องค์กรยุค AI ต้องเปลี่ยนจาก ‘ต้องเรียน’ เป็น ‘อยากเรียน’ ให้ได้ สรุปจบในโพสต์เดียว จากงาน AI-THE NEXTGEN

Last updated on ก.ย. 27, 2024

Posted on ก.ย. 27, 2024

คุณเอกราช ปัญจวีณิน Chief Digital Officer, True Corporation ได้เล่าถึงเรื่องของ Next Level Skill คนทำงานต้องมี Hard Skill และ Soft skill อีก 5 ปีข้างหน้าจะมีความท้าทายด้านของทักษะมาก

ผลสำรวจจาก CEO survey 2023 ระบุไว้ว่า Top 5 Skill set ที่สำคัญคือ

  1. 49% คือทักษะ Analytical thinking
  2. 38% คือทักษะ Creativity
  3. 36% คือทักษะ Adaptability
  4. 36% คือทักษะ Leadership
  5. 32% คือทักษะ Collaboration

รวมไปถึงอีก 6 ทักษะมีความสำคัญรองลงนั่นคือ Active learning, Complex Problem-solving, Critical thinking, complex communication, Productivity and Accountability และ Emotional intelligence


การจะนำ AI มาใช้กับองค์กรได้นั้น “คนทำงาน” มีส่วนสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงมาก ซึ่งเคสที่น่าสนใจและถูกนำมาใช้จริงจากองค์กรชั้นนำอย่าง ‘Microsoft’ ทาง คุณโอม ศิวะดิตถ์ National Tech Officer, Microsoft ใน Session: Update on AI Trends from Microsoft ได้เล่าถึง พื้นฐาน หรือ Success Factors ในการทำ AI Transformation ให้ประสบความสำเร็จ ต้องมี 5 เรื่องนี้!

1. Organization & Culture

  • การจะทำ AI Transformation มันไม่ใ่ช่เรื่องของแผนก IT แต่สิ่งสำคัญคือต้องขับเคลื่อนกันทั้งองค์กร ตั้งแต่ Board of Director ต้องให้การซัพพอร์ต, ต้องมีการวางแผน และสร้าง Culture อย่างจริงจัง

2. Business Strategy

  • ถ้าจะเอา AI เข้ามาอย่างคิดว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่เท่ แต่ต้องเอามาแล้วตอบโจทย์ธุรกิจของเราด้วย นั่นหมายถึงคุณต้องมีกลยุทธ์

3. Applied AI Experience

  • เราต้อสร้าง Skills สร้าง Experience ให้กับคนในองค์กร ในเรื่องของ AI เพราะในยุคนี้มีสกิลทางด้าน AI อาจจะยังไม่พอ แต่ต้องมี Softskills อื่น ๆ เพื่อทำให้คนในองค์กรสามารถที่จะนำ AI ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

4. AI Governance

  • หลายประเทศกำลังติดตามเรื่องนี้ รวมถึงในบ้านเราก็หน่วยงานเริ่มออกมารณรงค์ Best Practice ในเรื่องของการนำเอา AI เข้ามาใช้ในองค์กรอย่างมีจริยธรรมอย่างปลอดภัย เป็นเรื่องที่ทุกองค์กรควรให้ความสนใจ

5. Technology Strategy

  • เมื่อเรามีครบทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาแล้ว อีกสิ่งที่จะไม่มีไม่ได้เลยคือ การมีกลยุทธ์ที่ดีเรื่องของเทคโนโลยี หรือการมี Data ที่มีคุณภาพ เพื่อให้ AI เอามาประมวลผล แล้วให้คำตอบที่ดีกับคนในองค์กรนั่นเอง

คนที่รู้เรื่อง AI จะสร้างความแตกต่างได้มากกว่าคนที่ไม่รู้ ดังนั้นอีกหนึ่งบริษัทระดับโลกที่มีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้าน AI อย่างจริงจังนั่นก็คือ ‘Google’ คุณพุฒิ ตั้งตระกูลวงศ์ Strategic Technology Lead, Google Cloud Thailand ใน Session: Update on the AI Workforce from Google ได้นำเสนอเรื่องของ AI Workforce (ทำอย่างไรให้ Resource ในองค์กรสามารถทำให้เรื่อง AI เกิดขึ้นได้จริง เพื่อให้พนักงาน Google มีความเข้าใจให้ลึก เพื่อนำไปใช้จริง นำเสนอลูกค้าได้)


