เจาะลึก 10 เทรนด์ Beauty & Wellness ปี 2025 โดย Nielsen Thailand

การทำการตลาด ใคร ๆ ก็อยากลูกค้ารักแบรนด์ของเรา และทำให้ KPI ของแบรนด์สูงขึ้น และในท้ายที่สุดทุกคนอยากขายของ ขายอย่างไรก็ได้ให้เราขายของออกไปให้ได้เร็วที่สุด ได้ ROI สูงที่สุด และอยากให้ลูกค้ารักเช่นกัน

Last updated on ก.พ. 1, 2025

Posted on ก.พ. 1, 2025

จะดีแค่ไหนถ้ามีคนที่จดจำแบรนด์ของเรา และรักในแบรนด์ของเรา การทำการตลาด ใคร ๆ ก็อยากลูกค้ารักแบรนด์ของเรา และทำให้ KPI ของแบรนด์สูงขึ้น และในท้ายที่สุดทุกคนอยากขายของ ขายอย่างไรก็ได้ให้เราขายของออกไปให้ได้เร็วที่สุด ได้ ROI สูงที่สุด และอยากให้ลูกค้ารักเช่นกัน

วันนี้เราอยู่กันในหัวข้อ Beauty & Wellness Insights: 10 Trends to Watch Out in 2025 โดยคุณ รัญชิตา ศรีวรวิไล Head of Commercial (Advertiser and Agency), Nielsen Thailand ในงาน INDUSTRY INSIGHTS 2025 

10 เทรนด์ Beauty & Wellness Insights ในวันนี้คนไทย หรือลูกค้า มองหาอะไรอยู่ในปี 2025

เทรนด์ที่ 1: ภาพรวมของงบโฆษณาในประเทศไทย

Media Spending ที่ผ่านมาในปี 2024 มีการเติบโตทรงตัวที่ 3% โดยสื่อที่มีการเติบโตได้น่าสนใจคือ

  • Cinema มีการเติบโตถึง (+27%)
  • Internet (DAAT) เติบโต (16%)
  • Out of Home & Transit (+9%)
  • In-Store (+7%)

งบโฆษณาในกลุ่ม Beauty & Wellness ในปี 2024 มีมูลค่ารวม 20,794 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดในแต่ละหมวดดังนี้

  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare) เติบโต 5,084 ล้านบาท
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม (Haircare) เติบโต 3,863 ล้านบาท
  • วิตามินและอาหารเสริม (Vitamin/Supplementary) เติบโต 3,219 ล้านบาท (+9% จากปีที่แล้ว)
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก (Oral care) เติบโต 3,205 ล้านบาท
  • เวชภัณฑ์ (Pharma) เติบโต 3,019 ล้านบาท
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Personal care) เติบโต 2,126 ล้านบาท
  • เครื่องสำอาง (Cosmetics) เติบโต 277 ล้านบาท (+66% จากปีที่แล้ว)

Online TV เติบโตสูงสุดในกลุ่มผู้บริโภค Beauty & Wellness

  • Online TV และ Out of Home (OOH) มีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • Influencer Marketing และ TV Offline มีแนวโน้มลดลง
  • Social Media และ Audio Streaming ยังคงเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด

เทรนด์ที่ 2: แนวคิดใส่ใจสุขภาพ (Health - Conscious Mindset)

จากงานวิจัยของ Nielsen ระบุว่าในปี 2020 โดย 60% คนส่วนใหญ่บอกว่าใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง แต่ในปี 2024 กระโดดขึ้นมาใส่ใจสุขภาพถึง 80% นั่นหมายความว่าเทรนด์การใส่ใจสุขภาพได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีสถิติที่น่าสนใจดังนี้

