช่อง yes.iam.dart (นั่นแหนะ! แอบป้ายยา) จากนักลงเสียงโฆษณาที่มีผลงานอย่าง Singha Red Lemon Soda, Mineral Water, Lactasoy, Thai Airasia X และอื่น ๆ อีกมาก สู่การเป็น Content Creator ด้วยสไตล์ที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ที่หลายคนจะเห็นการทำคลิป "Loop"  ได้อย่างแนบเนียน โทนภาพที่ดูเพลินตา เทคนิคการตัดต่อที่ไม่ซ้ำจำเจ แทบจะเรียกว่านี่พี่แกถ่ายมาน่าจะมี Footage เกิน 100 ตัวแน่ ๆ

ชีวิตของเขาอาจไม่ได้เปิดฉากด้วยความพิเศษใด ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรื่องของคุณดาร์ทต่างออกไป คือความตั้งใจที่จะค้นหาตัวเอง จนวันหนึ่งเขารู้ว่าชีวิตมันไม่ต้องมีสคริปต์ ก็สามารถกำกับได้ด้วยมือเราเอง แล้วทุกคนล่ะอยากรู้จักชายคนนี้ไหม….เดี๋ยวเล่าให้ฟัง (🎶 เดี๋ยวดาร์ทเล่าให้ฟัง 🎶)

🎯 หลายคนเห็นคุณดาร์ททำคลิปเจ๋ง ๆ มามากมาย คนอะไรเทสต์ดีขนาดนี้ แต่รู้ไหมว่าลึก ๆ แล้ว ตัวเขารู้สึกว่าไม่ได้มีพรสวรรค์ขนาดนั้น แต่พรเดียวที่เขามั่นใจคือ “ความพยายามแบบสุดชีวิต”

คุณดาร์ทเล่าให้ฟังว่า หากเปรียบตัวเองกับตัวละครสักตัวนึง เขาคือ “ไมค์ วาซอว์สกี้” สัตว์ประหลาดตัวเขียวตาเดียว จาก Monsters University หรือ Monsters Inc ที่หลายคนรู้จัก ผู้ที่เกิดมาไม่ได้น่ากลัว ไม่ได้ดูน่าเกรงขามแบบเพื่อน ๆ แต่กลับมีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็น ‘Scarer’ หรือผู้สร้างความหวาดกลัวให้กับเด็ก ๆ ซึ่งเป็นอาชีพยอดนิยมของโลก Monsters University 

ความน่าสนใจคือคุณดาร์ทก็เป็นอีกคนที่เกิดมาไม่ได้มีรูปร่างสูงใหญ่ ตัวเล็ก แถมก็ไม่ได้มีพรสวรรค์ แต่กลับมีฝันใหญ่อยากเป็นนักบาสอาชีพ ส่วนตัวของไมค์ก็ไม่เคยหยุดที่จะฝัน และพยายามอย่างสุดชีวิต แม้เขาจะตัวเล็กไม่ได้น่ากลัวเลยก็ตาม แม้รู้ดีว่าศักยภาพไม่ได้นำหน้าใคร แต่เขาเลือกจะวิ่งต่อ และพยายามให้สุดในสิ่งที่มีโดยไม่มานั่งเสียใจภายหลัง เพราะความพยายามเหล่านี้มันไม่ใช่เพื่อจะชนะใคร แต่เพื่อจะเข้าใจว่าเราควรจะ "เป็นใคร" จริง ๆ ต่างหาก