ถอดแบบวัฒนธรรมองค์กรจาก Google เขาสามารถนำ AI มาใช้ให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างไร

Google-wide AI gHacks 10 days
หนึ่งในโปรแกรมที่จัดกันภายในของ Google โดยการให้ทุกคนมาแชร์ไอเดียเรื่องของ AI แล้วส่งเข้าประกวดเป็นทีม ซึ่งทีมละไม่เกิน 5 คน และไม่ใช่แค่แชร์กันฟรี ๆ แต่มีเงินรางวัลให้ด้วย โดยชนะเลิศได้ 10,000 USD โดยใช้เวลา 10 วัน ซึ่งบริษัทสปอนเซอร์เรื่องนี้เอง และอีกส่วนที่น่าสนใจคือ Google มีกิจกรรมที่เรียกว่า TGIF (Thank Google is Friday) ที่คุณซุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) CEO จาก Google จะขึ้นเวทีทุกอาทิตย์ และเชิญทีมที่ชนะออกมาเล่า เพื่อให้คนทั้งบริษัทเข้าใจไอเดีย

Regional AI Tech Day
กิจกรรมที่จะมีการตั้งโจทย์ มีสกอล์บอร์ด เพื่อแข่งขันกันภายในอาเซียน โดยการแข่งขันนี้ทำเพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีความเข้าใจใน AI มากขึ้น

Dedicated days for AI learning (no meeting day)
ศุกร์เว้นศุกร์ จะมีเวลาให้พนักงาน Training เรื่องของ AI

Fishfood / Dogfoods
เป็นการอนุญาตให้พนักงาน Google access beta product เพื่อทดลองโปรดักส์ก่อนได้ ก่อนที่จะ Launch ใหญ่ให้กับบุคคลทั่วไป ซึ่งการได้ทดสอบก่อนจะสามารถรับรู้บัคต่าง ๆ หรือข้อผิดพลาดได้เร็วขึ้น

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ Google เองให้ความสำคัญกับคนทำงานในการมาของยุคแห่ง AI นั่นเอง

อีกส่วนที่สำคัญมาก ๆ คือ แล้วเมื่อเรามี Use case ที่ดีแล้ว เราจะทำอย่างไรให้คนทำงานใช้ AI ได้จริง โดยคุณอภิรัตน์ หวานชะเอม Head of Digital Home Division, True Digital Group และ คุณสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ CEO, KT Venture Capital, Krungthai ใน Session: Two Sides of Skills for AI Advancement in Organizations


ได้กางภาพที่น่าสนใจอย่าง ‘อย่าเริ่มเทรนด์ AI ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มยังไง’

  • สิ่งสำคัญคือเราต้องตอบให้ได้ว่า เราจะทำ AI ไปเพื่ออะไร, ทำไมต้องไม่ทำ, เริ่มเมื่อไหร่ แล้วเมื่อไหร่จะไม่ทำ Why และ What จะกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น ส่วน How จะสำคัญน้อยลงเรื่อย ๆ

  • สิ่งสำคัญต่อมาคือคนทำงานต้องใช้ Creative thinking หรือ Design thinking มากขึ้นเรื่อย ๆ

  • อีกมุมที่น่าสนใจคือ ถ้าคนไม่เอาด้วย บังคับเท่าไหร่เรื่อง AI ก็ไม่เกิด ดังนั้นการจะเปลี่ยนแปลง หรือ AI Transformation เรื่องคนแทบจะเป็น 70% ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ

  • เมื่อเรายอมรับ ว่าเราไม่รู้อะไร และเห็นถึงความสำคัญจะเปลี่ยนสำคัญมาก ความท้าทายขององค์กรในยุคนี้คือ เราต้องเปลี่ยนจากคำว่า ‘ต้องเรียน’ เป็น ‘อยากเรียน’ ให้กับคนทำงานให้ได้


Generative AI มีศักยภาพ และประโยชน์หลัก ๆ ดังนี้

1. เป็นล่ามแปลภาษามนุษย์ได้

แปลว่ามันทำให้คนทั่วไป ไม่ต้องเขียนโปรแกรมเป็น ไม่ต้องเข้า SQL ก็สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้

