💬 คุณกำลังอยากลดความซับซ้อนในการทำงาน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพ
💬 คุณกำลังอยากพลิกโฉมองค์กรให้เติบโตด้วยเทคโนโลยี
💬 และคุณกำลังอยากเห็นผลลัพธ์ชัดเจนจาก Digital & AI Transformation
ในปัจจุบันหลายองค์กรกำลังตั้งเป้าหมายเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงให้ทันในยุคดิจิทัล แต่คำถามสำคัญคือ “เราจะทำให้ความเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นจริง และส่งผลอย่างยั่งยืนได้อย่างไร?”
🎯 อะไรคือปัญหาใหญ่ที่ทำให้ Digital Transformation ในองค์กรไปต่อไม่ได้?
เราจะสังเกตในหลาย ๆ ครั้ง เวลาที่องค์กรต้องการจะทำ Digital Transformation แล้วพบว่าไม่ประสบความสำเร็จ คนตามไม่ทันบ้าง องค์กรใหญ่เทอะทะจนขยับตัวยากบ้าง ไม่สามารถใช้ AI ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลายเป็นผลลัพธ์แย่ลงกว่าเดิม แล้วอะไรล่ะคือปัญหาจริง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้องค์กรไปต่อไม่ได้
1. การทำงานที่ซับซ้อน
ความซับซ้อนในการดำเนินงานยังเป็นอุปสรรค เช่น ข้อมูลกระจัดกระจาย งานซ้ำซ้อน หรือใช้เวลามากเกินไปในกระบวนการที่ไม่เพิ่มมูลค่า
2. ขาดวิธีที่ให้ผลเร็วและมีประสิทธิภาพ
หลายองค์กรรู้ตัวว่าควรเปลี่ยนแปลง แต่ยังรอเวลาหรือขาดแผนงานที่ชัดเจน
3. ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอย่างเต็มที่
เทคโนโลยีบางส่วนถูกใช้งานเพียงผิวเผิน เช่น Automation หรือ AI ถูกนำมาใช้อย่างจำกัด เกิดการสูญเสียโอกาสในการลดต้นทุนหรือเพิ่มคุณค่า
แล้วอะไรที่จะทำให้แก้ปัญหาใหญ่เหล่านี้ได้?
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้ดำเนินธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต เปิดตัวแคมเปญ GC StandOut #แตกต่างอย่างยั่งยืน สะท้อนจุดแข็งที่แตกต่างและการสนับสนุนวิธีคิด วิธีทำงานแบบใหม่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ผ่านแนวคิด Do Less, Do Now, Do More ทั้งองค์กร รวมถึงใช้ Digital Transformation มาช่วยลดความซับซ้อน มุ่งหน้าทำสิ่งที่สำคัญ และต่อยอดนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
💡 Do Less – ลดสิ่งไม่จำเป็น เลิกทำสิ่งไม่สำคัญ
Do Less หมายถึงการมุ่งเน้นไปที่เรื่องที่สำคัญ และให้ผลลัพธ์สูงสุด โดยการกำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนออกจากกระบวนการทำงาน แนวคิดนี้ไม่ได้เน้นแค่การลดปริมาณงาน แต่คือการตัดสิ่งที่ไม่มีคุณค่าเพิ่ม (non-value-added) เพื่อให้ทีมงานและองค์กรสามารถทุ่มเทเวลา พลังงาน และทรัพยากรไปกับสิ่งที่มีความสำคัญอย่างแท้จริง
📍 ตัวอย่าง
-
ลดการใช้ทรัพยากรในกระบวนการที่มี ROI ต่ำ เช่น ลดการประชุมที่ยืดเยื้อ เชิญเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับงาน และแทนที่ด้วยอีเมลหรือการประชุมสั้น ๆ ผ่านระบบออนไลน์
-
โปรเจกต์ SMILE ของ GC นำ AI มาช่วยวิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลโดยยึดหลัก "Keep the Core Clean” ในโปรเจกต์ SMILE ของ GC เพื่อลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน รวมถึงลด ละ เลิก ระบบ หรือแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็นในปัจจุบัน (Legacy) เพื่อลดความซับซ้อนในการเชื่อมต่อ (Integration) กับระบบ SAP
💡 Do Now – ลงมือทำทันที อย่ารอเวลา