ขั้นตอนระหว่างทางที่ได้เรียนรู้เป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ เพราะมันเกิดจากการที่เราได้ไปลองผิด ลองถูก ลองทำ พยายามทำในหลาย ๆ สิ่ง เพื่อที่จะ Fine out ความฝันตัวเอง จนเกิดเป็น “จิ๊กซอว์ชีวิต” ที่ถูกเติมเต็มมาเรื่อย ๆ ให้เขามาเจอสิ่งที่เขาควรจะต้องเป็นจริง ๆ ซึ่งเกิดจากการพยายามพิสูจน์ตัวเอง มุ่งมั่น พัฒนา พยายามลองทำเท่าที่ทำได้ แล้วมันหล่อหลอมทำให้เขาเข้าใจตัวเองมากขึ้น จากเด็กชายดาร์ทในวันนั้น สู่ ดาร์ท yes.iam.dart ที่ทุกคนได้รู้จักกันในวันนี้

เราไม่อาจเลือกเกิดได้ แต่เราเลือกที่จะเติบโตในแบบที่เราอยากเป็นได้ เพราะไมค์ไม่เคยหยุดฝัน และดาร์ทก็ไม่เคยหยุดพยายามเช่นกัน 
@yesiamdart Nothing Phone 2(a) เป็นมือถือที่โคตรเท่ โคตรลํ้า โคตรไม่เหมือนใคร แอบชอบมานานแล้ว ในที่สุดก็ได้ใช้สักที 🥹 ไม่แพงด้วยนะทุกคน #โทรศัพท์ #nothingthailand #phone2a #chatgpt ♬ original sound - Thanatorn Siriraks - yesiamdart

🎯 แม้จะไม่ได้เป็นนักบาสอาชีพ แต่เราสามารถมีไอดอลเป็นนักบาสได้ เพราะพวกเขาเหล่านี้คือแรงบันดาลใจที่หล่อหลอมให้คุณดาร์ท yes.iam.dart เป็นเขาในแบบที่อยากเป็นได้ในทุกวันนี้

มีคำพูดที่เหมือน ๆ กันของ 2 นักบาสที่เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจสำคัญของคุณดาร์ทคือ ‘always be the best version of yourself’ เราอาจจะไม่ต้องเป็นคนที่เก่งที่สุด แต่เราเป็นคนที่เก่งขึ้นในทุก ๆ วัน เป็น Best Version ของเราก็พอ 

คนแรกคือ “สตีเฟน เคอร์รี (Stephen Curry)” หนึ่งในนักบาสที่เป็น Underdog แต่มักถูกประเมินในมุม Underrated ด้วยที่ตัวเขาตัวเล็ก ร่างกายไม่แข็งแรง แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่โลกต้องจับตาเขาคือ Stephen Curry กลับกลายเป็นนักบาส Top 5 ของ NBA ที่เปลี่ยนเกมการเล่นบาสไปตลอดกาล ด้วยการยิงสามแต้ม ซึ่งเป็นการทำแต้มสูงสุดของกีฬาชนิดนี้ จนตอนนี้ทั้งลีกออกมายิง 3 แต้มหมดแล้ว

และอีกคนคือ “โคบี ไบรอันต์ (Kobe Bean Bryant)” ตำนานที่จากโลกนี้ไปแล้ว แต่เขากลับทิ้งสิ่งที่สร้างคุณค่ามากมาย โคบีมีต้นแบบในด้าน การทำงานหนัก เขาตื่นตี 4 ทุกวัน! เขาจะซ้อมให้เยอะ ตรงไหนที่เป็นจุดบกพร่อง เขาจะไปซ้อมเพื่อแก้ตรงนั้น หรืออะไรก็ตามที่จะมาขัดขวางเรา เราจะใช้จุดนั้นแหละ เพื่อทำให้เราพัฒนาขึ้น การทำงานหนักกว่าใครคือผลลัพธ์ที่ทำให้โคบีเป็นหนึ่งในสุดยอดนักบาสตลอดกาล 

หนึ่งในประโยคสุดคลาสสิกของโคบี ไบรอันต์ ที่เชื่อว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครคือ Rest at the end, not in the middle ถ้าเรารู้ว่าภารกิจของเรายังไม่สิ้นสุด ก็อย่าเพิ่งวางใจ อย่าหยุดที่จะซ้อม อย่าหยุดสม่ำเสมอ อย่าได้หยุดที่จะทำให้เป้าหมายนั้นสำเร็จ! 

