“รอให้พร้อมก่อนไหม” มีคนที่หวังดีทักมา เมื่อรู้ว่าเรากำลังจะลาออกมาเปิดบริษัทเอง
“อายุแค่ 26 เก็บประสบการณ์อีกหน่อยดีกว่า”
“ศึกษาคู่แข่งหรือยัง”
“มี business plan ไหม”
“อาศัยความชอบอย่างเดียวไม่น่าจะไปรอดนะ”
จริง ๆ ก็ถูกของเขา เรื่องที่ทักมาล้วนเป็นเหตุผลที่ดีทั้งหมด ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ แค่อยากจะออกแบบเว็บไซต์เจ๋ง ๆ แบบงานเมืองนอก ยุคที่เมืองไทยคนใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ยังเป็น 2Mbps ในตลาดมีใครทำงานแบบนี้บ้างก็ไม่รู้ ลูกค้าก็ยังไม่มี Business plan คืออะไรตอนนั้นไม่รู้จักเลย
ทั้งผมและแหม่ม ลูกพี่ลูกน้องคนสนิท ต่างก็มีงานที่เรียกว่าเหมาะสมสำหรับวัยของเราในช่วงนั้น คุณแหม่มเป็น Marketing ในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ส่วนผมเป็น Designer ในบริษัทโฆษณาด้านโรงแรมและท่องเที่ยว จะว่าไปงานตอนนั้นก็ดีไม่มีปัญหาอะไร แต่พวกเราอยากได้ความท้าทาย อยากลองทำอะไรใหม่ ๆ แบบที่เราคงไม่สามารถทำได้ในงานปัจจุบัน
‘ลุยทุ่ง’ เป็นศัพท์ที่เราสองคนใช้กัน ความหมายของมันก็คือ เดินลุยไปก่อน ไม่รู้ว่าข้างหน้าเป็นอย่างไร น้ำลึกแค่ไหน จะเจอโคลนตมอะไร ลุยทุ่งกันไปก่อน คิดได้แล้วว่าอยากทำ ก็ลงมือทำไปเลย
ซึ่งบังเอิญไปตรงกับแนวคิดของพี่สุกี้ตอนเริ่มทำค่ายเพลง Bakery Music ตามที่ระบุในหนังสือ Bakery & I
พี่สุกี้บอกว่าช่วงปี 2538 ผู้ก่อตั้งทั้งสามคน (พี่สุกี้ พี่สมเกียรติ์ และพี่บอย) ไม่ได้มีแพลนอะไรเลย “เราแค่คิดแล้วทำ คิดอะไรออกก็ทำ” ไม่ต้องศึกษาอะไรให้วุ่นวาย ใช้สัญชาตญาณล้วน ๆ
ดังนั้นการ ‘ลุยทุ่ง’ ของพวกเรา มันคือทำตามสัญชาตญาณล้วน ๆ
รวบรวมเพื่อนและญาติได้ครบ 7 คนเพื่อจดบริษัท ลงขันกันตามสัดส่วนหุ้นที่อยากจะถือ ใช้สถานที่บ้านแหม่มเป็นออฟฟิศ เริ่มทำ Full-time กันสองคนก่อน ค่าใช้จ่ายจริง ๆ คือคอมสองเครื่อง ค่าอินเทอร์เน็ต และเงินเดือนที่น้อยกว่าที่เคยได้จากงานที่ออกมากสองเท่า เดือนแรกหมดไปกับการทำ Portfolio รูปแบบงานที่อยากจะทำ โดยเดินไปหาผู้จัดการของพี่โจ้ JoeyBoy ที่ตึกแกรมมี่ผ่านคนรู้จักอีกที นั่งรอพี่ ๆ เขาเกือบสองชั่วโมง เพื่อจะไปบอกว่า “พี่ครับ ผมขอทำเว็บให้พี่เป็น port ผมนะครับ” หลักจากได้งานเว็บพี่ Joey Boy ออกมาแล้ว เอามาเป็น Portfolio งานเดียวที่เดินไปหาลูกค้าแบรนด์มอเตอร์ไซค์เจ้าใหญ่ เพื่อนำเสนองานเว็บไซต์ Flash เท่ห์ ๆ ให้กับมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่กำลังจะโปรโมต… ปีนั้นคือปี 2549
หลังจากได้งานนี้มา เราก็มี Portfolio เว็บไซต์ที่เราอยากทำไปเสนอเจ้าอื่น ๆ อีก ค่อย ๆ เติบโตมาเรื่อย ๆ จนถึงวันนี้
เรื่องที่อยากจะบอกคือ บางทีการรอให้พร้อมก่อน หรือการคิดเยอะเกินไปอาจจะทำให้ ‘รู้มาก’ จนทำให้เราไม่กล้าลงมือทำเลยก็ได้ กลับกันการที่เรา ‘คิดแล้วทำเลย’ อาจจะทำให้เรากล้าเดิน ‘ลุยทุ่ง’ ออกไปตามหาเป้าหมายของเราตรงเส้นขอบฟ้าก็เป็นได้
ภาพจาก Free-Photos, Pixabay
บทความโดย: คุณณรงค์ยศ มหิทธิวาณิชชา
Chief Digital Officer & Cofounder at The Flight 19 Agency
บทความที่เราแนะนำ
- 12 Ways to Stay Creative : ใช้ความครีเอทีฟสร้างความสำเร็จในวันที่หมดไฟ
- คน 5 แบบที่คุณควรรู้จักเมื่อทำธุรกิจ
- Digital Transformation ต้องเริ่มที่คนไม่ใช่ที่เครื่องมือ