เป็นเรื่องปกติที่บางครั้งเราจะรู้สึกไม่มีแรงจูงใจ หมดพลัง หรือแค่รู้สึกเศร้า เชื่อว่าหลายคนน่าจะต้องประสบปัญหาเหล่านี้อย่างแน่นอน
🤔 ไอเดียหมด คิดอะไรไม่ค่อยออก
🤔 จะตัดสินใจอะไรสักอย่าง ก็ลังเลไปหมด
🤔 ทุกวันมีแต่ความเร่งรีบ ไม่ค่อยมีสมาธิ
🤔 รู้สึกเหนื่อยง่าย โดยเฉพาะเหนื่อยใจกับงานที่ทำ
🤔 วันอาทิตย์ทีไร ก็รู้สึกอึดอัด หมดแรงจูงใจในการทำงาน
ความรู้สึกเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ทำงานทุกคน ซึ่งเราสามารถหาทางออก และแก้ไขมันได้ ด้วยวิธีที่ทุกคนอาจจะคาดไม่ถึง เพราะเทคนิคนี้ใช้เวลาไม่นาน และง่ายกว่าที่ทุกคนคิด!
เทคนิคนี้มีชื่อว่า ‘1-Hour Mood Booster’ ซึ่งได้นำมาจากแนวคิดที่แบ่งปันโดย @thefabstory เป็นแอปพลิเคชันที่นำแนวคิดวิทยาศาสตร์ด้านพฤติกรรม (behavioral science) มาปรับใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคน โดยเจ้าแนวคิด 1-Hour Mood Booster
หลักการคือการใช้เวลา 60 นาที (1 ชม.) ในการทำกิจกรรมที่ช่วยยกระดับอารมณ์ โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกเศร้า, เบื่อ, เหนื่อยล้า หรือไม่มีแรงบันดาลใจ
1-Hour Mood Booster บูสต์ใจ บูสต์กาย บูสต์ Productive ทำทุกวัน วันละ 1 ชม. เพื่อให้เรามีประสิทธิภาพในการทำงาน ทำน้อย ๆ แต่ได้ผลที่มากมหาศาล
ให้เพื่อน ๆ ลองจินตนาการเวลา 1 ชม. (60 นาที) ซึ่งเราจะแบ่งกิจกรรมออกเป็น 7 เรื่อง ที่จะทำให้ทุกคนได้รับพลังดี ๆ เทคนิคนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกสถานการณ์ เช่น เราอาจจะเริ่มต้นวันใหม่ ตื่นนอนให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อใช้เวลา 1 ชม. นี้ให้คุ้มค่า หรือระหว่างวันเราเหนื่อยล้า ก็อาจจะลองใช้เทคนิคนี้ พักกาย พักใจ 1 ชม. เพื่อ 1-Hour Mood Booster ก่อนจะกลับไปทำงานก็ได้เช่นกัน
❤️ กิจกรรมที่ 1: ตัดการเชื่อมต่อ (3 นาที)
เราจะใช้เวลาช่วงแรกประมาณ 3 นาที โดยเริ่มต้นด้วยการปิดอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมด เช่น โทรศัพท์มือถือ, ไอแพต, โน้ตบุ๊ก, สมาร์ทวอทช์ แล้วค่อย ๆ ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ทำใจให้สงบ ซึ่งการตัดการสื่อสารเหล่านี้ จะเป็นการเริ่มต้นให้เราอยู่ปัจจุบันมากขึ้น มีโฟกัสที่ดีในการเริ่มทำ 1-Hour Mood Booster ให้สำเร็จ ซึ่งขั้นตอนแรกเริ่มนี้สำคัญมาก
❤️ กิจกรรมที่ 2: ทำให้ช่วงเวลานี้เป็น Happy Meal (12 นาที)
ต่อไปเราจะใช้เวลา 12 นาที ในการหาความสุขให้ตัวเอง เราอาจจะกินอาหารที่เราชอบ, ฟังเพลงที่เราชอบ เพื่อทำให้ช่วงเวลานี้เราได้อยู่กับความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ และช่วยยกระดับอารมณ์ให้ดีขึ้น แต่มีข้อห้ามสำหรับคนที่จะฟังเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือ ถ้าเป็นไปได้ ปิด Notification ทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารทั้งหมดไปก่อนใน 1 ชม. นี้
❤️ กิจกรรมที่ 3: ขยับร่างกาย (10 นาที)
ขั้นตอนนี้ให้ลองขยับร่างกายจริงจังขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ในการเดินช้า ๆ ยืดเส้นยืดสายเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ หรือใครอยากจะเต้น หรือ กระโดดเชือก ก็ทำได้ แต่อย่าหักโหมจนเกินไป เพราะการขยับร่างกายเบา ๆ จะช่วยทำให้ร่างกายปลดปล่อยสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่ช่วยยกระดับอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ และอีกมุมคือการที่เราเริ่มสนใจโฟกัสในการขยับร่างกาย จะทำให้เราเหมือนได้อยู่กับตัวเอง และดูแลสุขภาพร่างกายไปในตัว ซึ่งส่งผลให้เกิดทัศนคติเชิงบวก ให้เราได้รักตัวเอง ใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น
❤️ กิจกรรมที่ 4: ชวนรักตัวเองในแบบที่คุณโอเค (5 นาที)
