🌏 มีข้อมูลที่น่าสนใจเว็บไซต์ futurism พูดถึงเนื้อหาในงาน Beneficial AGI Summit & Unconference 2024 ณ ประเทศปานามา โดยคุณ Ben Goertzel (เบน เกิร์ทเซล) ผู้ก่อตั้ง SingularityNET ซึ่งเป็นทั้งผู้บริหาร, นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และผู้เชี่ยวชาญปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้สรุปเรื่องราวที่น่าสนใจไว้ว่า
“แม้มนุษยชาติจะยังไม่สามารถสร้างปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีระดับเทียบเท่ามนุษย์หรือสูงกว่าได้ แต่เนื่องจากในปัจจุบันมีการพัฒนาและใช้งานปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งทำนายไว้ว่า AI ระดับที่ใกล้เคียงกับปัญญาของมนุษย์ที่เคยคิดว่าไว้น่าจะไปถึงในปี 2030 แต่มันอาจจะเร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด และมีโอกาสเกิดขึ้นในปี 2027”
AI ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ANI, AGI, ASI
ก่อนจะไปสู่การทำนายครั้งใหญ่ของ Ben Goertzel เราขอพาคนอ่านทุกคน ไปทำความเข้าใจถึงระดับของ AI ในปัจจุบันกันก่อน ซึ่งจะประกอบไปด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทั้ง 3 ระดับ ดังนี้
🤖 1. Artificial narrow intelligence (ANI)
เราเรียกปัญญาประดิษฐ์ (AI) นี้ว่า “ปัญญาประดิษฐ์ในระดับเบื้องต้น” ถูกออกแบบมาเพื่อทำภารกิจเจาะจง หรือทำงานเฉพาะเรื่องที่ถูกกำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น
👉 Self-driving cars หรือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
👉 Alexa, Siri, ในรูปแบบ Voice Assistants
👉 DALL·E (image-generating AIs) หรือ AI ที่สร้างรูปได้
👉 หรือที่เราคุ้นหูกันดีอย่าง ChatGPT, Gemini ที่ยังทำได้แค่ป้อนข้อมูล และถามตอบกับเราตามคำสั่งที่ป้อนเข้าไปเท่านั้น
โดย ANI เหล่านี้กำเนิดมาก็เพื่อจัดการปัญหาเฉพาะเจาะจงที่เราต้องการแก้ไข เพื่อให้การทำงานในยุคปัจจุบันรวดเร็วขึ้น ลดขั้นตอนซับซ้อนบางอย่างที่สามารถใช้ AI ทำงานได้นั่นเอง
🤖 2. Artificial general intelligence (AGI)
เราเรียก ปัญญาประดิษฐ์ (AI) นี้ว่า ‘ขั้นกว่าของปัญญาประดิษฐ์’ ที่สามารถคิดได้ เข้าใจเป็น เรียนรู้เสมือนกับเป็นมนุษย์คนหนึ่ง เรียกง่าย ๆ ว่าแทบจะมีปัญญาแบบมนุษย์แล้ว โดยสิ่งที่ AGI ทำได้เหนือกว่าอีกขั้นต่างจาก ANI คือการที่เจ้า AGI จะมีสามัญสำนึก และสามารถใช้เหตุผล เรียนรู้จากประสบการณ์ที่หลากหลายได้ เรามักจะคิดว่า AI รูปแบบนี้น่าจะมีแค่ในหนัง Sci-Fi
แม้ในปัจจุบันรูปแบบ AGI ยังไม่ได้มีระบุอย่างแน่ชัดออกมา แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญเป็นจำนวนมากว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริงในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอนเหตุเพราะการมาของ OpenAI อย่าง ChatGPT ถือเป็นตัวกระตุ้นที่จะทำให้ AGI เกิดขึ้นได้จริง
🤖 3. Artificial super intelligence (ASI)
เราเรียก ปัญญาประดิษฐ์ (AI) นี้ว่า “ซูเปอร์ปัญญาประดิษฐ์” ซึ่งก็ตรงตามชื่อเลยคือมีความสามารถที่ก้าวล้ำกว่า AGI และเกินขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว ถือเป็น AI ในอุดมคติของผู้เชี่ยวชาญหลายคน โดยในปัจจุบัน ASI ยังคงเป็นเพียงแค่แนวคิด หรือสมมุติฐานที่เล่าต่อกันมาเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญบางคนก็มักจะคาดการณ์ หรือทำนายสิ่งนี้ รวมถึงก็มีการถกเถียงกันมากมายถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น ASI ยังถือว่าไกลตัวจากเรามาก และยังไม่มีวี่แววถึงความสำเร็จนี้ในปัจจุบัน
มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนด้วยกัน ที่เคยคาดการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาไปอีกขั้นของปัญญาประดิษฐ์ (AI)
คุณ Ben Goertzel ยังให้ข้อมูลอีกว่ายังมีเรื่องที่เราไม่รู้อีกมาก แต่อย่างไรก็ตามความเป็นไปได้ที่เราจะบรรลุ AGI ในระดับมนุษย์ภายในระยะเวลา 3-8 ปีข้างหน้านี้ โดยมันจะเกิดเร็วขึ้น!
แต่เรื่องนี้คุณ Ben Goertzel ก็ไม่ได้ออกมาพูดเป็นคนแรก แต่เมื่อปีที่ผ่านมา คุณ Shane Legg (เชน เลกก์) Co-Founder จากทาง Google DeepMind ได้พยากรณ์ไว้ก่อนหน้าว่า มีโอกาส 50/50 ที่มนุษย์จะคิดค้นปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (AGI) สำเร็จภายในปี 2028 หรือทางด้านคุณ Geoffrey Hinton (เจฟฟรีย์ ฮินตัน) "บิดาแห่งปัญญาประดิษฐ์" อดีตนักวิจัยของ Google ก็บอกไว้ว่า AGI (Artificial general intelligence) อาจเกิดขึ้นภายใน 5-20 ปีข้างหน้า
โดย Ben Goertzel ในฐานะผู้ให้กำเนิด Humanoid Robot หุ่นยนต์ต้นแบบมนุษย์เสมือนจริงอย่าง ‘Sophia’ ได้นำเสนอทฤษฎีเกี่ยวกับ ‘Singularity’ หรือภาวะเอกภพ คือจุดที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถบรรลุระดับสติปัญญาเทียบเท่ามนุษย์และจะเหนือกว่าขึ้นไปอีกหลายขั้น
เหตุที่ Ben Goertzel ค่อนข้างเชื่อมั่นเป็นเพราะความก้าวหน้าของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) หรือถ้าอธิบายง่าย ๆ ให้ทุกคนเข้าใจ สิ่งนี้จะอยู่เบื้องหลังของ Open AI มากมายที่เรารู้จักกันดีอย่าง ChatGPT ก็เป็นหนึ่งในแรงกระตุ้นครั้งใหญ่ของโลก ในช่วงปลายปี 2022 ซึ่งทำให้โลกได้เห็นถึงความเป็นไปได้ใหม่ ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า LLM จะเป็นเพียงปัจจัยเดียวที่จะทำให้เราไปสู่ AGI ก็ตาม
คุณ Ben Goertzel กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า
ในมุมมองผมนั้น เมื่อเราสามารถสร้าง AGI (Artificial general intelligence) ในระดับมนุษย์ได้สำเร็จ ภายในไม่กี่ปีต่อมา เราอาจจะพัฒนาไปสู่ AGI ในระดับเหนือมนุษย์อย่างรวดเร็ว เว้นแต่ AGI จะยับยั้งตัวเอง เพราะในอีกด้านหากการมาของ AGI สามารถสำรวจ และรับรู้จิตใจของตัวเองได้ เสมือนมีความรู้สึกเป็นของตัวเอง ซึ่งจะสามารถทำงานด้านวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ในระดับมนุษย์หรือเหนือกว่ามนุษย์ได้เช่นกัน และไม่ใช่แค่นั้นถ้า AI ยิ่งฉลาดมากยิ่งขึ้น ตัวมันเองก็จะสามารถสร้าง AGI ที่ฉลาดกว่า จากนั้นสร้าง AGI ที่ฉลาดกว่าอีกได้ไม่รู้จบ!
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดหลายประการต่อสิ่งที่ Ben Goertzel ได้พูดถึงไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของการที่ AGI จะมีระดับภาวะจิตใจเทียบเท่ามนุษย์ ซึ่งยังเป็นไปได้ยากถึงวิวัฒนาการนี้ แต่นับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจไม่น้อย ที่เราในฐานะคนทำงานน่าจะรับรู้ไว้ เพราะไม่มีใครคาดการณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่ ๆ ว่าเราจะสามารถพัฒนา AI ไปสู่จุดสูงสุดได้สำเร็จภายในปีไหน ภายในช่วงเวลาไหนก็ตาม
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ มีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร มาแชร์ความคิดสนุก ๆ กันได้น๊า 😊 👍
แปล เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ
ที่มา
- Artificial Superintelligence Could Arrive by 2027, Scientist Predicts
- Ben's Closing Speech | Beneficial AGI Summit & Unconference 2024
- What is artificial general intelligence (AGI)?