จากไอเดียไทยมุง สู่โฆษณาเปิดตัว One Bangkok Retail

“ปกติเวลาไปเดินห้าง ชอบไปทำอะไรกันบ้าง?”
“เคยรู้สึกอยากออกไปเดินห้าง แต่ไม่รู้จะไปทำอะไรบ้างไหม?”

ห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้าถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์คนในหลาย ๆ ทาง แน่นอนว่าส่วนหนึ่งคือคนเรามีเวลาจำกัด โดยเฉพาะคนไทยใจกลางเมืองอย่าง ‘กรุงเทพฯ’ ก็เต็มไปด้วยพนักงานออฟฟิศ คนทำงานมากมาย ที่เวลาพักผ่อนคือหลังเลิกงาน กับอีกทีก็เป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์

ดังนั้นการจะเก็บเกี่ยวการพักผ่อนได้ดีที่สุด นอกจากทำงานอดิเรก ดูซีรีส์ที่บ้านแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นการไปชอปปิงที่ศูนย์การค้า ที่ที่รวบรวมทุกอย่างให้จบได้ในที่เดียวได้ ไม่ต้องเสียเวลา

เมื่อก่อนห้าง หรือศูนย์การค้าก็เลยอาจจะเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตประมาณนี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว…

👉 คนต้องการประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เดินเข้าห้างเดิม ได้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิม
👉 คนต้องการ ‘Superior Customer Service’ คือบริการระดับที่ดีอยู่แล้ว แต่ดีได้มากกว่านี้อีก
👉 คนต้องการสิทธิประโยชน์ สิทธิพิเศษใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากการชอปปิงออนไลน์
👉 คนต้องการ Community มากกว่าแค่ Society ทั่วไป

จากอินไซต์ของ One Bangkok Retail พบว่า

คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เริ่มไม่รู้สึกว่ากรุงเทพฯ น่าตื่นเต้น ถ้าจะมีสิ่งไหนที่จะทําให้คนกรุงเทพตื่นเต้นได้มันต้องเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีในกรุงเทพมาก่อน และสำหรับคนทำธุรกิจศูนย์การค้า แน่นอนว่าการสร้าง Customer Experience (CX) เป็นส่วนสำคัญในทุก ๆ Journey เลยก็ว่าได้ แต่จะคิดให้ต่างอย่างไร นอกจากแค่เรื่องของความสวยงาม และขนาด

จึงเป็นโจทย์ที่นำมาสู่โฆษณา ‘Thematic Film’ ของ One Bangkok Retail ที่ตั้งใจจะเป็นจุดหมายปลายทางของการชอปปิงและไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ใจกลางเมือง และอยากที่จะนําเสนอความน่าสนใจของ “ศูนย์การค้า” ที่ยังอยู่ใน “เมืองกลางใจ” ให้น่าสนใจที่สุด ด้วย DNA ของ One Bangkok Retail สร้างความตื่นเต้นให้กับคนกรุงเทพฯและทั่วประเทศไทยอยากที่จะมาชอปปิงกันมากขึ้น

"กลับจากกรุงเทพของกรุงเทพมา เป็นยังไงบ้าง"

คำถามชวนหาคำตอบที่อ่านแล้วอาจจะรู้สึกสงสัย แต่ไอเดียนี้มีที่มาที่ไปของคอนเซ็ปต์ ที่ถูกคิดมาจากโจทย์ข้างต้น

ทาง One Bangkok Retail เล่าให้ฟังว่าไอเดีย “Bangkok of Bangkok กลับจากกรุงเทพฯ ของกรุงเทพฯ” คือการที่จะบอกว่าที่นี่ที่เดียวก็รวมทุกความตื่นเต้น ความสนุกเอาไว้หมดแล้ว เป็นประสบการณ์ที่แม้แต่คนในเมืองที่อยู่กับเรื่องน่าตื่นเต้นตลอดเวลา ก็อาจจะยังไม่เคยได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้มาก่อน โดยที่นี่จะเป็น Shopping Experience ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

ถ้าทุกคนได้ดูหนังโฆษณาที่ว่านี้ จะเห็นว่าไม่มีบทพูดอื่นเลยนอกจาก “กลับจากกรุงเทพของกรุงเทพมา เป็นยังไงบ้าง” ซึ่งถ้ามาลองเปรียบเปรยเวลาเราไปเที่ยวมาข้างนอก หรือเวลาที่เพื่อนไปเที่ยวต่างประเทศเราก็มักจะถามเสมอว่า ไปเที่ยวมาเป็นอย่างไรบ้าง

นี่แหละความรู้สึกของโฆษณาที่อยากจะสื่อสารถึง One Bangkok Retail ให้คนได้รู้จักกัน

แค่ดู ก็ตื่นเต้นที่ ‘ไม่ได้เห็น’

โจทย์หินเบื้องหลังไอเดียการทำโฆษณานี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การทำหนังโฆษณาในขณะที่ตัวศูนย์การค้ายังไม่สมบูรณ์ดี แต่อยากให้คนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกตื่นเต้นนั้นจริง ๆ

ในยุคนี้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เอง "โฆษณาอาจไม่จำเป็นต้องบอกทุกอย่าง แต่ต้องสร้างความอยากรู้ให้ได้" เป็นหนึ่งในวิธีคิดการทำงานของหนังโฆษณาตัวนี้ แคมเปญนี้เลือกที่จะยืนในฝั่งที่แตกต่างจากการโฆษณาห้างทั่วไป โดยเลือกที่จะไม่บอกทุกอย่างแต่เน้นสร้างความสงสัยให้กับคนดูแทน

ไม่เห็นตัวศูนย์การค้า ไม่มีการชอปปิง มีแค่คนมุงกันเยอะ ๆ บอกเล่าเรื่องราวคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน, ผู้บริหาร, อาม่า วัยเกษียณ หรือวินมอเตอร์ไซต์ ที่กลับมาจากการเที่ยว One Bangkok Retail แล้วคนรอบตัวต่างสงสัยว่า “ไปที่ไหนมา เที่ยวมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง”

เป็นการกระตุ้นให้คนเกิดการรอคอย เกิดความสงสัย นั่งนับถอยหลังรอการเปิดตัว เพื่อที่จะเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ที่ดูน่าตื่นเต้นนี้ด้วยตัวเอง นับเป็นจิตวิทยาการตลาดอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ถ้าเทียบว่านี่คือกล่องสุ่มประเภทหนึ่ง ก็คงเป็นกล่องสุ่มขนาดใหญ่ ที่รอทุกคนไปแกะกล่อง และสนุกไปด้วยกัน