เทคนิคนี้ถือเป็นหนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จของคนระดับโลกมากมาย ด้วยวิธีการที่ใช้เวลาเพียง 5 นาที คือการ ‘เขียนสิ่งที่รู้สึกอยากขอบคุณ’ เช่น วันนี้เราเก่งมากที่มีความมั่นใจพรีเซนต์งานสำเร็จ แม้มันจะไม่สมบูรณ์แบบ มีข้อผิดพลาด แต่เราก็ภูมิใจที่เราได้ลงมือทำ เป็นต้น โดยการทำเช่นนี้จะช่วยเปลี่ยนความสนใจจากสิ่งที่ไม่ดี หรือความเครียดระหว่างวัน ไปสู่ทัศนคติเชิงบวก และรักตัวเองมากขึ้น ซึ่งหากเราทำบ่อย ๆ สม่ำเสมอ จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า Self-affirmation คือกระบวนการคิด หรือเขียนเกี่ยวกับ ‘คุณค่าที่สำคัญ’ (Core Values) ของตัวเอง แม้การขอบคุณตัวเองอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่เราก็ได้เขียนมันด้วยใจจริง รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ และยังช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ที่เป็นฮอร์โมนความเครียดลงได้
❤️ กิจกรรมที่ 5: ทำสมาธิ (10 นาที)
ลองหาสถานที่เงียบ ๆ และใช้เวลาประมาณ 10 นาที ในการทำสมาธิ มุ่งความสนใจไปที่ลมหายใจและปล่อยวางความเครียดที่ยังหลงเหลืออยู่ การทำสมาธิช่วยให้จิตใจสงบ และเพิ่มทำให้เกิดสมาธิ แต่ถ้าหากเราไม่สะดวกในการทำสมาธิ ก็สามารถลองทำกิจกรรมเช่น เขียนเรื่องราวที่เราสนใจ อาจจะเป็นการทำคอนเทนต์ หรือเขียนความรู้สึกดี ๆ ด้วยการบรรยายผ่านการเขียน แต่ถ้าหากใครถนัดวาดรูป ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะแก่นแท้ของเรื่องนี้คือ สมาธิ และการโฟกัสทำเรื่องที่ตนเองสนใจ เพื่อเพิ่มสมาธิ และทำให้จิตใจสงบ ปล่อยวางจากความเครียดให้หมด
❤️ กิจกรรมที่ 6: เดินเล่น (15 นาที)
เทคนิคนี้จะดีมาก ๆ คือหยิบตัวคุณออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จะดีมาก ๆ หากสถานที่นั้นมีต้นไม้ มีธรรมชาติ อย่ามัวแต่อยู่ในห้องแอร์ ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง เพราะการเปลี่ยนบรรยากาศสามารถช่วยปรับอารมณ์ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เปลี่ยนโฟกัสเรามาเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ ฟังเสียงธรรมชาติ ให้เวลากับตัวเองได้พักผ่อนทั้งกายและจิตใจ
❤️ กิจกรรมที่ 7: ทำความดี (5 นาที)
ปิดท้ายด้วยการใช้เวลา 5 นาทีสุดท้ายนี้ ลองเริ่มต้นด้วยการทำความดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยการช่วยเหลือคนแปลกหน้า หรือคนที่เรารู้จัก เช่น พาผู้สูงอายุข้ามถนน, ถามเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ เราว่าหิวไหม เดี๋ยวเราไปซื้ออะไรอร่อย ๆ ให้กิน หรือง่ายที่สุดที่ทำได้ด้วยตัวเอง อาจจะลองเก็บขยะ แยกขยะ เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อทำให้หมู่บ้านของเรา หรือออฟฟิศเราสะอาดขึ้น โดยการทำความดีด้วยจิตใจที่ดีต่อผู้อื่นสามารถเพิ่มความสุขให้กับตัวคุณเองได้มหาศาล และยังเป็นการผูกมิตรภาพที่ดีเช่นกัน
โดยสรุปแล้วเทคนิค 1-Hour Mood Booster หลายคนก็อาจจะรู้สึกว่าฟังดูง่าย แต่จะลงมือทำมันอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่เชื่อสิ ว่าการได้เริ่มลงมือทำอะไรดี ๆ สักครั้งในชีวิต มันจะเปลี่ยนแปลงคุณคนเก่า ให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ทั้งกาย และใจ ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง
ฝึกทำให้สม่ำเสมอ สิ่งนี้สำคัญมาก หากเราทำเป็นประจำ รู้สึกดีได้ในทุกวัน ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ให้ดีขึ้น และสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของวันได้อย่างแน่นอน ลองทำดู และสังเกตความแตกต่างในช่วงที่ยังไม่เริ่มทำ 1-Hour Mood Booster กับหลังจากที่เริ่มทำแล้ว รับประกันเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างแน่นอน ☺️ ❤️
แปล เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ
ที่มา