AI ทำนายความคิดของมนุษย์ MinD-Vis นวัตกรรมอ่านความคิด เพื่อผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือ สื่อสารไม่ได้

Last updated on ต.ค. 9, 2023

Posted on ต.ค. 4, 2023

ล่าสุด! ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กำลังพัฒนา AI ที่มีชื่อว่า MinD-Vis ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำนายความคิดของมนุษย์ 😱

เริ่มทดลองจากกลุ่มอาสาสมัคร

การทดลองนี้มีอาสาสมัครเข้าร่วมกว่า 58 คน โดยขั้นตอนของการทดลองจะให้อาสาสมัคร ‘จดจำภาพ’ ที่เตรียมไว้ให้ และนำเข้าเครื่อง functional magnetic resonance imaging หรือ (fMRI) ซึ่งเครื่องนี้จะวัดการทำงานของสมองระหว่างที่ถูกถามคำถาม เพื่อเก็บข้อมูลสำหรับนำไปฝึกโมเดลทำนายความคิดของมนุษย์

MinD-Vis หรือ AI ตัวนี้จะสแกนสมองของมนุษย์ด้วยจำนวนภาพกว่า 1,200 ถึง 5,000 ภาพ ไม่ว่าจะเป็น รูปสัตว์, อาหาร, โครงสร้างอาคาร หรือเลียนแบบท่าทางของมนุษย์ ซึ่งแต่ละรูปจะใช้เวลาสแกนเพียง 9 วินาทีเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะได้ภาพออกมา ซึ่งมาจากการทำนายว่ามนุษย์คิดอะไรอยู่ ออกมาเป็นภาพถ่าย หรือ แบบจำลอง AI ส่วนบุคคล

โดยหลักการทำงาน จะแปลงข้อมูลในสมองของเราเป็น Stable Diffusion หรือ การสร้างภาพด้วยข้อความ หรือ text เช่น ถ้าเราต้องการสร้างรูปคนกำลังดื่มกาแฟ แล้วเรามี prompt คำสั่งส่งเข้าไปก็จะสามารถสร้างภาพจากข้อความได้ทันที ซึ่งวิธีการทำงานนี้ใกล้เคียงกับ ChatGPT

หากเพื่อน ๆ สังเกตภาพจากการทดลองแล้วนั้น ภาพที่ออกมาเรียกได้ว่า ‘ใกล้เคียงมาก’ แม้องศาภาพจะไม่ตรงบ้าง หรือรูปร่างบางส่วนที่ MinD-Vis คาดการณ์จะไม่ตรง 100% แต่เรียกได้ว่าใกล้เคียงถึง 70-80 เปอร์เซ็นต์ และสิ่งที่น่าสนใจของเทคโนโลยีนี้ยิ่งกว่าคือ ‘เราจะสามารถเข้าใจความนึกคิดของมนุษย์’ ผ่านเทคโนโลยีนี้ได้แล้ว เอาเข้าจริงก็แอบน่ากลัวไม่ใช่น้อย แต่ก็เป็นการมาของเทคโนโลยีใหม่ที่จะเป็นประโยชน์ต่อโลกอย่างแน่นอน


อนาคตที่จะเกิดขึ้นของเทคโนโลยี MinD-Vis

ความน่าสนใจของเทคโนโลยี MinD-Vis คือจะเข้ามาช่วยยกระดับเพิ่มขีดความสามารถให้กับวงการแพทย์ได้อย่างน่าสนใจ โดยคุณ Chen Zijiao (เฉิน ซีเจียว) จากคณะแพทยศาสตร์ หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือผู้คนได้ในอนาคต โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ไม่สามารถขยับร่างกายได้ หรือ ไม่สามารถสื่อสารได้ แต่ถ้าหากเทคโนโลยีสามารถเข้ามาช่วยให้เราอ่านความคิดของผู้ป่วยได้ ก็จะสามารถสร้างการสื่อสารใหม่กับคนที่ไม่สามารถสื่อสารกับเราได้นั่นเอง รวมถึงในอนาคตเราจะพัฒนาเข้ากับ VR และ Metaverse เพื่อสร้างการสื่อสารให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้ผ่านโลกเสมือนจริง


ความคุ้มครองกฎหมายในด้าน AI

ก็นับเป็นอีกหนึ่งความกล้าหน้าของเทคโนโลยี AI ที่น่าสนใจมาก ๆ  แม้ปัจจุบันจะอยู่ในขั้นของการทดลองเพิ่มเติมต่อไป และยังมีอุปสรรคในข้อกฎหมายมากมายอย่าง

โดยคุณ Chen Zijiao (เฉิน ซีเจียว) หนึ่งในทีมวิจัยก็ยังให้ความตั้งมั่นถึงข้อกฎหมาย โดยเฉพาะ Data Privacy หรือการคุ้มครองโดยกฎหมายซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเกิดการละเมิด เช่น นำภาพถ่ายจาก AI ไปใช้กับการทดลองอื่น ๆ โดยยังไม่ขอการยินยอม ซึ่งทางทีมนักวิจัยก็ไม่ละเลยและให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เพื่อป้องกันความปลอดภัยส่วนบุคคล รวมไปถึงกฎหมายในเชิงการวิจัย AI ที่ยังไม่พร้อมให้กับการเกิดใหม่ของเทคโนโลยีนี้

ก็หวังว่าการพัฒนาจะดำเนินไปอย่างก้าวหน้า และคงความถูกต้องของ Data Data Privacy และ Data Security เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลตามมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับสากล รวมถึงสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยให้เขาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ยังคงมีรอยยิ้มที่สื่อถึงกันผ่านภาพถ่าย ที่เขาไม่สามารถพูดออกมา หรือเขียนออกมาได้ แต่พวกสามารถรับรู้ได้ถึงความรัก ความรู้สึกที่ดีต่อกันได้


นับเป็นก้าวใหญ่ และก้าวใหม่สำหรับโลกเราในปัจจุบันมาก จากเรื่องราวนี้ทำให้เราเห็นได้ชัดมากขึ้นไปอีกว่า AI ไม่ได้เข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานใหม่เพียงอย่างเดียว แต่ AI จะเข้ามา ‘ยกระดับคุณภาพชีวิต และจิตใจ’ แบบรู้ใจมากขึ้นไปอีกขั้น


แปล เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ

ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags