โดย ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) จากงาน The Secret Sauce Summit 2023
ในฉากทัศนเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ธุรกิจในประเทศไทยยังคงต้องปรับตัวท่ามกลางแนวโน้ม และปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศ ที่งาน The Secret Sauce Summit 2023 ในเซสชัน Economics Outlook 2024 นั้น คุณ ปิติ ตัณฑเกษม, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาพูดถึง 4DH หรือ 5 เทรนด์โลกที่จะมีผลต่อธุรกิจไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ SMEs ควรตระหนัก เพื่อช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์ตามเทรนด์โลกที่เกิดขึ้นได้
🚩 Deglobalization
การเปิดรับโอกาสของตลาดภายในประเทศ ณ ปัจจุบันเราจะพบว่าทั่วโลกเกิดสงครามมากมาย ความขัดแย้งระหว่างประเทศก็เพิ่มมากขึ้น นั่นทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถพึ่งพาตลาดโลกได้น้อยลง ดังนั้นผู้ประกอบการควรหันไปโฟกัสที่ตลาดในประเทศ ซึ่งการทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคในท้องถิ่น และการสร้างคอนเน็กชันในระบบธุรกิจ ช่วยลดความเสี่ยงที่ธุรกิจระหว่างประเทศจะหยุดชะงักได้
🚩 Decarbonization
เนื่องจากกฎระเบียบ และความต้องการของผู้บริโภคนั้นมักให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วต่อความจำเป็นในการลดการปล่อยคาร์บอน รวมถึงการปรับใช้แนวปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นั่นทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องเร่งการปรับตัว ตั้งแต่การจัดหาวัสดุที่ยั่งยืน ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมาใช้
🚩 Digitalization
บทบาทของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันจะมีเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดโอกาสมากมายสำหรับธุรกิจในการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัล เพื่อสร้างออนไลน์คอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง นอกจากนั้นการดึงข้อมูลจาก Big Data มาใช้จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นในการตัดสินใจทางธุรกิจ
🚩 Demographic Changes
ทั่วโลกและ ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ นั่นทำให้ผู้ประกอบการควรหาสินค้า และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของประชากรผู้สูงอายุ โดยเราอาจหาธุรกิจที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ อาทิการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อผู้สูงวัย บริการด้านการดูแลสุขภาพ อุปกรณ์ช่วยเหลือในการเคลื่อนไหว ไปจนถึงร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ เพื่อสร้างโปรดักต์ที่ตอบโจทย์กับตลาดของผู้สูงอายุที่กำลังเติบโตขึ้นนี้ได้
🚩 Healthier Living
นอกเหนือจากรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปแล้ว ผู้คนเองก็จะให้ความสนใจในเรื่องของความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ฉะนั้นแล้วผู้ประกอบการควรหันกลับมาพิจารณาโปรดักต์ของตนว่า มีส่วนช่วยต่อสุขภาพที่ดีขึ้นของผู้บริโภคไหม? แล้วถ้าไม่เราจะสามารถทำโปรดักต์ให้ไปเสิร์ฟพวกเขาได้ยังไง ซึ่งความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสุขภาพกาย และใจนั้น ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของลูกค้า แต่ยังส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยั่งยืน จนนำไปสู่ความต้องโปรดักต์ที่มากขึ้นได้
การปรับธุรกิจเพื่อรองรับกับ 4DH นี้จึงไม่ใช่แค่ความจำเป็น แต่เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการเป็นผู้นำในเทรนด์ธุรกิจที่กำลังมา ด้วย 5 เทรนด์โลกนี้ จะช่วยให้เราสามารถวาง Brand Position ของตนเพื่อสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนในปีต่อ ๆ ไป รวมถึงตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจโลกในภายภาคหน้า