สรุป Generations Trend 2020 จากรายงาน “เจาะเทรนด์โลก” โดย TCDC ในแต่ละกลุ่ม ได้แก่ Baby Boomer, Gen X, Millenial และ Gen Z ว่าแต่ละเจนมีพฤติกรรมและสิ่งที่เขาต้องการอย่างไรบ้าง
1. Baby Boomer (อายุ 55 – 73 ปี)
กลุ่มคนรวย ที่มีทั้งเงินและเวลา
- ต้องการได้รับความใส่ใจเหมือนคนทั่วไป ไม่ถูกจัดว่าอยู่กลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง จากการศึกษาพบว่า 91% ของผู้หญิงอายุระหว่าง 53-72 ปี ต้องการให้โฆษณาต่าง ๆ ใส่ใจพวกเธอเหมือนคนทั่วไป พอเสียทำกับ คำว่า Anti-Ageing หรือ การต่อต้านริ้วรอย เสียงจากคนกลุ่ม Baby Boomer กล่าวว่า รู้สึกรำคาญใจมากกับโฆษณาที่ทำภาพอ่อนวัยเกินจริง พวกเขาคิดว่า ถึงแม้ฉันจะแก่ แต่ฉันก็สามารถที่จะสวยแบบคนมีอายุได้ อยากให้แบรนด์พูดถึงภาพลักษณ์ที่แท้จริง ให้ความสำคัญของความรู้สึกของคนในเจนนี้มากกว่า
- Baby Boomer ไม่ค่อยสนใจกับอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่ แต่หากเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาจะรู้สึกว่าเป็นแรงบันดาลใจให้แก่กันมากกว่า
- ร่ำรวยทั้งเงินทองและเวลา หลังจากที่ทำงานมาเหน็ดเหนื่อย ก็ถึงเวลาพักผ่อนและเริ่มใช้เงิน รายงานของ Deloitte คาดการณ์ว่าเหล่า Baby Boomer ยังคงอยู่ในกลุ่มคนที่เป็นผู้มั่งคั่งระดับท้อปยาวไปจนถึงปี 2030 ทีเดียว และรักการท่องเที่ยวอย่างมีข้อมูล
- สนใจเรื่องเทคโนโลยี แต่กลับไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์หรือบริการเทคโนโลยีสำหรับคนกลุ่มนี้ เช่น เรื่องของ Automation หรือ Apllication ที่เข้ามาช่วยจัดการเรื่องการเงินหลังเกษียณ ซึ่งผลิตภัณฑ์พวก FinTech สำหรับคนกลุ่มนี้ยังค่อนข้างมีน้อย
2. Gen X (อายุ 44 – 54 ปี)
กลุ่มคนมีเงิน ที่มีอำนาจ และเป็นศูนย์กลางของครอบครัว
- คนกลุ่ม Gen X มีจำนวนมากที่สุดในโลก มากกว่า 1.4 พันล้านคน ทั่วโลก โดยจีนเป็นประเทศที่มีจำนวน Gen X มากที่สุดในโลก รองลงมาคือ อินเดีย, อเมริกา, บราซิล และ อินโดนีเซีย ตามลำดับ
- ชอบถามคำถาม ชอบการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เนื่องจากคนกลุ่มนี้เป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างคนหลายวัย จึงทำให้เขาเรียนรู้ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว ชอบถามคำถาม และพยายามมีความเข้าใจกับคนทุกวัย มีความยืดหยุ่น และอิสระในการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
- อยากมีบ้านที่สวย ดูดี จากรายงาน 51% ของคนกลุ่ม Gen X ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อยากจะมีบ้าน และต้องมีบ้านที่สวยงาม ซึ่งความสำคัญต่อคนกลุ่มนี้มาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงรสนิยม ความเป็นอิสระ และสะท้อนภาพลักษณ์ของตัวเอง
- มีการใช้จ่ายเงินมากเมื่อเปรียบเทียบกับเจนอื่น มีพลังในการใช้จ่าย การดูแลครอบครัว ตลอดจนการมีส่วนในการตัดสินใจ การโน้มน้าวคนในครอบครัว มักจะใช้เงินไปกับการทานข้าวนอกบ้าน เที่ยว ดูหนัง จากการรายงานของ US De- partment of Labor เผยว่า คน Gen X สร้างรายได้ให้กับร้านอาหารมากถึง 23% โดยเฉลี่ยคนกลุ่มนี้จะออกไปทานข้าวนอกบ้านมากถึง 8 ครั้ง/เดือน การใช้จ่ายแต่ละครั้ง 123$ หรือ ประมาณ 3,900 บาท
