3 ปีกว่าจะมีลูกค้ารายแรก
เสียงบอกเล่าเรื่องราวจากผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ FoodStory ผู้พัฒนาระบบ POS ให้กับร้านอาหาร ที่ปัจจุบันทาง LINE MAN Wongnai ได้เข้าซื้อกิจการไปเป็นที่เรียบร้อย
วันนี้ CREATIVE TALK จะมาชวนคุยว่า FoodStory ทำอย่างไร ถึงกลายเป็นสตาร์ทอัพที่เติบโต และโดนใจ LINE MAN Wongnai ได้? กับคุณยิม - ฐากูร ชาติสุทธิผล Head of FoodStory POS, LINE MAN Wongnai
ก่อนอื่นอยากชวนทุกคนมารู้จักกับศัพท์สตาร์ทอัพ ที่ชื่อว่า ‘Exit Strategy’ เป็นจังหวะเวลาหนึ่งของสตาร์ทอัพ ที่จะทำการ Exit ด้วยหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การเข้าตลาดหุ้น การควบรวมกิจการ การขายกิจการ หรือแม้แต่การปิดกิจการแบบถาวร
ดังนั้นบทความนี้จะชวนสตาร์ทอัพมาเตรียมความพร้อมเรื่อง Exit ผ่านเรื่องราว และเรื่องเล่าของทาง FoodStory กัน
จากโปรดักส์ที่ดูเหมือนของเล่น สู่ผู้ช่วยสร้างรายได้ให้กับ Restaurant ecosystem
ย้อนหลับไป 10 กว่าปีก่อน เวลาเข้าร้านอาหารจะเจอเครื่องคิดเงิน พนักงานมาจดออเดอร์ เดินกลับไปกลับมา เกิดข้อมูลตกหล่น ล่าช้า พอจะติดตั้งระบบ POS ที ก็ใช้ต้นทุนที่สูงมาก ตั้งแต่ 50,000 บาทเลยทีเดียว…ด้วยปัญหาตรงนี้ FoodStory เลยเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ว่านี้
FoodStory มีแค่ iPad เครื่องเดียวก็ใช้งานได้ และข้อมูลทั้งหมดก็จะอยู่บนคลาวด์ สามารถป้องกันข้อมูลตกหล่น สูญหาย หรือโดนพนักงานคดโกงได้ แต่ไม่ใช่ทุก Solution ที่จะตอบโจทย์ทุกคนได้ในทันที
“โปรดักส์ของน้องเหมือนของเล่นรึเปล่า ใช้ได้จริงไหม?”
นี่คือเสียงจากลูกค้าเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งคุณยิมเล่าว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเปลี่ยนภาพจำของคน จากหน้าจอ PC ที่ดูใหญ่ และแข็งแรง มาเป็นเครื่องสี่เหลี่ยมอันเล็กที่ไม่มีแม้แต่ปุ่ม ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะ FoodStory ยังเผชิญหน้ากับความท้าทายอื่นที่เหมือนกับสตาร์ทอัพทุกเจ้าคือเรื่องของ ‘ความน่าเชื่อถือ’
คุณยิมเล่าว่าลูกค้ามักจะถามเสมอว่าทาง FoodStory มีลูกค้ากี่เจ้า มีลูกค้าเจ้าไหนที่เขารู้จักบ้างไหม แต่ในท้ายที่สุดคุณยิมก็ได้เข้าไปจุบกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารที่กล้าจะทดลองอะไรใหม่ ๆ จนทำให้สามารถพิสูจน์ตัวเอง และธุรกิจมาได้จนถึงทุกวันนี้
ต่อมา FoodStory ทำ Self-funded หรือการออกเงินเองมา 6 ปี ตั้งแต่ปี 2012-2018 จนกระทั่งได้มาเจอกับคุณยอดจาก LINE MAN Wongnai มองเห็นโอกาสที่จะได้พาร์ทเนอร์ ทำอะไรหลายอย่างร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายแรกสุดที่อยากจะสร้าง Restaurant Ecosystem ซึ่ง LINE MAN Wongnai เป็นแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ด้านอาหาร อันดับ 1 ของไทย จึงเป็นเหมือน ‘Perfect Match’ ในช่วงเวลานี้พอดี
3 ความท้าทายในการทำสตาร์ทอัพ
1. ถึก: ต้องมีโปรดักส์ที่แตกต่าง กว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเทคโนโลยีเราจะเป็นที่พึงพอใจกับกลุ่มเป้าหมายของเรานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความอดทนในการปรับปรุงพัฒนาเสมอ
2. ดื้อ: ดื้อใน Vision ของเรา สิ่งที่เราทำขึ้นมาตอบโจทย์เรื่องอะไร แก้ปัญหาเรื่องไหน และเราจะดื้อมุ่งหน้าเพื่อทำให้สำเร็จให้ได้
3. แต่ไม่ด้าน: ในขณะเดียวกันก็ต้องรับฟัง Feedback เพื่อปรับเปลี่ยนโปรดักส์ให้ตอบรับกับความเป็นจริงมากที่สุด
การทำธุรกิจสตาร์ทอัพต้องถึกก่อน ความยากลำบากในการนำสิ่งใหม่ ๆ มาสู่ตลาดเป็นเรื่องท้าทาย ยิ่งต้องเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของคนแล้ว ยิ่งท้าทายเข้าไปใหญ่
ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเรื่องราวเท่านั้น สามารถไปดูวิดีโอสัมภาษณ์เต็มได้ที่เพจ CREATIVE TALK