ทำไม Photoshop ถึงดัง?

Last updated on ธ.ค. 5, 2019

Posted on ธ.ค. 5, 2019

ทั้ง ๆ ที่มีโปรแกรมอยู่เยอะแยะมากมายในตลาด แต่ทำไม Photoshop ถึงอยู่มาได้อย่างยาวนานกว่า 26 ปี จนกลายเป็นศัพท์มาตรฐานอย่าง “ภาพนี้โดน Photoshop” มา เช่นเดียวกับ Google ไปแล้ว วันนี้เราจะมาคุยถึงกำเนิดโปรแกรม และเบื้องหลังความสำเร็จของสิ่งนี้กัน

ย้อนกลับไปประมาณปีค.ศ. 1987 สองพี่น้องตระกูล Knoll ที่ชื่อว่า Thomas Knoll และ John Knoll เป็นคนริเริ่มเขียนโปรแกรมนี้ขึ้น โดยคุณพ่อของเขา Mark Knoll ได้ซื้อ Apple tool plus กลับมาที่บ้าน

หลังจากนั้น Thomas เริ่มอยากลองเขียนโปรแกรม จึงได้เขียนโปรแกรม Image editing ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง เอาไว้สำหรับปรับแต่งรูปภาพขึ้นมา และได้ John พี่น้องร่วมสายเลือดผู้เคยทำงานร่วมกับ Josh Lucas บิดาแห่งสตาร์วอร์ มาร่วมพัฒนาโปรแกรมในภายหลัง

ทั้งสองพี่น้อง มีความคิดว่าจะพัฒนาซอฟต์แวร์ตัวนี้ที่จะไม่ใช่เพียงซอฟต์แวร์ที่อยู่ในคอมของตัวเองอย่างเดียว แต่มันต้องกระจายออกไป ต้องใช้และขายได้ เขาจึงนำโปรแกรมปรับแต่งรูปภาพที่พัฒนาขึ้นมาไปขายให้กับ บริษัท Burning scan ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเครื่องแสกนภาพ เขาซื้อไปทั้งสิ้น 200 ก้อปปี้ และเปลี่ยนชื่อโปรแกรมจาก Image pro เป็น Burning scan XP

แต่สองพี่น้องก็ยังไม่พอใจกับยอดขาย ยังได้ไปเสนอขายให้กับบริษัท Aldus ที่ผลิตซอฟต์แวร์ชื่อดังอย่าง Page maker, Aldus Free hand หรือแม้กระทั่งบริษัท Apple

ท้ายที่สุด พวกเขาก็ได้มาเสนอขายโปรแกรมให้กับบริษัท Adobe ซึ่งทางบริษัทได้ซื้อโปรแกรมของสองพี่น้องมาพัฒนาต่อ โดยที่เอาตัว Thomas Knoll มาร่วมงานด้วย

ในที่สุดโปรแกรมนี้ก็ได้ถูกพัฒนาและเปลี่ยนชื่อเป็น Photoshop ก่อนจะเปิดตัวมาในปี ค.ศ. 1990 ซึ่งออริจินัลโค้ดของตัวโปรแกรมเวอร์ชัน 1 ได้ถูกนำไปบริจาคให้กับ Computer history museum เมื่อกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 ที่ผ่านมานี้เอง

หลังจากที่โปรแกรม Photoshop ได้ออกเวอร์ชัน 1 และ 2 มา ก็ได้มี Mark Hamburg ผู้พัฒนาโปรแกรมอีกคนเข้ามาร่วมทีม และได้ถือกำเนิด Photoshop 2.5 ซึ่งเป็นเวอร์ชันแรกที่สามารถใช้ในระบบปฏิบัติการ Window ได้แล้ว หลังจากที่ 2 เวอร์ชันแรกใช้ได้เฉพาะ Mac ถือเป็นการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่อีกก้าวหนึ่งเลย

การพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งของโปรแกรมนี้ก็คือตอนที่ออก Photoshop 3 โดยที่ก่อนหน้านั้นโปรแกรมไม่มีฟังก์ชันเพิ่ม Layer รวมถึงสามารถใช้ Undo ได้เพียงหนึ่งครั้ง เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเก็บข้อมูลลงไฟล์ที่สมัยนั้นยังใช้ Floppy disk ความจุไม่กี่ Mb กันอยู่เลย การที่ Photoshop ไม่สามารถ Undo ได้หลายครั้งจึงทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการทำงานมาก ดังนั้นเมื่อ Photoshop 3 ออกฟังก์ชัน Layer ขึ้นมาจึงได้เปลี่ยนโลกไปอีกครั้ง เพราะมันทำให้มีพื้นที่ในการผิดพลาด ทดลองทำแล้วลบได้มากขึ้นนั่นเอง

หลังจากได้รู้ประวัติคร่าว ๆ และการพัฒนาก้าวกระโดดของโปรแกรม Photoshop ไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าทำไมโปรแกรมนี้ถึงได้โด่งดังอย่างทุกวันนี้ ทั้งที่ตอนนั้นก็มีคู่แข่งสำคัญอย่าง Coral draw และ Coral paint ซึ่งทำซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพหรือกราฟิกได้ดีมาก แต่ทำไม Photoshop ถึงขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของวงการได้ เขาบอกว่ามันประกอบไปด้วย 4 เรื่องหลักๆ ดังนี้

1. หน้าตาของโปรแกรม

ข้อนี้เป็นจุดที่อาจจะทำให้โปรแกรมของ Coral เทียบ Photoshop ไม่ได้ เพราะพวก Interface look และ feeling ของโปรแกรม Photoshop ทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่มืออาชีพใช้กันมากกว่า

2. ความสามารถในการทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่น

Photoshop มีลักษณะการโอนไฟล์ไปที่โปรแกรมอื่นๆ เช่น Quark Express หรือ Page maker ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องนั่งเซฟและเอาไฟล์ส่งให้อีกโปรแกรม จึงกลายเป็นโปรแกรมที่ใช้ง่าย น่าใช้

3. Adobe มีการแจกซอฟต์แวร์ให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ใช้ฟรี

โดยจะแจกให้ผ่านโรงพิมพ์ต่างๆ และบอกว่าถ้าเกิดมีลูกค้า หรือดีไซเนอร์คนใดมาใช้บริการบ่อยๆ ให้แจกโปรแกรมนี้ต่อไปให้เขาด้วย พอมันถูกใช้อย่างกว้างขวาง มันก็กลายเป็นมาตรฐานของโปรแกรมให้คนที่เข้ามาทำงานต้องใช้งาน นอกจากนั้น Adobe ยังได้ขยายการประชาสัมพันธ์โปรแกรมไปในโรงเรียน เพื่อสร้างมาตรฐานให้นักเรียนและนักศึกษารู้สึกว่ามันคือโปรแกรมของมืออาชีพ

4. Plug-in

โปรแกรม Photoshop เป็นโปรแกรมที่มีคนทำ Plug-in ขึ้นมาเพื่อซัพพอร์ตมาก ไม่ว่าจะเป็น Texture, 3D หรืออื่น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดต่อเนื่องหลังจากที่โปรแกรมกลายเป็นมาตรฐานที่ทุกคนใช้งานแล้ว เมื่อมีคนใช้งานเยอะ ก็มีพื้นที่สำหรับ Plug-in เพื่อให้บริษัทเล็กๆ หรือบุคคลธรรมดาได้ใช้งานได้สะดวกขึ้น ทำอะไรได้เยอะขึ้นนั่นเอง

ทั้งหมดนี้คือประวัติของโปรแกรม กระบวนการพัฒนาต่างๆ และ 4 เหตุผลว่าทำไม Photoshop ถึงดังและอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะการใช้งานที่ง่าย การพยายามสร้างตัวเองให้เป็นมาตรฐาน และสุดท้ายคือพยายามคนคนอื่นมาซัพพอร์ตเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากขึ้นนั่นเอง

Photo by Matan Segev from Pexels 

เรียบเรียงโดย รมิตา ตั้งกุลบริบูรณ์นางสาวสิ่งพิมพ์ รอยยิ้มพริมใจ คอนเสิร์ตก็จะไป ผู้ชายก็จะเปย์

trending trending sports recipe

Share on

Tags