- ต้องการข้อมูลรีวิวในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งมีครอบครัวเป็นศูนย์กลาง แต่ละทริปจะต้องดูรีวิวและข้อมูลต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้แน่ใจว่าสถานที่นั้นทุกคนในครอบครัวสามารถเที่ยวได้ทุกคน โดย 85% ของคนกลุ่ม Gen X จะต้องอ่านรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวก่อนการตัดสินใจ และ 65% เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นพิพิธภันฑ์ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมที่สนุกได้ทั้งครอบครัว
- สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับคน Gen X คือ เวลาที่มีให้สำหรับตัวเอง คนกลุ่มนี้จึงมีนิสัยที่ชอบแบ่งเวลา วางแผน จัดการทุกอย่างให้ตรงต่อเวลาอยู่เสมอ และไม่มองข้ามรายละเอียดจุกจิกต่าง ๆ มีกิจกรรมที่สามารถมาเติมเต็มชีวิตในช่วงเวลาส่วนตัวอันสั้น จึงทำให้เกิดกิจกรรมใหม่ เช่น Yoga Brunch ที่เป็นการโยคะสั้น ๆ เร็ว ๆ หรือการออกกำลังกายยามเช้าที่ถือว่าเป็นการเข้าสังคมไปในตัว
- กลุ่มที่มีศักยภาพต่อธุรกิจ เป็นช่วงวัยที่ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของหน้าที่การงาน ถ้าเป็นเจ้าของกิจการก็เริ่มมั่งคั่งอยู่ตัว หรือหากเป็นพนักงานประจำก็เริ่มเข้าสู่ระดับ Senior จึงมีอำนาจและพลังในการตัดสินใจอย่างมาก คนกลุ่มนี้จึงเป็นโอกาสมหาศาลของนักการตลาดของกลุ่มเป้าหมายที่รักครอบครัว นวัตกรรมใหม่ ๆ และบริการที่ช่วยให้เขาประหยัดเวลา หรือเรื่องสุขภาพ ความเป็นอยู่
3. Millenial (อายุ 23 – 38 ปี)
ต้องการได้รับประสบการณ์ การแชร์ และสิ่งแวดล้อม
- คนกลุ่ม Millenial เขาบอกว่าเป็นมนุษย์ JOMO (Joy of Missing Out) สามารถเติมเต็มตัวเองได้ โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างมากนัก ชื่นชอบการทำอะไรตามใจตัวเอง โดยไม่ยึดตามกระแสหลัก
- สนใจการทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย การดูแลตัวเอง เช่น การทานอาหารคลีน การปรนบัติผิวพรรณ การออกกำลังกาย เป็นต้น
- ชอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ยากต่อการเข้าถึง คนกลุ่ม Millenial ยินดีที่จะจ่ายเงินให้กับการได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ การสร้างโมเมนต์ที่ดี สำหรับโพสต์บนสื่อโซเชียล จากรายงานการตลาดของ Eventbrite ระบุว่า คนกลุ่ม Millenial กว่า 72% ยินดีจ่ายเงินให้กับประสบการณ์ที่ยากแก่การเข้าถึง ถึงแม้จะต้องใช้บัตรเครดิตจนเต็มวงเงิน
- ให้ความสำคัญกับค่ำคืนแห่งการพักผ่อน จากการสำรวจของ ZionMarket Research พบว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสกินแคร์ สปา หรือเทคโนโลยีเกี่ยวกับการนอน จะเป็นที่นิยมสำหรับคนกลุ่มนี้ เช่น แอปพลิเคชั่นที่ช่วยกล่อมเพื่อให้กลับสบาย หรือเทียนหอมเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นต้น
- มองหาที่พักอาศัยแบบ Co-Sharing จากสถิติการกู้เงินจากธนาคาร HSBC ในประเทศจีน พบว่า 70% ของการกู้เงินมาจากคนที่มีอายุ 19-36 ปี ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยแบบ Co-Sharing อย่างเช่น คอนโดที่มีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถมาแชร์กันได้ เช่น ห้องประชุม ห้องทำงาน ห้องสมุด ห้องดูหนัง หรือแม้กระทั่งห้องครัว ซึ่งเขาเชื่อว่าการที่มาแชร์กันจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายตัวเอง
- สินค้าที่ดีที่สุด คุ้มค้าที่สุด คือชัยชนะของการช้อปปิ้ง คนกลุ่มนี้ชอบซื้อของออนไลน์ และต้องคัดเลือกสินค้าที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด ชอบการสั่งสินค้าที่พรีเมียมหรือสินค้าที่มึคุณสมบัติแตกต่างเฉพาะบุคคล รวมทั้งยังชอบลงทุนกับ Smart Home Trechnology ที่จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในบ้านได้
