“บริการทุกระดับประทับใจ” ได้ยินสโลแกนนี้คงไม่ต้องสงสัยว่ามาจากแบรนด์อะไร นี่คือสโลแกนของแบรนด์ธนาคารสีเขียวอย่าง ‘KBank’ แบรนด์ธนาคารที่มีความร่วมสมัยอยู่เสมอ ซึ่งเชื่อว่าเวลาที่มีนวัตกรรม ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ออกมาเราก็จะรู้สึกว่า KBank นี่แหละที่ตอบโจทย์ และแก้ปัญหาให้เราได้เสมอ
KBank คือธนาคารที่อยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมภาพลักษณ์ “ทันสมัย” ใครที่ใช้ K PLUS หรือมีบัตรเดบิตลาย CRYBABY ติดกระเป๋าสตางค์อยู่ ก็น่าจะพอเข้าใจความ “ร่วมสมัย” แบบ KBank ได้ดี และถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือคนทำมาค้าขาย ยังไงก็ต้องคุ้นกับ K SME แน่ ๆ
แต่สิ่งที่ KBank ทำมาตลอด ไม่ใช่แค่การออกฟีเจอร์ใหม่ หรือเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินอย่างเดียว แต่คือการทำความเข้าใจ Pain Point และความต้องการของลูกค้าจริง ๆ และนำเสนอโซลูชันด้านการเงินที่ตอบโจทย์ พร้อมเดินไปกับคนไทยในแต่ละยุคสมัย ในฐานะ “ผู้ช่วยสนับสนุน พาลูกค้าก้าวไปข้างหน้า” หรือ Progressive Enabler เพื่อทำให้ทุกเรื่องการเงินของลูกค้าไปได้อีก
และวันนี้ KBank กำลังพา “ความประทับใจ” เดินทางไปอีกขั้น ผ่านแคมเปญล่าสุดที่ชื่อว่า “ประทับใจ…ไปได้อีก” แคมเปญนี้ไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของโฆษณาสวย ๆ หรือเรื่องราวประทับใจ แต่มันคือการแสดงตัวตนของแบรนด์ที่กล้าบอกว่า
“เราไม่ได้แค่อยากให้คุณรู้สึกดีตอนใช้บริการ แต่เราอยากเป็นคนที่อยู่ข้างคุณในทุกจังหวะชีวิต”
และจุดเริ่มต้นของการเป็น “Progressive Enabler” แบบนั้น ไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยี หรือโปรโมชัน แต่มันคือ “Empathy-first Communication” การฟัง และเข้าใจลูกค้าจริง ๆ
ซีรีส์โฆษณาในแคมเปญนี้มีทั้งหมด 3 เรื่อง ที่ “Inspired by true story” แตกต่างกันทั้งบริบท และเจเนอเรชัน แต่มีสิ่งเดียวที่เหมือนกันคือ “ความเข้าใจที่มองลึกกว่าพฤติกรรม”
เจาะ 3 Insight ของคนยุคใหม่ ผ่านแคมเปญ “ประทับใจ…ไปได้อีก”
ในแคมเปญนี้ KBank เล่าเรื่องผ่านซีรีส์โฆษณา 3 เรื่อง ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง คนละบริบท คนละเจเนอเรชัน แต่มีสิ่งเดียวที่เหมือนกัน คือแบรนด์ไม่ได้พยายามขายอะไร แต่พยายามเข้าใจชีวิตของคนให้มากที่สุด

1. แท็กซี่ธรรมดา: “การเปลี่ยนแปลงไม่ได้น่ากลัว ถ้ามีคนเข้าใจและอยู่ข้าง ๆ ตอนที่เราก้าวออกไป”
จากเรื่องจริงในซีรีส์ตอน ‘แท็กซี่ธรรมดา’ มีสาว Gen Z นั่งอยู่บนแท็กซี่กับลุงคนขับที่ใจดีมาก ๆ แต่พอถึงที่สาว Gen Z กลับไม่มีเงินสดจ่าย จะจ่ายแบบสแกน แต่กลับกันคุณลุงก็ไม่มี QR Code ที่จะสแกนได้เหมือนกัน
คุณลุงแท็กซี่ที่ไม่เคยใช้ QR Code กับสาว Gen Z ที่ไม่พกเงินสด ดูเหมือนจะเป็นช่องว่างระหว่างวัย แต่ซีรีส์กลับเล่าให้เห็นว่าช่องว่างนั้น ถูกเติมเต็มได้ด้วยความเข้าใจเล็ก ๆ แบบไม่ต้องพูดเยอะ โดยสาว Gen Z ได้พาคุณลุงไปเปิด QR Code ของตัวเองกับธนาคาร ที่มีบริการช่วยสอน สร้างความเข้าใจ และช่วยให้คุณลุงรับเงินง่าย…ไปได้อีก