🎯 ทุกเศษเสี้ยวของอดีต กลายเป็นจิ๊กซอว์ที่สำคัญของปัจจุบัน โดยเฉพาะการมี Mindset ที่แข็งแกร่ง จะทำให้เราไม่มีข้ออ้างให้กับตัวเอง

คุณดาร์ทเปิดใจเลยว่าแรงบันดาลใจชั้นยอดเหล่านี้ ทั้งนักบาสคนโปรดที่เขาชอบ หรือการที่เขาเคยพยายามแล้วพยายามอีกจากในอดีต มันประกอบจิ๊กซอว์ชีวิตให้กับการทำ “Content ในช่อง yes.iam.dart” แม้กระทั่งเจ้าตัวยังบอกเลยว่าการทำคอนเทนต์สไตล์นี้มันเหนื่อยนะ

‘ใช่แหละมันเหนื่อย แต่นั่นคือเหตุผลที่เราต้องทำ’
เพราะผมเชื่อว่าสไตล์ที่เราเลือกมา มันจะสร้างความแตกต่างได้ และลดการมีข้ออ้างว่าทำไม่ได้ 

หลาย ๆ คนที่สร้างแรงบันดาลใจการทำงานให้คุณดาร์ท มักมี “Mindset ที่แข็งแกร่ง” คนที่ไม่มีข้ออ้างให้ตัวเอง อย่าง Kobe Bean Bryant คือ Mamba Mentality หรือการเป็นคนที่ดีที่สุดในแบบของตัวเอง เพื่อให้เราพัฒนาตัวเองขึ้นในทุกวัน 

ในหลาย ๆ ครั้งแรงบันดาลใจเหล่านี้ ผลักดันให้คุณดาร์ทตื่นขึ้นมา 6 โมงเช้าในทุก ๆ วัน เพื่อลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างในการพัฒนาตัวเองในทุกวัน แน่นอนว่ามันง่วงมาก แต่การที่เรานึกถึงไอดอลของเรา มันทำให้เรามีพลัง ทำไมพวกเขาทำได้…เราก็ทำได้สิ! 

การฮึบขึ้นมาเพื่อแบกร่างตัวเองไปล้างหน้า มันช่วยให้เราตื่นทันที แค่นี้ก็ทำให้เราชนะตัวเองแล้ว บางครั้งเราก็ไม่ต้องมีคำถามของคำตอบให้กับทุกเรื่องเสมอ แต่เราสามารถเป็น Best Version ที่ดีของเราได้ในทุก ๆ วัน โดยเริ่มจากเรื่องของการตื่นนอน ซึ่งทุกคนทำได้ 

🎯 เห็นคุณดาร์ทแบบนี้ แต่ก็มีช่วงที่หาเป้าหมาย หาตัวตนไม่เจอนะ มันก็เป็นเรื่องปกติป่ะ งั้นลองมาฟังกัน!

มันมีช่วงชีวิตนึงตอนเรียนดนตรี ที่มหาวิทยาลัยมหิดล เรามักจะชอบไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เคยฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองต้องทำ และสุดท้ายรางวัลของการฝืนทำอะไรไปนาน ๆ มันคือการกดดันตัวเอง และนำไปสู่การหมดแพสชัน แต่ในวันที่ใกล้จะหมดแพสชันนั้น กลับกลายเป็นเรื่องตลกร้ายของกลุ่มเพื่อน ๆ