2. Generative AI สามารถสร้างคอนเทนต์ได้

ซึ่งจะทำให้พนักงานของเราต้องการ Skills หรือ Expertise บางอย่างน้อยลง สิ่งสำคัญคือคุณต้องมี Passion ในการเรียนรู้ เพราะเวลาเราพูดถึง Generative AI ถ้าเกิดเราสั่งให้พนักงานไปเรียน มันจะมี 3 ออฟชันจากมุมมองพนักงานคือ

  1. Replace แปลว่าคุณอาจจะตกงาน แล้ว AI มาทำงานแทน
  2. Augment คือชั้นต้องหัดทำให้ได้ เพราะ AI จะเก่งขึ้น แล้วตัวเราอาจจะเป็นแค่ลูกมือ AI
  3. Empowerment คือให้เขาได้ทำในสิ่งที่อยากทำ คนทำงานมี Passion มีความเข้าใจในลูกค้าที่ดี แต่เขาอาจจะขาดสกิลเรื่อง Digital Marketing ซึ่งในยุคนี้สามารถเอา AI มาช่วย Empower ได้ ซึ่งถ้าเราในฐานะผู้นำองค์กรสามารถทำให้พนักงาน Empowerment ได้ มันจะเปลี่ยนจากคำว่า ‘ต้องเรียน’ เป็น ‘อยากเรียน’ ให้กับคนทำงานได้ในที่สุด

หลังจากที่เราได้เห็นภาพรวมของ Workforce Skills, AI Transformation, การสร้าง Culture หรือการให้ความสำคัญกับคนทำงานแล้ว ในการทำให้ AI เกิดขึ้นจริงแล้วนั้น อีกส่วนที่ขาดไม่ได้เลยคือ แล้วเราจะสามารถนำ AI มาต่อยอด มาสร้างให้มันเกิดขึ้นจริงกับองค์กรของเราได้อย่างไร

โดย ดร.ชนนิกานต์ จิรา Head of True Digital Academy , True Digital Group ใน Session: True Digital Academy AI Solutions Walkthrough และคุณวศิน เจิดนภาพันธ์ Head of Strategic Partnerships & Products, True Digital Academy เกี่ยวกับ AI-People Enablement ที่ทุกองค์กรต้องมีเพื่อการพัฒนาคน และเพิ่มขีดความสามารถใหม่ให้กับคนทำงาน


AI in organization ทำไมถึงสำคัญ!

จาก Research ของ mckinsey, gartner และ accenture ระบุไว้ว่า

  • +20% เพิ่มขีดความสามารถในการทำ Innovation และออก Product ใหม่ ๆ
  • +50% เพิ่มขีดความสามารถในการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพประสิทธิผล และแม่นยำขึ้น
  • +85% เพิ่มขีดความสามารถในด้าน Long-term growth

แล้วเราจะเตรียม ‘คนทำงาน’ ของเรา เพื่อรอรับ AI ได้อย่างไร

1. All facets of AI (หรือทุกด้านของ AI)

ต้องยอมรับว่า เทรนด์ด้าน AI มาแรงมาก เรียกได้ว่าสามารถยึดพื้นที่สื่อได้หมดเลย เพราะใคร ๆ ก็พูดถึง ซึ่งถ้ามอง AI จริง ๆ แล้วมีอยู่ 2 ประเภท

1.1 Analytical AI

สิ่งนี้เราใช้กันมานานมากแล้ว เพื่อทำการ classify, predict, cluster, evaluate และ analytical ได้ดีกว่ามนุษย์

1.2 Generative AI

เป็นอีกแขนงนึงของ AI ที่ตัว output เป็นคอนเทนต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น audio, code, images, texts, videos แน่นอนว่าใน 2 ปีที่ผ่านมา Generative AI มาแรงมาก และพวกเราเห็นได้ชัด ได้ลองใช้กันแล้ว

จาก 2 ข้อมูลนี้ต้องบอกว่าในปัจจุบัน 80% ยังเป็น Analytical AI และอีก 20% ยังเป็น Generative AI ทั้งนี้ทั้งนั้นในการเตรียมความพร้อมไปสู่ AI เราต้องมี Foundation ทั้งในความเข้าใจในการใช้ Generative AI รวมถึงใช้ในส่วนของ Analytical AI ด้วยเช่นกัน