- ต้องการที่อยู่อาศัยที่เอื้อต่อการทำงาน ในปี 2018 ผลสำรวจทั่วโลกจาก International Workplace Group พบว่าหลายบริษัทเริ่มปรับเปลี่ยนการจ้างงานที่สามารถทำได้จากที่บ้านและรับพนักงานฟรีแลนซ์มากขึ้นถึง 56% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นคนกลุ่ม Millenial มากถึง 75%
- ตระหนักเรื่องปัญหาโลกร้อน จากรายงาน Deloitte ระบุว่าคนกลุ่ม Millenial ที่เป็นคนอเมริกันถึง 60% ตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนและอุณหภูมิโลก พยายามโฟกัสถึงการใช้แอปพลิเคชันเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยในชุมชน และการสร้างกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีประโยชน์แก่ชุมชน ดังนั้น ร้านค้าที่สามารถตอบโจทย์การสร้างบรรยากาศ Feel Like Home จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กได้ดี
4. Gen Z (อายุ 4-24 ปี)
ติดโซเชียลมีเดีย มีอิสระ และเปิดรับกับสิ่งใหม่
- Gen Z เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ใจกว้างมากที่สุด เปิดรับกับสิ่งแปลกใหม่ตลอดเวลา เขาจะมีความสงสัยและเกิดคำถามกับพฤติกรรรม หรือค่านิยมไม่สมเหตุสมผล ที่เคยทำต่อ ๆ กันมาในอดีต ดังนั้น เขาสามารถที่จะเปลี่ยนค่านิยมที่แตกต่างไปจากเดิมได้
- เลือกที่อยู่อาศัยที่ใกล้โรงเรียนหรือที่ทำงาน จากรายงาน Zillow ระบุว่า Gen Z กว่า 86% เลือกมองที่อยู่อาศัยใกล้โรงเรียนและที่ทำงานมากกว่า เพราะต้องการประหยัดค่าเดินทาง มากกว่าที่จะคิดถึงเรื่องสภาพแวดล้อมหรือสังคมเพื่อนบ้าน
- เริ่มคิดวิธีการหาเงินตั้งแต่อายุยังน้อย เด็กวัยนี้จะไม่แยกเรื่องของการเรียนและการทำงานออกจากกัน ถือว่าการเรียนก็คือการเดินทางเข้าสู่ชีวิตวัยทำงานได้เหมือนกัน ซึ่งหากรู้ความชอบของตัวเองในช่วงที่กำลังเรียนอยู่ ก็สามารถลงมือทำงานได้เลย อย่างที่เราเห็นว่า เด็กมัธยมบางคนชอบตัดต่อคลิป อยากเป็นยูทูปเบอร์ก็เริ่มทำได้เลย
- ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ตัวเองบนโซเชียลมีเดีย คนกลุ่ม Gen Z เรียกได้ว่าเป็น Age of Digital Overload ถูกถาโถมด้วยสื่อโซเชียลออนไลน์เข้ามาในชีวิตตลอดเวลา ความถ้าทายแต่ละวันขึ้นอยู่กับสถานะทางโซเชียล แคร์ว่าตัวเองจะดูดีหรือไม่ดีอย่างไรบนโซเชียล คนกลุ่มนี้ใช้เวลายู่ในโลกออนไลน์เฉลี่ยยาวนาน ถึง 9 ชั่วโมง/วัน เนื่องจากเติบโตมาพร้อมกับโลกออนไลน์ จึงไม่ถนัดเรื่องการแสดงออกและสื่ออารมร์กับผู้คนในโลกความเป็นจริง ไม่เชื่อใจใครง่าย ๆ ดังนั้น การเลือกเข้าช่องออไลน์ของเด็กกลุ่มนี้ จึงมักเลือกจากช่องทางที่ให้พื้นที่ส่วนตัว รู้สึกปลอดภัย และสามารถโพสต์รูปหรือเขียนข้อความได้อย่างอสิระโดยไมถูกจับผิด
- ชอบท่องเที่ยวเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับคนในชุมชน เช่น การทำเวิร์กชอป งานฝี ทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน เป็นต้น โดย 97 % ของคนกลุ่ม Gen Z เชื่อว่า ประสบการณ์คือ สิ่งสำคัญสำหรับชีวิต จึงไม่กลัวที่จะออกเดินทางสู่โลกกว้าง คนกลุ่มนี้ไม่สนใจสินค้าหรือกิจกรรมจากอินฟลูเอนเซอร์ แต่ชอบที่จะตามคนที่มีลักษณะคล้ายกับเขา กลุ่มคนที่มีความสนใจเรื่องเดียวกัน
บทความนี้ถอดความจาก Morning Call Podcast เลือกฟังสรุปแบบเข้าใจง่ายได้ทุกช่องทางที่ Spotify, PodBean, SoundCloud และ Apple Podcasts หรือท่านใดต้องการอ่านบทความฉบับเต็มดาวน์โหลดได้ที่ TCDC ค่ะ
trending
trending
sports
recipe