ครั้งหนึ่งเขาเกือบได้เซ็นสัญญาทำวงดนตรีกับเพื่อน แถมยังเป็นนักร้องนำซะด้วยนะ แต่ในวันนั้นเขาก็คิดได้ว่า "เราไม่อินกับมันอีกต่อไปแล้ว" และก็เดินไปบอกกับเพื่อนว่า ‘จะออกจากวงแล้วนะ’ ทุกคนช็อกกันหมด แถมคุณดาร์ทยังใจดีหานักร้องคนใหม่มาให้ด้วย ก็โดนเพื่อนสวบตามระเบียบ แม้ในวันนั้นจะไม่มีใครเห็นด้วยกับคุณดาร์ท แต่มันคือจุดพลิกชีวิต เป็นการตัดสินใจที่ยากครั้งนึง แต่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง มันอาจจะเจ็บปวดสำหรับทุกคน แต่มันถูก! เพราะหลังจากวันนั้น เขาเริ่มต้นเส้นทางใหม่ เส้นทางที่เขาได้ใช้ความชอบ ความฝัน และความพยายาม ร้อยเรียงออกมาเป็นคอนเทนต์ที่มีตัวตน มีน้ำเสียง มีเทคนิคภาพ และมีจุดยืนของตัวเอง

🎯 ถ้าวันนี้ผม ดาร์ท yes.iam.dart ได้มีโอกาสพูดอะไรถึงคนรุ่นใหม่ หรือใครที่กำลังจะเรียนจบ หรือยังค้นหาตัวเองไม่เจอ เราอยากจะบอกทุกคนว่า…..

หากใครกำลังทำสิ่งที่ฝืนตัวเองอยู่ การไม่ชอบสิ่งที่ตัวเองเรียน หรือทำอยู่นั้นมันไม่ใช่การเสียเวลาชีวิตนะ แต่สิ่งสำคัญคือในช่วงเวลาในรั้วมหาลัย และช่วงเวลาทำงานที่น่าเบื่อของเรา เราได้เรียนรู้อะไรกับมันมาบ้าง เราได้ทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ อะไรติดตัวมาบ้าง แล้วค่อย ๆ คิดเพื่อทำสิ่งใหม่ โดยใช้ทักษะเดิมที่มันอาจจะเอามาช่วยอะไรเราได้บ้างก็ได้ อย่าเพิ่งไปตัดพ้อ เพราะเราก็เลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะหาเส้นทางของตัวเอง แล้วค่อยเริ่ม Set Goal ให้กับเป้าหมายต่อไป 

👉 ผมจบดนตรีมาแม้จะไม่ชอบ! แต่ได้สกิลร้องเพลงพื้นฐานมาต่อยอดในการพากย์เสียง เพราะการเป็นนักลงเสียงโฆษณา การเรียนร้องเพลง หรือการเข้าใจตัวโน้ตสำคัญมาก และมันส่งผลต่อเรามาก เพราะในวันที่ลูกค้าบอกเราว่าอยากได้โทนเสียงแบบนี้ แบบนั้น ถ้าเรามีทักษะนี้ติดตัว ต่อให้ลูกค้าจะไม่เคยเรียนร้องเพลง เราจะมีเซนต์ของการรับรู้ตัวโน้ต ว่าลูกค้าอยากได้แบบไหนเสมือนกับเรามีจิ๊กซอว์ทักษะติดตัวมาจากสิ่งที่เราไม่ชอบ

👉 หรือแม้กระทั่งไปทำงานเป็นผู้ช่วยคนตัดต่อแต่ได้สกิลตัดต่อ รู้กระบวนการตัดกลับมา แล้วนำจิ๊กซอว์ทักษะทั้งหมดที่เราได้เรียนรู้มาตลอดชีวิต เพื่อสร้างคาแรกเตอร์ สร้างแบรนด์ให้กับตัวเอง จนกลายมาเป็นอีกหนึ่ง Creator ที่มีผลงานการตัดต่อที่โดดเด่น เล่าเรื่องได้น่าสนใจในช่อง yes.iam.dart ในที่สุด! 