2. Tools change every day, but foundations stay

  • Tools จะมาใหม่เรื่อย ๆ การเรียนรู้ให้เท่าทัน Tools ใหม่ ๆ สำคัญมาก
  • อีกส่วนที่ต้องให้ความสำคัญคือ Foundation ไม่ว่าจะเป็น Tools อะไรก็ตาม เช่น Microsoft Copilot, Google Workspace, ChatGPT เป็นต้น เพราะสิ่งนี้จะส่งผลให้ Workforce เกิดการพัฒนาได้

3. The “human” side of the AI equation

องค์ประกอบสำคัญของการทำ AI enablement ต้องประกอบด้วย 2 ด้าน

3.1 Solution Expertise

คุณต้องมีความรู้ก่อนในการสร้าง AI Solution ซึ่งจะประกอบด้วย Use cases, Prompting Analytics, Process optimization ซึ่งต้องมีความเชี่ยวชาญเป็น Solution Expertise

3.2 Human “Wisdom”

อีกจุดที่มีความสำคัญมาก ๆ ถ้าในยุคที่ AI มันช่วยให้เราทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ เราจะทำงานร่วมกับ AI อย่างไร ซึ่งสิ่งนั้นคือเราต้องมี Wisdom แบ่งเป็น 2 ด้าน

ด้านแรก: Thinking เรามีขีดความสามารถเอื้อให้เกิดประโยชน์ AI ได้ขนาดไหน เช่น Critical thinking, problem solving, strategic decision-making, creativity

ด้านสอง: Interpersonal หรือความสัมพันธ์ร่วมกันในการทำงาน ซึ่งมีความสำคัญในด้าน Communication Enablement for execution


เพิ่มประสิทธิภาพให้กับคนทำงานด้วย AI-People Enablement Solution

TDA หรือ True Digital Academy ให้ความสำคัญกับ AI-People Enablement Solutions ทั้งหมด 4 solutions ที่ทุกองค์กรต้องมีในยุคของ AI Transformation

ส่วนที่ 1 - Identify

รากฐานอันดับแรกเราต้องรู้ก่อนว่า เราจะทำอะไร, ทำตรงไหน, ต้องเริ่มทำอะไรก่อน เพื่อจะได้เห็น Roadmap ในการ transformation เป็นอย่างไร

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า gap ของเราอยู่ตรงไหน เราต้องทำอย่างไร ซึ่งตรงนี้มี Solution แยกย่อยออกเป็น 2 เรื่อง คือ

1.1 AI - Readiness Assessment

คือดูว่าจริง ๆ แล้วองค์กรของคุณอยู่ตรงไหนเมื่อเทียบกับสิ่งที่เราจะ transformation อะไรเป็นสิ่งที่ควรจะเริ่มก่อน ซึ่งมีทั้งส่วนของ Organization และ individual เพื่อเอาผลทั้งสองมาประกอบกันผ่านการทำ Assessment จะได้ส่วนที่สองเรียกว่า AI - Transformation Roadmap

สิ่งที่น่าสนใจในการทำ AI-Readiness Assessment คือ จะทำให้เรารู้ 7 Dimensions เพื่อดูความพร้อมของแต่ละองค์กร ตั้งแต่

  • Organizational Readiness
  • Data Readiness
  • Tech and Infrastructure Readiness
  • Skills and Talent Readiness
  • AI Use Case Readiness
  • Governance and Ethical Readiness
  • Operational Readiness
1.2 AI - Transformation Roadmap

หลังจากที่เราประเมินเสร็จเรียบร้อยก็จะได้เป็น Roadmap ขั้นตอนที่จะทำให้เราทราบว่าแนวทาง หรือ Strategic Guide to Success in AI era เป็นอย่างไร เพื่อมุ่งเน้นในการเสริมสร้าง skills building