Do Now มุ่งเน้นไปที่การลงมือทำสิ่งสำคัญทันที โดยไม่ผัดวันประกันพรุ่ง หรือรอจังหวะที่สมบูรณ์แบบ เพราะการรออาจหมายถึงการสูญเสียโอกาสที่สำคัญไป ด้วยเทคโนโลยีและโลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรและบุคคลากรจึงต้องพร้อมที่จะทดลอง ลงมือทำ และเรียนรู้ระหว่างทางอยู่เสมอ
📍 ตัวอย่าง
-
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่โดยไม่ต้องรอให้สมบูรณ์ 100% แต่ใช้หลักการ Minimal Viable Product (MVP) เพื่อทดสอบตลาดและเก็บข้อมูลให้รวดเร็ว
-
โปรเจกต์ IDMS นำการวิเคราะห์ข้อมูล Equipment โดยใช้ Risk Based Inspection และหลักทางสถิติ มาช่วยจัดการข้อมูล และความเสี่ยงของแต่ละ Equipment รวมทั้งการรวมศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ ของ Static Equipment ให้มาอยู่ที่ระบบเดียวช่วยลดระยเวลาในการทำงาน และลดความเสี่ยงเรื่อง ZPlanning ได้
💡 Do More – ค้นหาแนวทางใหม่ พัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม
Do More หมายถึงการก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมหรือการทำงานในกรอบเดิม ๆ เพื่อค้นหาแนวทางที่ดีกว่าเสมอ "Do More" ต้องมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรม การทดลองสิ่งใหม่ ๆ และการค้นหาความยั่งยืนที่เป็นผลดี ในระยะยาว
📍 ตัวอย่าง
-
ทดลองใช้ Generative AI เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่แทนการทำงานด้วยมือทั้งหมด เช่น วิเคราะห์ข้อมูลผ่าน AI Model เพื่อหาแนวทางที่สร้างสรรค์ และแต่ต่าง เพื่อหาช่องทางการขายใหม่ ๆ
-
AskMeGC เครื่องมือ Generative AI ที่เชื่อมต่อกับ LLM พัฒนาโดยทีม Digital Transformation หรือ dEX เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน และปิดช่องโหว่เรื่องข้อมูลสำคัญที่อาจรั่วไหลสู่สาธารณะ เพิ่มความปลอดภัย ตอบโจทย์ Pain Point ของพนักงานแผนกต่าง ๆ
-
ขยายฐานลูกค้าผ่านนวัตกรรม เช่น การสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อการขาย และการบริการลูกค้า อย่างไร้รอยต่อ เช่น REF Projects - GC6 Data Lake เป็นการนำข้อมูล Condition ที่วัดได้ของอุปกรณ์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตขึ้นไปไว้บนระบบ Cloud เพื่อให้สามารถ Monitor และวิเคราะห์สุขภาพของอุปกรณ์นั้นๆ ได้ ซึ่งทำให้มีต้นทุนที่ต่ำกว่า แทนการใช้ระบบเดิมที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ามาก
🔵 เมื่อกล้าที่จะเปลี่ยน กล้าที่จะลงมือทำ และกล้าที่จะแตกต่าง สู่ความสำเร็จของ GC StandOut #แตกต่างอย่างยั่งยืน ในงาน GC Digital Technology Day 2025
GC เป็นหนึ่งในบริษัทระดับโลกที่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างยั่งยืน ด้วยแคมเปญ GC StandOut ภายใต้ 3 แนวคิด Do Less, Do Now, Do More ที่เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรในยุคดิจิทัลนี้
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ การนำเทคโนโลยี AI มาปรับปรุงทุกกระบวนการ การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะรองรับโลกอนาคต แนวคิดนี้ไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์ แต่เป็นหัวใจในการเปลี่ยนองค์กรให้ตอบโจทย์ทิศทางธุรกิจยุคใหม่
GC Digital Technology Day 2025 พื้นที่แสดงศักยภาพผลงานดิจิทัลของ GC ผ่าน Digital Showcase ที่ใช้ AI, Data Analytics และ Digital Tools เพื่อสร้าง Inspiration ให้กับพนักงาน คู่ค้า และเพื่อน ๆ บริษัทต่าง ๆ ในเครือปตท. ผ่านการเรียนรู้ และทดลองใช้เทคโนโลยีจริง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ 16 Showcases และผลงาน Recognition Awards ที่สร้าง Benefit ให้กับ GC กว่า 400 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
เรียกได้ว่าความสำเร็จของงาน GC Digital Technology 2025 นี้ ที่เป็นตัวอย่างชัดเจนของการเปลี่ยนแปลง และกล้าที่ลงมือทำ เพื่อสร้างความแตกต่างอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล เป็นไปตามแนวคิด Do Less, Do Now, Do More เพราะไม่ได้เพียงนำ AI และเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ แต่ยังมองไปถึงการพัฒนา และการปรับเปลี่ยน Mindset ทั้งในระดับบุคคล และองค์กร
🎯 มากกว่าความสำเร็จ คือผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง
จากความสำเร็จสู่ผลลัพธ์ ด้วยการนำ Digital & AI Transformation มาใช้ในการสร้างความเปลี่ยนแปลง และ GC ก็มีการผลักดันโครงการ Plant-wide Optimization ที่สามารถลดต้นทุนได้มหาศาล และเพิ่มรายได้มากกว่า 4,500 ล้านบาท โดยผ่าน 3 แนวทาง คือ
1. การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
- การวิเคราะห์ข้อมูลสินทรัพย์ช่วยวางกลยุทธ์ Asset Light เพื่อลดต้นทุนการลงทุน (Capex)
- นำเทคโนโลยีการจัดการสินเชื่อมูลค่าหมุนเวียนช่วยรักษาสภาพคล่องธุรกิจ
2. การเสริมศักยภาพธุรกิจมูลค่าสูง
- การปรับปรุงกระบวนการผ่านเครื่องมือดิจิทัลทำให้ GC สามารถขยายตลาด Specialty Chemicals และรองรับความต้องการในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตเร็ว เช่น Coating Resins
- เปิดโอกาสการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยวิธี Collaborative Innovation เช่น การร่วมมือกับ Toray เพื่อศึกษาพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
3. การเติบโตในธุรกิจที่ยั่งยืน
- ใช้ระบบดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพหมุนเวียนวัสดุในธุรกิจ Bio & Circularity
- นำเทคโนโลยีสนับสนุนโครงการเศรษฐกิจหมุนเวียน ช่วยพัฒนาพลาสติกรีไซเคิลและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
ด้วยผลลัพธ์จาก 3 แนวทางนี้ช่วยยกระดับประสิทธิภาพองค์กร สร้างโอกาสใหม่ในตลาดโลก และผลักดัน GC ให้เป็นผู้นำธุรกิจที่ตอบโจทย์เทรนด์การเติบโตอย่างยั่งยืน
สุดท้ายนี้ แนวคิด Do Less, Do Now, Do More เป็นกุญแจสำคัญในการทำ Digital & AI Transformation อย่างมีผลลัพธ์ ด้วยการลดสิ่งที่ไม่จำเป็น มุ่งเน้นสิ่งสำคัญที่สร้างผลลัพธ์ทันที และต่อยอดพัฒนาสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน แนวคิดนี้ช่วยให้องค์กรเพิ่มความคล่องตัว รับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ และสร้างคุณค่าในทุกกระบวนการ
GC เป็นตัวอย่างองค์กรที่ประยุกต์ใช้แนวคิดนี้ได้สำเร็จ ผ่านงานสำคัญอย่าง GC Digital Technology Day 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านดิจิทัลของพนักงานและองค์กร พร้อมปลูกฝังการเรียนรู้และการทดลองใช้เทคโนโลยีจริง เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ทั้งการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคต โดยมีหน่วยงาน Transformation Excellence เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจริง
เพราะฉะนั้นแนวคิดนี้จึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือในการพัฒนาองค์กร แต่เป็นบทพิสูจน์ว่า
“การลงมือทำอย่างถูกวิธี สามารถสร้างผลลัพธ์มหาศาลได้”