  • 68% บอกว่าส่วนใหญ่เน้นทาน Healthy Food ที่เขากิน
  • 53% บอกว่าส่วนใหญ่เน้นทาน Food supplementary เป็นส่วนประกอบมากกว่าการกินปกติ
  • GenZ & GenY กินวิตามินมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมากกว่า 53% อายุน้อยกว่า 40 ปีลงมา
  • GenZ มองหา Skincare มากที่สุด
  • GenY, GenX และ Mature (55+) มองหา Eyesight มากที่สุด
  • จากการสำรวจ Beauty supplement มีการเติบโตสูงขึ้นถึง 13% ตั้งแต่ปี 2020 - 2024 เพราะทุกคนอยากกินเพื่อให้ผิวสวย จึงทำให้

เทรนด์ที่ 3: Beauty Supplement

ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในไทยเติบโตต่อเนื่อง! และกำลังขยายตัวขึ้นทุกปี โดยมีแนวโน้มการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในหลายหมวดหมู่ โดยจำนวนผู้บริโภคในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

  • ซุปไก่สกัด 12.2 ล้านคน (คิดเป็น 21% ของประชากร เพิ่มขึ้น +7%)
  • วิตามิน 9.5 ล้านคน (คิดเป็น 17% ของประชากร เพิ่มขึ้น +10%)
  • รังนก 9.1 ล้านคน (คิดเป็น 16% ของประชากร เพิ่มขึ้น +13%)
  • อาหารเสริมความงาม 7.1 ล้านคน (คิดเป็น 13% ของประชากร เพิ่มขึ้น +12%)

กลุ่มผู้บริโภคให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพและความงามมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงร่างกายและผิวพรรณ ดังนั้นโอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเสริมในปี 2024 ที่น่าสนใจคือ

  • การแข่งขันในตลาดอาหารเสริมจะสูงขึ้น แบรนด์ต้องสร้างความแตกต่าง
  • ผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ที่ มีส่วนผสมที่เชื่อถือได้ และมีผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้
  • Personalized Supplement อาหารเสริมที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลกำลังมาแรง

เทรนด์ที่ 4: คนไทยใส่ใจเรื่องของความงามทั้งใบหน้าและร่างกาย

สกินแคร์สำหรับผิวหน้าและผิวกายกำลังเป็นเทรนด์มาแรง โดยเฉพาะ ‘ผลิตภัณฑ์กันแดด’

  • ผลิตภัณฑ์กันแดด (Sun Protection) มีการใช้ที่เยอะมาก และเติบโตมากกว่า 20% ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา
  • ผลิตภัณฑ์กันแดด (Sun Protection) โตในกลุ่มเด็กลงเรื่อย ๆ GenY และ GenZ มากถึง 44%
  • อัตราการซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกายในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับผิวกายเติบโตโดดเด่นที่สุด (+22%)
  • รองลงมาคือผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น (Moisturizer) สำหรับผิวหน้า (+18%)
  • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าแบบล้างออก (Cleanser rinse off) และผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย (Anti-aging) ก็มีแนวโน้มเติบโตเช่นกัน

โดยสรุป ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ กันแดดสำหรับผิวกาย ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดถึง +22% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการปกป้องผิวจากแสงแดดมากขึ้น


เทรนด์ที่ 5: ผู้คนอยากเด็กลง (I Keep young looking)

  • ผลิตภัณฑ์เวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-aging) กำลังเติบโตขึ้น 9% โดยกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวเป็นผู้นำเทรนด์นี้
  • ปี 2020: ผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี คิดเป็น 71% ส่วนผู้ใช้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 29%
  • ปี 2024: ผู้บริโภควัยหนุ่มสาวลดลงเหลือ 47% ในขณะที่กลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็น 53%
  • แบรนด์ที่มีผู้ใช้มากที่สุด ได้แก่ Garnier มาเป็นอันดับหนึ่ง, Nivea, Pond’s, Olay, Eucerin, Smooth E

โดยสรุปปัจจุบันผู้บริโภคกำลังมองหา ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์มากกว่าราคา


เทรนด์ที่ 6: ใคร ๆ ก็อยากมีผมที่สุขภาพดีขึ้น (I want to have healthier hair)

  • การใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมเพิ่มขึ้น 11% โดยกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 40 ปีขึ้นไปเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก เนื่องจากต้องการปกปิดผมขาว
  • ปัจจุบันยังเป็นตลาดที่ใหญ่อยู่ โดยตลาดใหญ่ที่สุด OK Herbal เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มผู้บริโภคอายุ 40 ปีขึ้นไป
  • 47% ของผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผม มุ่งเน้นไปที่การปกปิดผมขาว
  • การเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์ปกปิดผมขาว โดยรวมเพิ่มขึ้น 21%
  • ซึ่งเป็นกลุ่ม Gen Y เพิ่มขึ้น 12% และ กลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 26%

เทรนด์ที่ 7: ผู้ชายกับการดูแลตัวเอง (Male consumers and his self-care)

  • โดย 47% ของผู้บริโภคชายไทยใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพิ่มขึ้น +5%
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผู้ชายไทยซื้อในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่
    • โฟมล้างหน้า เพิ่มขึ้น (+11%)
    • มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า เพิ่มขึ้น (+11%)
    • ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า เพิ่มขึ้น (+15%)
    • ครีมและโลชั่นบำรุงผิวกาย ลดลง (-2%)
    • ครีมกันแดดสำหรับผิวกาย เพิ่มขึ้น (+15%)
    • ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งสำหรับผิวหน้า เพิ่มขึ้น (+15%)
    • ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มขึ้น (+4%)

Nielsen - Beauty & Wellness Insights Report (2024) ยังระบุอีกว่า ผู้ชายซื้อครีมบำรุงผิวหน้าบ่อยกว่าผู้หญิง โดยความถี่ในการซื้อผู้ชายมีแนวโน้มซื้อ บ่อยกว่า 2 ครั้ง/เดือน มากกว่าผู้หญิง ส่วนผู้หญิงมักซื้อครีมบำรุงผิวหน้าทุก 2-3 เดือน หรือ เดือนละครั้ง


เทรนด์ที่ 8: แบรนด์ไทยมาแรง! เครื่องสำอางท้องถิ่นขึ้นแท่นเป็นตัวเด่น

  • คนไทยนิยมแบรนด์เครื่องสำอางไทยมากกว่าแบรนด์ต่างประเทศ โดยเฉพาะลิปสติก!
  • 60% ของผู้บริโภคชาวไทยนิยมใช้ลิปสติก และลิปกลอสแบรนด์ท้องถิ่น!
  • กลุ่มที่มีแนวโน้มใช้แบรนด์ไทยมากที่สุด ได้แก่ Gen Z (64%), Gen Y (54%), ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป (65%)
    และ ผู้มีรายได้สูง (44%)

แบรนด์ลิปสติกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทย

  1. Mistine (32%)
  2. Maybelline (31%)
  3. Cute Press (19%)
  4. L’Oréal (16%)
  5. Nivea (15%)
  6. Vaseline (13%)
  7. Srichand (11%)
  8. 4U2 (10%)
  9. In 2 It (7%)
  10. Giffarine (5%)

และแบรนด์อื่น ๆ รวมกันถึงอีก 43% บ่งบอกว่าผู้บริโภคชาวไทยเปิดรับแบรนด์ท้องถิ่นมากขึ้น!


