ในงาน Business Direction 2024 ประกาศแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เราได้รับฟังเรื่องที่น่าสนใจจากคุณสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “เราวางเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยภายใน 4 ปี (พ.ศ. 2567-2570) ได้ตั้งเป้าสร้างธุรกิจให้เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี (CAGR) เพื่อมุ่งสู่การเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศด้วยสาขามากกว่า 1,000 แห่ง ภายในปี พ.ศ. 2570
และเพื่อตอกย้ำการเติบโตของธุรกิจในทศวรรษที่ 3 อย่างมั่นคง Tops ได้ประกาศทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กร ด้วยการกำหนดวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ “Truly World-Class Omni-Channel Lifestyle Food Retail” พร้อมวางแผนการลงทุนในปี 2567 ด้วยเม็ดเงินกว่า 1.6 พันล้านบาท ผ่าน 4 กลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญ หรือ T-O-P-S ถึงเหตุผลการให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีที่สุด
🛒 1. T - Truly World-Class
เรื่องของการ Empowering Customer Experience สำคัญมาก เพราะการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือกว่า ทำให้ลูกค้ารักในแบรนด์ของเรา สิ่งสำคัญที่ Tops ใส่ใจคือคุณภาพของสินค้า ซึ่งเกิดจากการคัดสรรสินค้าอย่างดี ทั้งในไทยและต่างประเทศรวมกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดยคัดเลือกสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับการยอมรับ และเป็นที่รู้จักทั่วโลกมากกว่า 210 แบรนด์มารวมไว้ในที่เดียว
Tops รู้ดีว่าลูกค้าส่วนใหญ่ เข้า Tops ส่วนหนึ่งไม่ใช่แค่ความคุ้มค่าเพียงอย่างเดียว แต่เล็งเห็นถึงสินค้าจากประเทศที่นำเข้ามา ผู้คนมักจจะนึกถึง Tops เป็นเบอร์แรก ๆ นั่นหมายถึงการรู้จุดแข็งของแบรนด์ที่ลูกค้ามองหาสำคัญมาก อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและกลุ่มเกษตรกรเพื่อพัฒนาสินค้าคุณภาพ พร้อมกิจกรรมการตลาดใหม่ ๆ เพื่อโปรโมทสินค้าจากประเทศต่าง ๆ รวมถึงไทย ให้ลูกค้าได้ค้นพบประสบการณ์การซื้อสินค้าจากทั่วมุมโลกได้ในที่เดียวที่ Tops
หนึ่งในแคมเปญที่น่าสนใจของ Tops คือ สติกเกอร์ แปะปุ๊บลดปั๊บ ลดเลยตามใจคุณ หรือการ แกะ, แปะ, ลด ให้ลูกค้าแปะส่วนลดตามใจนึก เสมือนเรามอบประสบการณ์ให้ลูกค้าเลือกได้ เหตุเพราะเรารู้ว่าลูกค้าอยากได้สินค้าในราคาคุ้มค่า การทำโปรโมชันของ Tops ถึงต้องเน้นย้ำความคุ้มอีก เพื่อมอบพลังให้ลูกค้าลดได้ตามใจ ถือเป็นอีกหนึ่งการสร้าง Empowering Customer Experience ให้กับลูกค้า
🛒 2. O - Omni-Channel Excellence
เรื่องของ Whenever, Wherever Truly Omni-Channel หรือการสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ ผ่านช่องทางออมนิแชเนล สะดวก ครบ จบได้ในทุกช่องทาง ได้แก่
- ร้านค้าแบบมีหน้าร้าน (Brick & Mortar store) ที่เปิดให้บริการทั่วประเทศใน 46 จังหวัด รวมกว่า 700 แห่ง ควบคู่กับการพัฒนาช่องทางการขนส่งผ่านแพลตฟอร์มดิลิเวอรีรายใหญ่ของประเทศ อีกหนึ่งเรื่องที่ลูกค้าชื่นชมคือการแบ่งโซนกรุ๊ปสินค้าที่ Tops ทำให้ลูกค้ามาช้อปแล้วไม่หลง ช้อปสนุกขึ้น หาสินค้าง่ายขึ้น ซึ่งให้ความสำคัญเวลาลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่หน้าร้าน
- Tops online ช่องทางออนไลน์ ตอบโจทย์การช้อปทั้งวัน
- บริหารผู้ช่วยช้อปส่วนตัว หรือ Personal Shopper กับทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Tops ซึ่งสามารถให้คำแนะนำได้กรณีเราช้อปออนไลน์แล้ว ไม่มั่นใจว่าสินค้านั้นราคาเท่าไหร่ หรือลดราคาได้ไหม หรือต้องการถามคุณสมบัติของสินค้า ถือเป็นอีกหนึ่งการช้อปเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวคอยตอบคำถาม
- และสุดท้ายอย่างการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทาง TikTok ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่
🛒 3. P - Pleasure
การสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าที่ดีที่สุด ต้องตอบโจทย์ลูกค้าที่หลากหลาย เพราะในยุคนี้ลูกค้าเองก็มีความชอบหลากหลาย การเป็นธุรกิจกลุ่มฟู้ดรีเทล จึงต้องเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ โดย Tops มีกลุ่มสินค้ามากถึง 14 กลุ่มสินค้า (Discover 14 Wonders) อาทิ สินค้าผักและผลไม้ (Fruits & Vegs) ซึ่งคัดมาแล้วว่าคุณภาพดี และมีหลากหลายชนิด, ขนมขบเคี้ยว (Snacker) ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดสินค้าที่ลูกค้าให้ความสนใจ เพราะ Tops เองไม่ได้มีแค่สินค้าไทย แต่ลูกค้าหลายคนอยากทานสินค้าที่ส่งตรงจากประเทศ Tops ก็มีสินค้าเหล่านี้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า และยังมีกลุ่มสินค้าอีกมากมาย นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงสินค้า Own Brand และ เอ็กซ์คูลซีฟไอเทม Only at Tops รวมกว่า 300 รายการ
นอกจากนั้น Tops เองยังให้ความสนใจ AI & Innovation เพื่อให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม อย่าง Self-Check Out ที่เรามักจะคุ้นเคยคิดเงินสินค้าได้เอง โดยเราทำได้เองทั้งหมด, Smart Trolley รถเข็นอัจฉริยะ, AI Chatbot และ Cleaning Robot หรือหุ่นยนต์ทำความสะอาด ซึ่งทั้งหมดนี้คือการนำเทคโนโลยีมายกระดับประสบการณ์ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเมื่อเข้าร้านค้ามา มีความสุขกับการช้อปมากที่สุด
🛒 4. S - Sustainability
ปฎิเสธไม่ได้ว่า การขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนในทุกมิติเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจยุคสมัยใหม่ โครงการอย่าง ‘Small Acts Together’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่จะบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) โดยสนับสนุนให้คู่ค้าและลูกค้าคนสำคัญเข้ามามีส่วนร่วมในการทำให้โลกน่าอยู่และยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์ “ReNEW” ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสะท้อนปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ “CRC Care” โดยวางแผนงาน 12 Journeys to Net Zero เพื่อเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ผ่าน 4 แกนสำคัญได้แก่
-
ดูแลฐานราก ผลักดันผู้ผลิต (Curating) อาทิ ช่วยเหลือเกษตรกรไทย ผ่านตลาดจริงใจ Farmers’ Market กว่า 11,000 ครัวเรือน สนับสนุน SMEs ไทย ผ่านโครงการ Tops ท้องถิ่นกว่า 200 ราย จาก 29 จังหวัด ปรับใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้า ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 40 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
-
หมุนเวียน (Circulating) ด้วยนโยบายจัดการอาหารส่วนเกิน ลดจำนวนสินค้าใกล้หมดอายุ ส่งต่ออาหารส่วนเกินสู่ชุมชนรวม 6.2 ล้านมื้อ แปรรูปอาหารส่วนเกินเป็นผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงรวม 10,085 ถุง
-
คิดค้นสร้างสรรค์ (Creating Green Innovation) อาทิ สร้างความยั่งยืน ในภาคส่วนโลจิสติกส์ มีแผนขยายการใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) รวม 29 คันภายในปีนี้ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 13,335 ตัน
-
แบ่งปัน (Contributing) อาทิ ร่วมสมทบทุนบริจาคให้กับองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ในโครงการเด็กทุกคนอ่านได้
และด้วย 4 แนวคิดนี้ถือเป็น Key Success ที่สำคัญให้กับ Tops ด้วยความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีที่สุด และสร้างความแตกต่างนี้จึงทำให้ Tops เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ลูกค้าสนใจ และกลับมาใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ ความสำเร็จในวันนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า Tops เป็นแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคและสังคมไทย โดยความสำเร็จนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากปราศจากความร่วมมือและการสนับสนุนจากพันธมิตร พนักงานทุกคน ที่ตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ด้วยเป้าหมายเดียวกัน ตลอดจนลูกค้าที่เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