ไปต่อ หรือพอแค่นี้… อะไรคือสัญญาณว่า “ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องลงจากตำแหน่ง”

Jacinda Ardern ลาออกจากการเป็นนายกนิวซีแลนด์, Reed Hastings จาก Netflix และ Susan Wojcicki จาก Youtube ประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอเช่นเดียวกัน

Last updated on พ.ค. 3, 2023

Posted on พ.ค. 2, 2023

อะไรคือเหตุผล สัญญาณ หรือการตัดสินใจของผู้นำ ที่บ่งบอกว่า
นี่แหละคือเวลาที่ผู้นำควรจะต้องมูฟออน…

มีคำพูดหนึ่งของ Jacinda Ardern อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ที่น่าสนใจมาก ๆ เธอบอกว่า “นักการเมืองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เราทำเท่าที่เราจะสามารถทำได้ในช่วงเวลาที่เราทำได้…และนี่ก็ถึงเวลาของฉันแล้ว”

คงยากเหมือนกันเมื่อเราได้ขึ้นไปสูงในระดับหนึ่ง ได้ดูแล ได้รับผิดชอบเรื่องต่าง ๆ พอถึงวันหนึ่งต้องตัดสินใจเดินลงมาจากตำแหน่งผู้นำ ไม่ว่าจะเพราะความอิ่มตัว หรือการยอมรับในความล้มเหลวที่เราอาจจะทำได้ไม่ถึงจุดที่ตั้งใจไว้ จุดไหนจะเป็นจุดที่ทำให้เรารู้ว่า ‘ถึงเวลาแล้ว’ บทความจากเว็บไซต์ entrepreneur ปี 2019 ได้บอกว่า


1. งานเริ่มสบายเกินไป

คุณอาจจะเริ่มรู้สึกไม่มีเป้าหมาย ไม่รู้วัน ๆ จะทำอะไรดี และไม่รู้สึกอยากจะพยายามกับงานที่ทำอยู่อีกต่อไป นี่อาจเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของการก้าวลงจากตำแหน่ง เพราะผู้นำที่ประสบความสำเร็จมักจะพัฒนาและพาตัวเองเติบโตเสมอ

2. Empathy ของคุณเริ่มเจือจาง

ความเห็นอกเห็นใจ เป็นหนึ่งในทักษะผู้นำที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่แค่กับคนในทีมของเรา แต่รวมไปถึงกับพาร์ทเนอร์ แล้วก็ลูกค้าของเราด้วย มีงานเขียนหนึ่งของ Bob Sutton ที่เขียนใน McKinsey Quarterly ระบุว่า คนเราพออายุมากขึ้น จะเริ่มมีความเมตตาหรือความเห็นอกเห็นใจน้อยลง และถ้าผู้นำขาดสิ่งนี้ก็อาจทำให้ธุรกิจมีปัญหา

3. เริ่มไม่มีไอเดียใหม่ ๆ ในการทำงาน

สัญญาณหนึ่งที่น่ากลัวสำหรับผู้นำคือเริ่มขาดไอเดีย ฟังแล้วอาจจะดูไม่แปลกที่เราอาจจะขาดไอเดียกันได้บ้าง ใครมันจะไปคิดงานออกตลอดเวลา แต่ถ้ามันเริ่มขาดชนิดที่ว่าเราไม่ได้พยายามจะคิดอะไรใหม่ ๆ หรือคิดอะไรที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อีกแล้ว ก็อาจถึงเวลาของเราแล้วจริง ๆ

4. ทีมเกิดการ Turnover ในอัตราสูงกว่าปกติ

คนเข้า ๆ ออก ๆ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คนใหม่เข้ามาก็ออก คนในก็อยากจะไป อาจเป็นสัญญาณว่าเราในฐานะหัวหน้า หรือผู้นำเองก็อาจจะมีอะไรผิดพลาดสักอย่างที่ทำให้ลูกทีมต่างพากันกระโจนออกจากเรือลำนี้กันหมด

5. บรรยากาศการทำงานเริ่มเข้าสู่ ‘Toxic’

หนึ่งในหน้าที่สำคัญของคนเป็นผู้นำคือการทำให้บรรยากาศในทีม ในการทำงานมันน่าทำ เมื่อไหร่ที่บรรยากาศที่เริ่มไม่โอเค เริ่มมีการโทษกัน ว่าร้าย กลั่นแกล้ง นั่นแปลว่าคุณเองในฐานะผู้นำไม่ได้เข้าไปคลุกคลีกับทีมมากพอ ไม่เข้าไปช่วยแก้ไขจนปัญหาเริ่มบานปลาย

6. ‘ความเครียด’ กำลังฆ่าคุณอย่างช้า ๆ

บางคนถือว่าความเครียดเป็นฆาตกรที่ลงมือแบบเงียบ ๆ ความเครียดจะส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ กล้ามเนื้อและกระดูก และระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ความเครียดเรื้อรังยังส่งผลต่ออารมณ์และการตัดสินใจของคุณอีกด้วย…เมื่อไม่ไหวก็ต้องเดินออกมา

7. มีใครที่เหมาะสมกว่ารึเปล่า?

ข้อสุดท้ายอยากชวนตั้งคำถามง่าย ๆ คือวันนี้มีคนที่เหมาะสมกว่าเรารออยู่ไหม มันไม่ง่ายเลยที่จะยอมรับสิ่งนี้ แต่เราสามารถถือทั้งหมดนี้ไว้ได้ตลอด เมื่อถึงเวลาก็แค่เตรียมความพร้อมให้กับคนถัดไป และส่งต่อให้ผู้นำคนใหม่ได้ดูแลต่อ

trending trending sports recipe

Share on

Tags