เทรนด์ที่ 9: Gen Z นักช้อปรู้จริงในวงการความงาม

  • ถ้าต้องการจะเข้า GenZ คือ การรีวิวออนไลน์สำคัญมาก!
  • คุณภาพ แบรนด์ และราคา คือ 3 ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อสินค้าในทุก Generation
    • Gen Z: ให้ความสำคัญกับคุณภาพ, ข้อมูลสินค้า และรีวิวออนไลน์
    • Gen Y: สนใจคุณภาพ ข้อมูลสินค้า, แบรนด์ที่คุ้นเคย และส่วนลด
    • วัย 40+: เลือกซื้อจากแบรนด์ที่คุ้นเคย รองลงมาคือคุณภาพ, ราคา และความภักดีต่อแบรนด์เดิม
  • Social Media แซงหน้า Search Engine กลายเป็นช่องทางหลักในการค้นหาสินค้าของ Gen Z
    • คนรุ่นใหม่ (Gen Z) หาข้อมูลสินค้าผ่าน Social Media เป็นอันดับ 1
    • คนรุ่น Millennials ยังใช้ Search Engine เป็นแหล่งข้อมูลหลัก
  • สำหรับแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงลูกค้า Gen Z การตลาดบน Social Media จึงเป็นสิ่งที่ ห้ามมองข้าม!

เทรนด์ที่ 10: Physical Stores vs Online Stores

ออนไลน์ช้อปปิ้งโตไว แต่ร้านค้ายังคงเป็นช่องทางหลักสำหรับสินค้าหลายประเภท แม้ว่าการซื้อของออนไลน์จะเติบโต แต่ผู้บริโภคยังคงเลือกซื้อสินค้าหลายประเภทจากหน้าร้านออฟไลน์ โดยเฉพาะสินค้า เครื่องสำอาง และ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

อะไรเป็นแรงจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ?

  • ค้นหาสินค้าโดยตรงจากร้านค้า – ลูกค้าหลายคนยังต้องการเห็นของจริงก่อนตัดสินใจ
  • โปรโมชันที่ดึงดูดใจ – ส่วนลดและข้อเสนอพิเศษเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ
  • เห็นโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย แล้วไปเช็กสินค้าต่อ – การตลาดออนไลน์ช่วยสร้างความสนใจให้ลูกค้า ก่อนที่พวกเขาจะไปดูของจริงที่ร้าน

ทำไมแบรนด์ควรใช้กลยุทธ์ Omnichannel

  • 46% ของผู้บริโภคไทย ค้นหาข้อมูลสินค้าออนไลน์ก่อน แล้วไปซื้อที่ร้าน
  • 34% ของผู้บริโภคไทย ไปดูสินค้าจริงที่ร้านก่อน แล้วค่อยสั่งซื้อออนไลน์

3. KeyPoint สำคัญในตลาด Beauty & Wellness

1. สุขภาพดี ผิวสวย ดูอ่อนวัย และการปกป้องผิวจากแสงแดด

  • กลุ่มวัยรุ่นเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของตลาดความงามและสุขภาพ
  • โฟกัสของตลาดเปลี่ยนจากกลุ่มผู้สูงอายุ มาเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น
  • พฤติกรรมการซื้อของกลุ่มนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

2. ร้านค้าปลีกยังสำคัญ แม้ช้อปออนไลน์จะเติบโต

  • แม้ว่าการช้อปออนไลน์จะเพิ่มขึ้น แต่ ร้านค้าออฟไลน์ยังเป็นช่องทางหลัก สำหรับสินค้าความงามและสุขภาพ
  • ลูกค้าวัยรุ่นนิยมค้นคว้าข้อมูล อ่านรีวิว และหาประสบการณ์ก่อนตัดสินใจซื้อ

3. จัดการสื่อโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการวัดผลจาก ‘กลุ่มเป้าหมายที่ใช่’

  • ต้องเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ที่หลากหลาย
  • การตลาดที่ดีต้อง เข้าถึงลูกค้าได้ถูกที่ ถูกเวลา และถูกแพลตฟอร์ม

แบรนด์ต้องปรับตัวให้ทัน!

  • เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละกลุ่ม
  • เชื่อมต่อประสบการณ์ทั้ง ออนไลน์และออฟไลน์
  • ใช้ข้อมูลและเครื่องมือวิเคราะห์ เพื่อทำการตลาดได้แม่นยำขึ้น

ใครปรับตัวก่อน แล้วเข้าใจอย่างลึกซึ้งก่อน คนนั้นได้เปรียบ!


เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ

trending trending sports recipe

Share on

Tags