Generations Trend 2020 สรุปทุก Insight เข้าใจผู้บริโภคแต่ละ Gen

Last updated on ต.ค. 8, 2019

Posted on ต.ค. 8, 2019

สรุป Generations Trend 2020 จากรายงาน “เจาะเทรนด์โลก” โดย TCDC ในแต่ละกลุ่ม ได้แก่ Baby Boomer, Gen X, Millenial และ Gen Z ว่าแต่ละเจนมีพฤติกรรมและสิ่งที่เขาต้องการอย่างไรบ้าง

Generations Trend 2020

1. Baby Boomer (อายุ 55 – 73 ปี)


กลุ่มคนรวย ที่มีทั้งเงินและเวลา

  • ต้องการได้รับความใส่ใจเหมือนคนทั่วไป ไม่ถูกจัดว่าอยู่กลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง จากการศึกษาพบว่า 91% ของผู้หญิงอายุระหว่าง 53-72 ปี ต้องการให้โฆษณาต่าง ๆ ใส่ใจพวกเธอเหมือนคนทั่วไป พอเสียทำกับ คำว่า Anti-Ageing หรือ การต่อต้านริ้วรอย เสียงจากคนกลุ่ม Baby Boomer กล่าวว่า รู้สึกรำคาญใจมากกับโฆษณาที่ทำภาพอ่อนวัยเกินจริง พวกเขาคิดว่า ถึงแม้ฉันจะแก่ แต่ฉันก็สามารถที่จะสวยแบบคนมีอายุได้ อยากให้แบรนด์พูดถึงภาพลักษณ์ที่แท้จริง ให้ความสำคัญของความรู้สึกของคนในเจนนี้มากกว่า
  • Baby Boomer ไม่ค่อยสนใจกับอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่ แต่หากเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาจะรู้สึกว่าเป็นแรงบันดาลใจให้แก่กันมากกว่า
  • ร่ำรวยทั้งเงินทองและเวลา หลังจากที่ทำงานมาเหน็ดเหนื่อย ก็ถึงเวลาพักผ่อนและเริ่มใช้เงิน รายงานของ Deloitte คาดการณ์ว่าเหล่า Baby Boomer ยังคงอยู่ในกลุ่มคนที่เป็นผู้มั่งคั่งระดับท้อปยาวไปจนถึงปี 2030 ทีเดียว และรักการท่องเที่ยวอย่างมีข้อมูล
  • สนใจเรื่องเทคโนโลยี แต่กลับไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์หรือบริการเทคโนโลยีสำหรับคนกลุ่มนี้ เช่น เรื่องของ Automation หรือ Apllication ที่เข้ามาช่วยจัดการเรื่องการเงินหลังเกษียณ ซึ่งผลิตภัณฑ์พวก FinTech สำหรับคนกลุ่มนี้ยังค่อนข้างมีน้อย 

2. Gen X (อายุ 44 – 54 ปี)


กลุ่มคนมีเงิน ที่มีอำนาจ และเป็นศูนย์กลางของครอบครัว

  • คนกลุ่ม Gen X มีจำนวนมากที่สุดในโลก มากกว่า 1.4 พันล้านคน ทั่วโลก โดยจีนเป็นประเทศที่มีจำนวน Gen X มากที่สุดในโลก รองลงมาคือ อินเดีย, อเมริกา, บราซิล และ อินโดนีเซีย ตามลำดับ 
  • ชอบถามคำถาม ชอบการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เนื่องจากคนกลุ่มนี้เป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างคนหลายวัย จึงทำให้เขาเรียนรู้ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว ชอบถามคำถาม และพยายามมีความเข้าใจกับคนทุกวัย มีความยืดหยุ่น และอิสระในการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
  • อยากมีบ้านที่สวย ดูดี จากรายงาน 51% ของคนกลุ่ม Gen X ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อยากจะมีบ้าน และต้องมีบ้านที่สวยงาม ซึ่งความสำคัญต่อคนกลุ่มนี้มาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงรสนิยม ความเป็นอิสระ และสะท้อนภาพลักษณ์ของตัวเอง
  • มีการใช้จ่ายเงินมากเมื่อเปรียบเทียบกับเจนอื่น มีพลังในการใช้จ่าย การดูแลครอบครัว ตลอดจนการมีส่วนในการตัดสินใจ การโน้มน้าวคนในครอบครัว มักจะใช้เงินไปกับการทานข้าวนอกบ้าน เที่ยว ดูหนัง จากการรายงานของ US De- partment of Labor เผยว่า คน  Gen X สร้างรายได้ให้กับร้านอาหารมากถึง 23% โดยเฉลี่ยคนกลุ่มนี้จะออกไปทานข้าวนอกบ้านมากถึง 8 ครั้ง/เดือน การใช้จ่ายแต่ละครั้ง 123$ หรือ ประมาณ 3,900 บาท 
  • ต้องการข้อมูลรีวิวในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งมีครอบครัวเป็นศูนย์กลาง แต่ละทริปจะต้องดูรีวิวและข้อมูลต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้แน่ใจว่าสถานที่นั้นทุกคนในครอบครัวสามารถเที่ยวได้ทุกคน โดย 85% ของคนกลุ่ม  Gen X จะต้องอ่านรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวก่อนการตัดสินใจ และ 65% เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นพิพิธภันฑ์ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมที่สนุกได้ทั้งครอบครัว
  • สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับคน Gen X คือ เวลาที่มีให้สำหรับตัวเอง คนกลุ่มนี้จึงมีนิสัยที่ชอบแบ่งเวลา วางแผน จัดการทุกอย่างให้ตรงต่อเวลาอยู่เสมอ และไม่มองข้ามรายละเอียดจุกจิกต่าง ๆ มีกิจกรรมที่สามารถมาเติมเต็มชีวิตในช่วงเวลาส่วนตัวอันสั้น จึงทำให้เกิดกิจกรรมใหม่ เช่น Yoga Brunch ที่เป็นการโยคะสั้น ๆ เร็ว ๆ หรือการออกกำลังกายยามเช้าที่ถือว่าเป็นการเข้าสังคมไปในตัว
  • กลุ่มที่มีศักยภาพต่อธุรกิจ เป็นช่วงวัยที่ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของหน้าที่การงาน ถ้าเป็นเจ้าของกิจการก็เริ่มมั่งคั่งอยู่ตัว หรือหากเป็นพนักงานประจำก็เริ่มเข้าสู่ระดับ Senior จึงมีอำนาจและพลังในการตัดสินใจอย่างมาก คนกลุ่มนี้จึงเป็นโอกาสมหาศาลของนักการตลาดของกลุ่มเป้าหมายที่รักครอบครัว นวัตกรรมใหม่ ๆ และบริการที่ช่วยให้เขาประหยัดเวลา หรือเรื่องสุขภาพ ความเป็นอยู่

3. Millenial (อายุ 23 – 38 ปี)


ต้องการได้รับประสบการณ์ การแชร์ และสิ่งแวดล้อม

  • คนกลุ่ม Millenial เขาบอกว่าเป็นมนุษย์ JOMO (Joy of Missing Out) สามารถเติมเต็มตัวเองได้ โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างมากนัก ชื่นชอบการทำอะไรตามใจตัวเอง โดยไม่ยึดตามกระแสหลัก
  • สนใจการทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย การดูแลตัวเอง เช่น การทานอาหารคลีน การปรนบัติผิวพรรณ การออกกำลังกาย เป็นต้น
  • ชอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ยากต่อการเข้าถึง คนกลุ่ม Millenial ยินดีที่จะจ่ายเงินให้กับการได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ การสร้างโมเมนต์ที่ดี สำหรับโพสต์บนสื่อโซเชียล จากรายงานการตลาดของ Eventbrite ระบุว่า คนกลุ่ม Millenial กว่า 72% ยินดีจ่ายเงินให้กับประสบการณ์ที่ยากแก่การเข้าถึง ถึงแม้จะต้องใช้บัตรเครดิตจนเต็มวงเงิน
  • ให้ความสำคัญกับค่ำคืนแห่งการพักผ่อน จากการสำรวจของ ZionMarket Research พบว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสกินแคร์ สปา หรือเทคโนโลยีเกี่ยวกับการนอน จะเป็นที่นิยมสำหรับคนกลุ่มนี้ เช่น แอปพลิเคชั่นที่ช่วยกล่อมเพื่อให้กลับสบาย หรือเทียนหอมเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นต้น
  • มองหาที่พักอาศัยแบบ Co-Sharing จากสถิติการกู้เงินจากธนาคาร HSBC ในประเทศจีน พบว่า 70% ของการกู้เงินมาจากคนที่มีอายุ 19-36 ปี ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยแบบ Co-Sharing อย่างเช่น คอนโดที่มีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถมาแชร์กันได้ เช่น ห้องประชุม ห้องทำงาน ห้องสมุด ห้องดูหนัง หรือแม้กระทั่งห้องครัว ซึ่งเขาเชื่อว่าการที่มาแชร์กันจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายตัวเอง
  • สินค้าที่ดีที่สุด คุ้มค้าที่สุด คือชัยชนะของการช้อปปิ้ง คนกลุ่มนี้ชอบซื้อของออนไลน์ และต้องคัดเลือกสินค้าที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด ชอบการสั่งสินค้าที่พรีเมียมหรือสินค้าที่มึคุณสมบัติแตกต่างเฉพาะบุคคล รวมทั้งยังชอบลงทุนกับ Smart Home Trechnology ที่จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในบ้านได้
  • ต้องการที่อยู่อาศัยที่เอื้อต่อการทำงาน ในปี 2018 ผลสำรวจทั่วโลกจาก International Workplace Group พบว่าหลายบริษัทเริ่มปรับเปลี่ยนการจ้างงานที่สามารถทำได้จากที่บ้านและรับพนักงานฟรีแลนซ์มากขึ้นถึง 56% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นคนกลุ่ม Millenial มากถึง 75% 
  • ตระหนักเรื่องปัญหาโลกร้อน จากรายงาน Deloitte ระบุว่าคนกลุ่ม Millenial ที่เป็นคนอเมริกันถึง 60% ตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนและอุณหภูมิโลก พยายามโฟกัสถึงการใช้แอปพลิเคชันเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยในชุมชน และการสร้างกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีประโยชน์แก่ชุมชน ดังนั้น ร้านค้าที่สามารถตอบโจทย์การสร้างบรรยากาศ Feel Like Home จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กได้ดี

4. Gen Z (อายุ 4-24 ปี)

ติดโซเชียลมีเดีย มีอิสระ และเปิดรับกับสิ่งใหม่

  • Gen Z เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ใจกว้างมากที่สุด เปิดรับกับสิ่งแปลกใหม่ตลอดเวลา เขาจะมีความสงสัยและเกิดคำถามกับพฤติกรรรม หรือค่านิยมไม่สมเหตุสมผล ที่เคยทำต่อ ๆ กันมาในอดีต ดังนั้น เขาสามารถที่จะเปลี่ยนค่านิยมที่แตกต่างไปจากเดิมได้
  • เลือกที่อยู่อาศัยที่ใกล้โรงเรียนหรือที่ทำงาน จากรายงาน Zillow ระบุว่า Gen Z กว่า 86% เลือกมองที่อยู่อาศัยใกล้โรงเรียนและที่ทำงานมากกว่า เพราะต้องการประหยัดค่าเดินทาง มากกว่าที่จะคิดถึงเรื่องสภาพแวดล้อมหรือสังคมเพื่อนบ้าน
  • เริ่มคิดวิธีการหาเงินตั้งแต่อายุยังน้อย เด็กวัยนี้จะไม่แยกเรื่องของการเรียนและการทำงานออกจากกัน ถือว่าการเรียนก็คือการเดินทางเข้าสู่ชีวิตวัยทำงานได้เหมือนกัน ซึ่งหากรู้ความชอบของตัวเองในช่วงที่กำลังเรียนอยู่ ก็สามารถลงมือทำงานได้เลย อย่างที่เราเห็นว่า เด็กมัธยมบางคนชอบตัดต่อคลิป อยากเป็นยูทูปเบอร์ก็เริ่มทำได้เลย
  • ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ตัวเองบนโซเชียลมีเดีย คนกลุ่ม Gen Z เรียกได้ว่าเป็น Age of Digital Overload ถูกถาโถมด้วยสื่อโซเชียลออนไลน์เข้ามาในชีวิตตลอดเวลา ความถ้าทายแต่ละวันขึ้นอยู่กับสถานะทางโซเชียล แคร์ว่าตัวเองจะดูดีหรือไม่ดีอย่างไรบนโซเชียล คนกลุ่มนี้ใช้เวลายู่ในโลกออนไลน์เฉลี่ยยาวนาน ถึง 9 ชั่วโมง/วัน เนื่องจากเติบโตมาพร้อมกับโลกออนไลน์ จึงไม่ถนัดเรื่องการแสดงออกและสื่ออารมร์กับผู้คนในโลกความเป็นจริง ไม่เชื่อใจใครง่าย ๆ ดังนั้น การเลือกเข้าช่องออไลน์ของเด็กกลุ่มนี้ จึงมักเลือกจากช่องทางที่ให้พื้นที่ส่วนตัว รู้สึกปลอดภัย และสามารถโพสต์รูปหรือเขียนข้อความได้อย่างอสิระโดยไมถูกจับผิด
  • ชอบท่องเที่ยวเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับคนในชุมชน เช่น การทำเวิร์กชอป งานฝี ทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน เป็นต้น โดย 97 % ของคนกลุ่ม Gen Z เชื่อว่า ประสบการณ์คือ สิ่งสำคัญสำหรับชีวิต จึงไม่กลัวที่จะออกเดินทางสู่โลกกว้าง คนกลุ่มนี้ไม่สนใจสินค้าหรือกิจกรรมจากอินฟลูเอนเซอร์ แต่ชอบที่จะตามคนที่มีลักษณะคล้ายกับเขา กลุ่มคนที่มีความสนใจเรื่องเดียวกัน 

บทความนี้ถอดความจาก Morning Call Podcast เลือกฟังสรุปแบบเข้าใจง่ายได้ทุกช่องทางที่ Spotify, PodBean, SoundCloud และ Apple Podcasts หรือท่านใดต้องการอ่านบทความฉบับเต็มดาวน์โหลดได้ที่ TCDC ค่ะ

trending trending sports recipe

Share on

Tags