คีย์สำคัญของการได้ Roadmap คือเราจะได้ทราบว่าองค์กรของเราควรจะพัฒนาอะไรก่อน และควรจะพัฒนาอะไรหลังจากนั้นได้ เช่น ความพร้อมองค์กรคุณคือ AI-People Skill Building ต้องเริ่มจาก การฝึกอบรมคนในองค์กรเพื่อยกระดับทักษะ (Training and Upskilling) ซึ่งก็จะมีทีมงานมืออาชีพจาก True Digital Academy คอยยกระดับเพื่อสร้างทักษะพื้นฐานให้แข็งแรงสอดรับกับความพร้อมของ Workforce ในด้าน AI เป็นต้น

ส่วนที่ 2 - Inspire (Understand & Be Aware)

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจาก ‘คนในองค์กรต้องพร้อมเปลี่ยนด้วย’ การสร้าง awareness and aligment สำคัญมาก เราจะ Inspire คนยังไง ให้คนอยากจะเปลี่ยนแปลง มีข้อมูลที่น่าสนใจบอกไว้ว่า ถ้าเกิดจะผลักดัน AI Program ในองค์กร การที่จะ awareness program ที่ดีจะทำให้ผลที่ดีขึ้นถึง 1.7 เท่า การที่เราหว่าน awareness หรือสร้าง Inspire สำคัญมาก ซึ่ง Solution ที่ตอบโจทย์ตรงนี้มี 2 ส่วนด้วยกัน คือ

2.1 AI Forum

คือ Sharing จากผู้เชี่ยวชาญใน Topic ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AI ประมาณครึ่งวัน ในรูปแบบ Workshop เป็นการ Inspire ให้ว่าจริง ๆ แล้ว Landscape เป็นอย่างไร

โดย AI Forum เรียกได้ว่ามีให้กับคนทุกกลุ่ม ตั้งแต่

  • AI Leading Strategy ในกลุ่มของ Executives, C-level leaders, senior decision-makers
  • AI Power Moves ในกลุ่มของ Department Heads, Middle Managers, Business Unit Leaders
  • AI the NextGen ในกลุ่มของ High-potential employees, future AI champions, cross-departmental AI task force members
  • Everyday AI ในกลุ่มของ All levels, front-line employees, operations staff, support teams
2.2 AI 101

ซึ่งเป็น E-Learning เป็น Introduction เพื่อ awareness ให้กับทุกคนในองค์กรได้ ตั้งแต่เนื้อหาในเรื่องของ Introduction to AI, How AI Works, AI Applications in Industries ไปจนถึง AI and the Future of Work เราจะเริ่มใช้ AI อย่างไร

ส่วนที่ 3 - Integrate (Use & Apple, Analyze & Evaluate)

เรามาถึงจุดที่เป็น Core สำคัญ เราจะ adopt AI อย่างไร ดังนั้นคุณต้องเชื่อว่าการ adopt AI ต้องมี context เช่น AI สำหรับ HR หรือ AI สำหรับ MKT เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้จะมี Solution อยู่ด้วยกัน 2 ส่วน

3.1 Thinking Skills Suite

พัฒนาขีดความสามารถในการคิด เพื่อจะช่วย enable AI ได้มากขึ้น ดังนั้นเราต้องรู้ว่า Thinking เราต้องคิดอะไรเป็น เราถึจะสามารถใช้ AI ได้ดี ซึ่งมีอยู่ 4 อย่าง

  • Critical Thinking & Problem Solving
  • Strategic Thinking in the Age of AI
  • Making Quality Decision in the AI Era
  • AI-Enabled Innovation & Creativity

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งใหม่ที่ทุกคนเคยได้ยินมา แต่สิ่งสำคัญคือเรามองว่า ถ้า AI เข้ามา แล้วต้อง adopt AI ทักษะที่สำคัฯญเหล่านี้เราจะนำมาปรับใช้ได้จริงอย่างไร

3.2 Adoption Skill Suite

เราต้องรู้อะไรบ้าง เราถึงจะสามารถนำไปใช้จริงถึงเรื่อง AI ในองค์กร ซึ่งการจะ adopt ได้นั้นคุณต้องมี Contextualized เพราะทุกตำแหน่งใช้ AI ไม่เหมือนกัน HR ก็แบบหนึ่ง, Sales ก็อีกแบบ หรือ Marketing ก็อีกแบบ วิธีการใช้ AI แตกต่างกัน ดังนั้นมันต้อง by function ซึ่งทาง True Digital Academy ก็มีผู้เชี่ยวชาญรองรับในแต่ละ Use cases ที่มีความแตกต่างกันไป