🎯 อีกส่วนที่สำคัญมาก ๆ ของการค้นหาตัวตน คือการไม่มองข้ามเรื่องของรายละเอียด เพราะดีเทลเล็ก ๆ จะทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่น

ขอกลับมาที่ปัจจุบันกันสักนิด จะได้ทำให้ทุกคนเห็นภาพของการสร้างตัวตนในแบบฉบับ yes.iam.dart ซึ่งมันจะมีเทคนิคอยู่ด้วย 2 เรื่องด้วยกัน

1. จงให้คุณค่ากับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ จะทำให้เราแตกต่าง!

มีหลายคนที่ดูช่อง yes.iam.dart แล้วชอบเทคนิคการเล่าเรื่อง บางครั้งก็จะสงสัยว่า “อ้าว! นี่ดูจบไปแล้วหรอเนี่ย” อารมณ์ประมาณว่าเผลอดูไป 2 รอบแบบไม่รู้ตัว เทคนิคการวนลูปคลิปให้สมูทแบบนี้ คุณดาร์ทไม่ได้ทำเป็นคนแรกนะ! แต่เกิดจากการไปดูคลิปของคนต่างชาติ (ซึ่งแกดูเยอะมาก) แล้วจากการที่ไปดูคลิปชาวต่างชาติมากมาย มันจึงเกิดมาเป็นแรงบันดาลใจชั้นยอด ในการมาต่อยอดไอเดียในแบบของตัวเอง

คลิปแรกที่ทำคือ ‘ไมค์ของ Sony’ แต่ก็ยังไม่ได้หวือหวา จนกระทั่งต้องเริ่มเรียนรู้ค่อย ๆ แกะ ค่อย ๆ ลงรายละเอียดอย่างหนัก ซึ่งใช้เวลาสักพักใหญ่เลยกว่ามันจะสมูทและเนียนได้ คุณดาร์ทบอกด้วยซ้ำว่า เทคนิคอะมันมีนะ แต่สิ่งที่อยากบอก Creator คือต่อให้รู้เทคนิคไปก็ไม่สู้เรานั่งแกะเอง

เพราะการใส่ใจและลงรายละเอียดในแบบของตัวเองสำคัญกว่ามาก ยิ่งเราแกะรายละเอียดเหล่านี้เอง จะทำให้เรารู้ว่า นอกจากเทคนิคที่ทำให้เราได้เรียนรู้แล้ว ยังรู้ต่อด้วยว่า เราจะแตกต่างจากคนอื่นได้อย่างไร เพราะดีเทลเล็ก ๆ จะสร้างความแตกต่าง แม้มันจะอาจจะต้องเสียเวลาไปบ้าง แต่เวลาที่เสียไปมันคุ้มค่าแน่ถ้าเราเต็มที่กับมันจริง ๆ

2. อย่าทำเหมือนคนอื่น แต่ ‘ตัวตน’ มาจากการไม่ฝืนเป็นคนอื่น

ก่อนที่คุณดาร์ทจะมาเริ่มทำคลิปสไตล์อย่างในปัจจุบัน มีหลายคนมาก ๆ บอกกับเราว่า

“เวลาทำคลิป ต้องทำให้มัน Real ที่สุด หรือทำคลิปอย่าไปถ่ายสวยมาก คนไม่ดูหรอก คนเดี๋ยวนี้ชอบแบบธรรมชาติ”

ในความคิดขบถของพ่อหนุ่มนักสร้างสรรค์ที่ชื่อดาร์ท ก็ได้เริ่มก่อตัวขึ้น และคิดอยู่ในใจตลอดว่า แล้วถ้าเราไม่ชอบในสิ่งนี้ล่ะ ไม่อยากทำได้ไหม แล้วทำไมฝรั่งเขายังถ่ายสวยยังมีคนดูเลย! 