เมื่อโลกเปลี่ยน คนไม่ใช่ไม่อยากเปลี่ยน แต่แค่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ความแตกต่างระหว่างเจเนอเรชันไม่ใช่สิ่งที่ต้องข้าม แต่คือสิ่งที่เข้าใจได้ KBank เข้าใจดีว่าคนรุ่นก่อนอาจไม่ได้ต่อต้านเทคโนโลยี เพียงแต่พวกเขาแค่ต้องการ “คนใจดี” มาช่วยพาไปสู่โลกใหม่
ดังนั้น…
- การเปลี่ยนแปลงไม่ควรเริ่มจากการบังคับ แต่ควรเริ่มจากความเข้าใจ
- บริการที่ดีไม่ใช่แค่เร็วหรือสะดวก แต่คือ การลดแรงเสียดทานของชีวิต
- ความประทับใจเกิดขึ้นเมื่อเทคโนโลยี “แตะใจ” ไม่ใช่แค่แตะจอ

2. มูเตลู: “ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน บางครั้งสิ่งที่ขาดไม่ใช่แผนธุรกิจ แต่คือคนที่พร้อมเชื่อในสิ่งที่คุณเชื่อแล้วเดินไปด้วยกัน”
อีกหนึ่งปัญหาคลาสสิคของคนทำธุรกิจ SME ยุคนี้คือมีไอเดีย แต่ขาดการสนับสนุนที่จะผลักดันธุรกิจต่อไปได้ อย่างในตอน ‘มูเตลู’ ที่สองเพื่อนซี้สายมู ร่วมกันสร้างแบรนด์องค์เทพดีไซน์มินิมอล ไอเดียมี ความฝันแรง ความเชื่อแรง…แต่ธุรกิจก็ยังไปต่อไม่ได้ จากไอเดียเล็ก ๆ ที่เกิดจากศรัทธา KBank เข้ามาเติมเต็มในจังหวะสำคัญ จนเกิดเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และความเชื่อของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
หลายคนเริ่มต้นธุรกิจด้วยแรงบันดาลใจที่ดูไม่ Conventional แต่ไม่ได้แปลว่าความฝันนั้นเลื่อนลอย โฆษณานี้ไม่ได้แค่พูดถึง “สายมู” แต่กำลังพูดถึงคนที่กล้าฝันในแบบของตัวเอง และได้พบกับ “แรงสนับสนุนที่ถูกที่ถูกเวลา” ซึ่งก็คือ KBank “มองเห็น” ความตั้งใจที่ซ่อนอยู่ ทำให้ธุรกิจจึงไปได้ไกล…ไปได้อีก
ดังนั้น…
- การเป็น “แบรนด์ของคนยุคใหม่” ไม่ใช่แค่พัฒนาเทคโนโลยีให้เร็ว แต่คือการ พัฒนา “มุมมอง” ให้เปิดรับความหลากหลาย
- ความศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงของธุรกิจ อาจไม่ใช่เพราะจักรวาลส่งมา แต่อยู่ที่ว่า “มีใครเชื่อมั่นในคุณ ตั้งแต่วันที่คุณยังไม่มีอะไร” หรือเปล่า

3. น้องบอล: “บางความสัมพันธ์ทางใจ เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ และเติบโตจนกลายเป็นความเชื่อมั่นระยะยาว”
น้องบอล เด็กชายที่รอแม่ทำธุรกรรมที่ธนาคารเสมอ เขาจำพนักงานคนเดิมที่ชวนเล่นเทนนิสทิพย์ได้ขึ้นใจ หลายปีต่อมา น้องบอลกลับมาขอคำแนะนำในการเปิดสนามเทนนิสจริงของตัวเองกับพนักงานคนเดิม ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้จัดการสาขา
ในตอนนี้ คือบทเรียนของการ “ปลูกความสัมพันธ์” แทนการ “ขายผลิตภัณฑ์” KBank ไม่ได้เป็นแค่ธนาคารในความทรงจำของแม่ แต่กลายเป็นแบรนด์ในชีวิตจริงของลูก ที่เติบโตขึ้นมาและกลับมาใช้บริการด้วยใจ เพื่อที่จะ…ไปได้อีก
ดังนั้น…
- แบรนด์ที่ยืนระยะได้ ไม่ใช่แค่ให้บริการได้รวดเร็ว แต่คือแบรนด์ที่ รักษาความสัมพันธ์ได้ยาวนาน
- บริการดี ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แค่ “อยู่ตรงนั้นเสมอ” ก็เพียงพอ
- ความภักดีต่อแบรนด์ ไม่ได้เกิดจากโฆษณา แต่เกิดจาก “ความสม่ำเสมอที่จับต้องได้”
ทั้งหมดนี้ คือบทสรุปของแบรนด์ที่ไม่ได้เริ่มจาก "กลยุทธ์" แต่เริ่มจาก "เข้าใจคน" สิ่งที่พวกเขารู้ดีที่สุดไม่ใช่แค่ “คนไทยใช้เงินยังไง” แต่คือ “คนไทยใช้ชีวิตยังไง”