แต่ Functional อย่างเดียวไม่พอ อีกส่วนของการ adopt คือ Interpersonal Skills ตั้งแต่การเรียนรู้เรื่องของ Team Communication For AI Enablement หรือ Project Management for AI Enablement ในยุคของ AI

ส่วนที่ 4 - Innovate (Create)

ถ้าเกิดไปขั้นสุดเลยองค์กรอยากจะสร้าง AI Expertise เอง ทำ AI engine เอง มีคนที่คอยผลักดัน AI Project ขอตัวเองอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง Solution ตรงนี้เหมาะมาก ๆ กับองค์กรที่อยากสร้างทีม AI เป็นของตัวเอง โดย Solution แบ่งออกเป็น 2 ส่วน

4.1 AI Champion Program

นึกภาพว่าถ้าจะทำ AI Project ได้มันต้องมีคน 2 สายพันธุ์

สายพันธุ์แรกคือ ‘AI Executor’
การจะทำ AI Project มีความซับซ้อนมากมาย มันต้องคุยกันระหว่างฝั่ง Tech ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ดังนั้นกลุ่มนี้เป้าหลักคือ Lead AI initiatives เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ตั้งแต่การทำ AI Strategy and Roadmapping ไปจนถึง Change Management and AI Adoption ซึ่งต้องใช้เวลาเรียน 6 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการลงทุนกับเวลาที่คุ้มค่าในการไปใช้ได้จริง

สายพันธุ์สองคือ ‘AI Expert’
ต้องเขียน Machine Learning and Deep เป็น ทำ AI Solution Design and Development หรือสามารถ Utilize Tools ที่มีในการทำ Use case ขึ้นได้จริง จุดประสงค์หลักคือ Build AI Product ซึ่งต้องใช้เวลาเรียน 3 เดือนติด เพื่อให้เกิดการลงทุนกับเวลาที่คุ้มค่าในการไปใช้ได้จริง

4.2 AI Mentorship Program

คือการทำ AI จริง และสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยตรง สามารถ consult ได้โดยตรง

  • Group sessions to troubleshoot challenges
  • Regular feedback on AI project execution
  • Provide guidance for AI governance setting

มาถึงจุดที่เรียกว่า ROI เราจะได้อะไรกลับมาบ้าง ?

สิ่งสำคัญที่สุดของการเรียน ไม่ใช่เรียนแล้วจบ แต่ต้องเรียนอย่างเข้าใจ เพื่อนำกลับไปพัฒนา กลับไปปรับใช้กับองค์กรให้ได้ ซึ่งทาง True Digital Academy ก็ได้มีการทำร่วมกับองค์กรชั้นนำและเกิด Use case จริง ในหลาย area ด้วยกันตั้งแต่ cost savings, Revenue Increase การทำ financial planning ที่ดีขึ้น หรือว่า employees retention ลองใช้ AU Employee Attrition Model ที่ทำให้เข้ากับบริษัทนั้น ๆ ก็ช่วยในการ Talent Retention ได้มากขึ้น

ซึ่งใน 1 บริษัทที่ทาง True Digital Academy ดูแลได้ Return ROI มากถึง 5X เท่า จากการที่เข้า Learning & Development programs

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว หากคุณยังเป็นหนึ่งในหลายองค์กรยังไม่ได้มีความพร้อมด้าน AI กว่าที่คิด หรือบางองค์กรตัวผู้บริหารพร้อม แต่พนักงานไม่พร้อม สุดท้ายต้องกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองให้ได้ว่า

องค์กรของเราจะนำ AI มาช่วยทำอะไร ตั้งต้นให้ถูก แล้วค่อยดีไซน์คนทำงาน ให้เขาได้เรียนรู้”

สำหรับใครที่อยากนำ AI มาปรับใช้ในองค์กร
สามารถดูคอร์สที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญ TrueDigitalAcademy ได้ที่

True Digital Academy - Building Talent For the Future
Unlock Your Digital Potential: Master in-demand skills with industry-leading courses and expert instructors at True Digital Academy. Upskill yourself & empower your team. Drive digital transformation and achieve your goals with us today.
trending trending sports recipe

Share on

Tags