ต่อให้ในวันนี้จะมีคนบอกผมว่า “คุณถ่ายคลิปสวยจังเลย เหมือนช่องฝรั่งเลย” แต่สิ่งที่คุณดาร์ทต้องการมากกว่านั้นคือ ผมอยากให้บ้านเราลองไม่ตั้งแง่กับคอนเทนต์ของคนไทย แล้วพูดใหม่ว่า 

“ถ่ายคลิปสวยจังเลย”
เพื่อให้มาตรฐานของประเทศเรา ทุกคนก็ถ่ายสวยได้ 

เราทุกคนสามารถทำคอนเทนต์ได้หลากหลายขึ้น ไม่ได้จำกัดว่าใครต้องมาบอก ว่าทำแบบนั้น แบบนี้ แต่เราทุกคนต้องเริ่มจากเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง ต่อให้มีคนบอกว่าต้องทำคลิปให้ดูธรรมชาติ เราลองกลับมาคิดใหม่ไหมว่า เราตั้งใจทำมันให้ดีก่อน ทำให้โคตรดีไปเลย เชื่อมั่นในคุณภาพ แต่ไม่เป็นเหมือนกับคนที่คนอื่นอยากให้เราเป็น

🎯 การเป็นคนที่พยายามแล้วพยายามอีก ทำเยอะ ทำงานหนักแบบคุณดาร์ท มันเคยมีจุดที่เหนื่อยสุด ๆ ไหม เราก็คนนะ ไม่ใช่ AI มันก็มีจุดที่เหนื่อยได้เหมือนกัน

มีอยู่วันนึงคุณดาร์ทไปลงเสียง 6 ชม. (ซึ่งปกติลงแค่ 2 ชม. ก็เสร็จ) ซึ่งลูกค้าก็ถามผมนะว่าเหนื่อยไหม มันก็เหนื่อยแหละ เราก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึง เราเหนื่อย แต่กลับกันเราไม่ได้รู้สึกท้อขนาดนั้น กลับกันเรากลับรู้สึกว่า ‘เราโชคดีมากเลยที่ได้ทำงานนี้’ งานเราสบายกว่าคนอื่นเยอะเลยด้วยซ้ำ เพราะเหนื่อยเราก็กลับไปพัก ไปนอน ไปเจอครอบครัว ไปเล่นกับน้องหมา มันก็จะดีขึ้นเอง

แต่ถ้าวันนึงผมจะเป็นทุกข์ ผมคิดว่าคงเป็นแค่เรื่องเดียวนั่นคือ ‘คนในครอบครัวไม่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ’ อันนั้นผมว่าน่าจะหาทางออกยาก และเกิดความท้อจริง เพราะทุกวันนี้ผมเหมือนมีครอบครัวซัพพอร์ตเสมอ ดังนั้นต่อให้ Worst Case จะเกิดขึ้นอะไรก็ตาม ผมยังมีครอบครัวอยู่ข้างหลังเรา ซึ่งสำคัญมาก

อีกหน้าที่สำคัญของคนทำงานคือ การที่เราจะตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกดี โดยไม่หลอกตัวเองว่ารู้สึกดี ซึ่งมันก็ทำได้หลายวิธี เช่น พักผ่อนให้พอ, เล่นกีฬาออกกำลังกาย หรือไปทำอะไรที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น มันคือหน้าที่ตัวเองในการดูแลตัวเองจริง ๆ โดยไม่หลอกตัวเองว่ารู้สึกดี ซึ่งมันเป็นเทคนิค เราต้องฝึกที่จะจัดการตัวเองด้วย!

