‘Self-Awareness’ คือสิ่งที่ทุกคนต้องมี การรู้จักตัวเอง ไม่ใช่แค่ “การเรียนรู้ว่าเราเป็นใคร” ไขวิธีปลดล็อคพลังพิเศษในตัวเอง เพื่อสร้างอนาคตอย่างที่ต้องการ

Last updated on ก.ค. 11, 2025

Posted on ก.ค. 11, 2025

Self-Awareness คือ Superpower ของคนยุคอนาคต

งานวิจัยระดับโลกเผยว่า คนกว่า 95% คิดว่ารู้จักตัวเองดีแล้ว แต่ในความเป็นจริง มีเพียง 10-15% เท่านั้น ที่ “รู้จริง” และทีมที่มีผู้นำที่รู้จักตัวเอง (Self-Awareness) สูง มีผลการทำงานที่ดีกว่าถึง 50%

การรู้จักตัวเอง ไม่ได้ดีแค่กับตัวเราเอง แต่ยังช่วยให้เรา ‘เข้าใจคนอื่นได้ดีขึ้น’ เพราะมนุษย์เชื่อมโยงความสัมพันธ์กันเป็นพื้นฐาน ถ้าเราสามารถเชื่อมโยงผู้อื่นด้วยความเข้าใจ ความมหัศจรรย์จะเกิดขึ้น

Superpower ที่มนุษย์ทุกคนมีคืออะไร?

Superpower นี้ไม่ใช่พลังวิเศษแบบหนังซูเปอร์ฮีโร่ แต่คือ พลังในการเข้าใจว่า “เราเป็นใคร” และ “เราส่งผลต่อคนอื่นยังไง”

บางคนแค่พูดไม่กี่คำ ก็สร้างแรงบันดาลใจให้ทีมลุกขึ้นมาทำงานต่อได้
บางคนจัดการทีมได้ดี เพราะรู้ว่าใครควรทำอะไร
บางคนฟังเก่งจนใครก็อยากอยู่ใกล้

ทั้งหมดนี้คือ Superpower ของมนุษย์


Superpower ทั้ง 4 ประเภท แล้วคุณล่ะมีพลังแบบไหน?

1. Fiery Red Super Power

คนที่มีพลังสีแดงอันแรงกล้า มุ่งมั่นไปสู่เป้าหมาย จิตใจแข็งแกร่งและรวดเร็ว ไม่ชอบอะไรที่ชักช้า

⚠️ ข้อควรระวังเมื่อใช้พลังมากเกิน: อาจกลายเป็นกดดันทีมและคนรอบตัว

2. Sunshine Yellow Superpower

คนที่มีพลังสีเหลือง ต้องการความสนุกสนานและอยากให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม มีพลังในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น

⚠️ ข้อความระวังเมื่อใช้พลังมากเกิน: อาจเผลอมองข้ามรายละเอียดสำคัญเพราะชอบสร้างสรรค์เกินไป

3. Earth Green Superpower

คนที่มีพลังสีเขียว จะเป็นคนที่อบอุ่น เป็นผู้ฟังที่ดีที่แคร์คนอื่นมากกว่าตัวเอง ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากกว่าเรื่องงาน มีเพื่อนชอบมาปรึกษาและทำให้คนอื่นรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ด้วย

⚠️ ข้อความระวังเมื่อใช้พลังมากเกิน: กลัวความขัดแย้งจนตัดสินใจอะไรไม่ได้

4. Cool Blue Superpower

คนที่มีพลังสีฟ้า จะเป็นคนที่มองหาความสมบูรณ์แบบ ละเอียดอ่อน ใช้เวลาในการคิดวิเคราะห์เพื่อมองหาความถูกต้องมากที่สุด และใช้ความคิดเป็นตรรกะเหมาะกับคนที่ทำงานด้านข้อมูล

⚠️ ข้อความระวังเมื่อใช้พลังมากเกิน: ใช้เวลาตัดสินใจนานเกินเพราะพึ่งแต่ตรรกะและข้อมูล


พื้นฐานการสร้างพลัง Superpower

ดร. Carl Gustav Jung ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาแห่งจิตวิทยาพูดถึงการสร้าง Superpower ด้วยการเข้าใจพื้นฐานอย่าง “Psychological Preferences”

1. Attitude to the world (Introversion - Extroversion)

วิเคราะห์ว่าเรามีทัศนคติต่อโลกภายนอกอย่างไร และเราชาร์จพลังงานภายในแบบไหน

2. Decision Making Function (Thinking - Feeling)

เวลาตัดสินใจเราคิดจากเหตุผลและผลลัพธ์ของการตัดสินใจ หรือคิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่นและมีอารมณ์เข้ามาตัดสินมากกว่า

3. Perceiving Function (Sensation - Intuition)

วิธีการที่เรารับรู้ข้อมูล และจัดการข้อมูล เป็นประเภทที่รับจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ต้องรู้จริงเห็นแจ้ง หรือ รับรู้และประมวลผลโดยใช้สัญชาตญาณ

เมื่อเราผสมผสานฐานรากทั้งสามอันนี้ จะประกอบสร้างเป็น Superpower ในตัวเราที่ไม่เหมือนใคร 


Superpower = Personality ที่ปรับเปลี่ยนลื่นไหลได้

การเข้าใจพลัง Superpower ของตัวเองเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น สิ่งสำคัญ คือ การเข้าใจ Superpower ของคนอื่นแล้วหาทาง “สื่อสาร” กันต่างหาก ถึงจะเป็นการใช้พลังพิเศษที่เรามีอย่างถูกต้อง

เพราะเมื่อเรารู้ว่าเราเป็นใคร เราจะใจดีกับตัวเองมากขึ้น และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับคนรอบข้าง

โดยเริ่มจาก "การสังเกต" ไม่ว่าจะเป็น ท่าทาง (Body Language) น้ำเสียง (Tone of Voice) หรือ คำที่เลือกใช้ (Word Choice) ว่าเขามีพลัง Superpower แบบไหน แล้วถามตัวเองว่าคนที่อยู่ตรงหน้าต้องการ “พลังงาน Superpower แบบไหน” จากเรา เพื่อเลือกใช้พลัง Superpower ที่เหมาะสม

เช่น เรามีพลังงานสีเขียวที่รักสงบ แต่ต้องทำงานกับหัวหน้าที่มีพลังงานสีแดงชอบความท้าทาย ให้เรากลับมาวิเคราะห์ตัวเองและสิ่งที่หัวหน้าต้องการ ทางหัวหน้าเองก็ต้องเข้าใจพลังงานของเราและปรับลดความแรงของตัวเอง เมื่อต่างฝ่ายต่างเข้าใจว่าอีกคนต้องการพลังงานแบบไหน การทำงานร่วมกันจะกลายเป็น Collaboration ที่แท้จริง โดยไม่มีใครกดดันจนเสียความเป็นตัวเอง


สุดท้ายนี้ การรู้จักตัวเอง (Self-Awareness) ไม่ใช่แค่ “การเรียนรู้ว่าเราเป็นใคร” แต่คือ “การเข้าใจตัวเองและอีกฝ่าย และเลือกพลัง Superpower ที่เหมาะกับสถานการณ์ที่สุด”


ใครที่อยากรับชมแบบจัดเต็ม สามารถซื้อบัตรรับชมย้อนหลังทุกเซสชันเพิ่มเติมได้ที่
👉 https://bit.ly/3TRATke

Creative Talk Conference 2025 (CTC2025) The Future Is Worth A Thousand Words | Zipevent - Inspiration Everywhere
Creative Talk Conference 2025 (CTC2025) The Future Is Worth A Thousand Words -
trending trending sports recipe

Share on

Tags