และเมื่อแบรนด์เลือกที่จะ “ฟัง” ก่อนจะ “เสนอ” ความสัมพันธ์ก็ไม่ได้จบที่การเลือกใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ แต่มันกลายเป็นความไว้ใจที่เดินไปด้วยกันในชีวิตจริง
จากความประทับใจ สู่การ "ไปได้อีก" ในชีวิตของลูกค้า ในฐานะ ‘Progressive Enabler’
ถ้าลองมองลึกลงไป สิ่งที่ KBank พยายามทำ ไม่ใช่แค่สื่อสารว่า “ธนาคารเข้าใจคุณ” แต่คือการ “ส่งสัญญาณใหม่” ว่า KBank พร้อมเปลี่ยนบทบาทของตัวเองจากผู้ให้บริการการเงินแบบเดิม ๆ สู่ เพื่อนร่วมทางในทุกเส้นทางชีวิต
“Empathy in Action” คือหัวใจของการเป็นแบรนด์ที่จะสร้างความประทับใจ…ไปได้อีก
สิ่งที่ KBank ทำได้อย่างโดดเด่นในแคมเปญนี้ ไม่ใช่แค่การมี Insight ดี แต่คือการลงมือสื่อสารแบบมี Empathy จริง ๆ ในทุก Touchpoint
หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นของแคมเปญนี้คือ การได้เห็นถึงวิธีการของ KBank ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงิน ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิต ให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ แทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวัน
การตลาดที่ดีอาจทำให้ลูกค้ารู้สึก "ว้าว" ครั้งเดียว แต่แบรนด์ที่มีคุณค่าในระยะยาว คือแบรนด์ที่ทำให้ลูกค้ากลับมา เพราะพวกเขา “รู้สึกได้” ว่าแบรนด์นั้นเข้าใจเขาจริง ๆ และในโลกที่ทุกแบรนด์กำลังวิ่งแข่งกันเรื่องเทคโนโลยี KBank กำลังแสดงให้เห็นว่า “ความเข้าใจคน” คือเทคโนโลยีที่มนุษย์ตอบสนองดีที่สุด

นอกจากซีรีส์ที่ “Inspired by true story” ทั้ง 3 เรื่องแล้ว แคมเปญนี้ KBank ยังได้สื่อสารผ่านสื่อ OOH (Out of Home) ที่ยังยึดไอเดียสำคัญ “ประทับใจ... ไปได้อีก” ด้วยวิธีที่แตกต่างกันไปตามแต่ละสถานที่ เพื่อเข้าถึงผู้คนในโลกความจริงด้วย ไม่เพียงอยู่แต่ในออนไลน์ได้แก่
- ตึก KLOUD: มีการใช้คาแรคเตอร์ CRYBABY เพื่อ Connect กับกลุ่มวัยรุ่น Gen Z ที่สยาม
- Siam Paragon: มีการปรับการสื่อสาร พูดคุยเรื่องกิน ช้อป เที่ยว ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนเดินสยาม
- จอต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ: มีการย้ำแนวคิด “ประทับใจ…ไปได้อีก” ให้คนจดจําา ภายใต้งาน Design 5 แบบที่ซ่อนแนวคิด “ความไปได้อีก” ในหลากหลายมิติ ทั้งการเงิน, เทคโนโลยี, SME, ความยั่งยืน และพลังของคนไทย
KBank ไม่ได้พยายามขายผลิตภัณฑ์ด้วยคุณสมบัติ หรือแสดงความล้ำของเทคโนโลยี แต่เลือกเล่าเรื่องของ “คนธรรมดา” ที่กำลังเปลี่ยนผ่าน เติบโต หรือเริ่มใหม่
เพราะความประทับใจในวันนี้ อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เรากลับมาใช้บริการอีกครั้งในวันข้างหน้า KBank ทำให้คุณนึกถึงความประทับใจที่เคยมีกับธนาคาร ซึ่งวันนี้ KBank ก็พร้อมที่ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เข้าใจลูกค้าจริง ๆ ให้ทุก ๆ วันของทุก ๆ คน ประทับใจ... ไปได้อีก
รับชมโฆษณาทั้ง 3 เรื่องของ KBank ได้ที่ https://www.kasikornbank.com/k_4n0iIq7