🎯 หวังว่าเรื่องราวของผมจะทำให้ใครต่อใคร ได้กลับไปทบทวน เติมพลังใจ ในฐานะคนที่เคยลองผิดมาเยอะ กว่าจะถูกก็เหนื่อยใช่ย่อยนะ 😂

วันนี้! ผมต้องยอมตื่น 6 โมงเช้า ในทุก ๆ วันได้ 
วันนี้! ผมต้องทำคอนเทนต์ให้ได้อย่างสม่ำเสมอ
วันนี้! ที่ผมเลือกที่จะหาทำ! ไม่ทำอะไรง่าย ๆ
วันนี้! ผมอยากจะเป็น Best Version ในทุก ๆ วัน

มันไม่ได้เกิดจาก…แค่ผมเหมือน ไมค์ วาซอว์สกี้ เพียงอย่างเดียว!
มันไม่ได้เกิดจาก…แค่ผมชอบ Stephen Curry หรือ Kobe Bean Bryant เพียงอย่างเดียว!
มันไม่ได้เกิดจาก…แค่ผมได้ลองผิด ลองถูก เพียงอย่างเดียว!

แต่มันเกิดจาก ‘จิ๊กซอว์’ ที่ผมพูดมาตลอดผ่านบทสัมภาษณ์นี้ เราไม่มีทางรู้เลยว่า “จิ๊กซอว์ที่เรียกว่าประสบการณ์” มันจะหล่อหลอมให้เราพบเจออะไรบ้าง แต่ในเมื่อถึงวันที่เราพร้อม จิ๊กซอว์เหล่านี้! จะประกอบเป็นรูปเป็นร่าง ในแบบที่เราคาดไม่ถึง!

ต่อให้วันนี้จะเจอสิ่งที่ไม่ชอบ เราลองหาข้อดีของมัน เพื่อเติมเต็มทักษะใหม่ ๆ ให้กับเรา แล้วเมื่อไหร่ที่พร้อมก็ค่อย ๆ ก้าวออกมา ไม่ต้องเร่งให้ตัวเองกดดัน แต่จงก้าวออกมาแบบไม่เสียใจภายหลัง แถมยังได้ประสบการณ์ และทักษะจากสิ่งที่ไม่ชอบอีก เพราะไม่แน่ว่าทักษะที่ได้มา มันอาจจะนำไปสู่การต่อยอดอาชีพใหม่ ๆ ธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับเราก็ได้

ในวันนี้ต่อให้เราทำคอนเทนต์แล้วมีคนมาต่อว่าเรา ด่าเรา หรือในวันนี้เราอาจจะกำลังเหนื่อยล้าต่อการทำงานในแต่ละวัน หวังว่าบทความจากผู้ชายที่ชื่อ ดาร์ท yes.iam.dart นี้ จะเป็นทั้งแรงบันดาลใจ เป็นพลังบวกน้อย ๆ และเป็นภูมิคุ้มกันอย่างมั่นคงให้กับชีวิตของทุกคน ในวันที่เหนื่อยมาก ๆ เราพักได้ เราหย่อนได้บ้าง แต่อย่าล้มเลิกกับความหวัง และความฝัน เพราะทุกความสำเร็จเล็ก ๆ มันมีความหมายกับชีวิตของเรานะ

และนี่คือส่วนหนึ่งของชีวิต ที่ผู้ชายแสนอบอุ่นคนนี้ได้เล่าไว้ใน Unscripted Talk เพราะทุกการเดินทางของชีวิตในแต่ละคน ไม่ได้มีสคริปต์ขีดเขียนให้เราได้เดินตาม แต่มันคือการทดลองของชีวิต 

เพราะชีวิตเราไม่ได้ต้องรีบรู้ว่าจิ๊กซอว์ของเราจะหน้าตาเป็นยังไง
แค่รู้ว่า…เราจะไม่หยุด "ต่อมัน" ทุกวันก็พอ

🥰 THE END…BUT THE STORY LIVES ON


[UnscriptedTalk End Credit]

🌟 Guest of Honor: คุณดาร์ท - ธนทร ศิริรักษ์ (yes.iam.dart)
✍🏻 Interviewer, Screenwriter: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ
📸 Director of Photography: ชญานิศ จำปีรัตน์​
🎨 Art Director: อลิสา อรุณสิริเลิศ
🍀 Social Media Administrator: ภูวกฤษ สุขไกรกิติ

trending trending sports recipe

Share on

Tags