🎯 ผู้นำที่จะอยู่รอดในยุคนี้! คือผู้นำที่ติดตามสถานการณ์โลก
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมไหนก็ตาม บทบาทสำคัญของผู้นำในยุคนี้ ไม่ใช่แค่การบริหารธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องของการเป็นผู้นำที่ติดตามสถานการณ์โลกด้วย
องค์กรที่สำคัญอย่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ปัจจุบันมีอายุ 65 ปี แล้ว ได้ผ่านประสบการณ์ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมาหลายยุคสมัย เห็นการเปลี่ยนแปลงมาหลายรูปแบบ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วยคน และคนที่จะขับเคลื่อนก่อนเป็นคนแรกเสมอ นั่นคือ “ผู้นำ”
หนึ่งในผู้นำของ ททท. คุณกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง (รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา ททท.) หรือ ท่านรองเก่ง ที่เห็นมาทุกการเปลี่ยนแปลง ได้ชวนตกผลึกความคิดการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ และผู้นำทุกคน ถึงมิติของนอกเหนือจาก ทะเล, ภูเขา, ต้มยำกุ้ง, ผัดไทย หรือภาพจำของคนทั่วโลกที่มีต่อประเทศไทย “เรายังมีของดีอะไรอีก” เพื่อดึงดูดให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยกันเอง ให้หันมาเที่ยวไทยกันได้บ่อยยิ่งขึ้น เพราะอย่าลืมว่าในความยุ่งเหยิงของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจโลก หรือการมาของเทคโนโลยีอย่าง AI ท้ายที่สุดประเทศไทยยังเป็นหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยว เพราะบ้านเราการท่องเที่ยวถือว่าเนื้อหอมมาก!
🎯 โลกของการท่องเที่ยวไม่เหมือนกับในอดีตแล้ว เราเห็นพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป!
ท่านรองเก่ง ได้เล่าต่อว่า โลกของการท่องเที่ยวจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปครับ เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่นักท่องเที่ยวไม่ได้แค่เดินทางเพื่อชมวิว หรือถ่ายรูปสวย ๆ แต่พวกเขากำลังมองหา ‘คุณค่า’ จากการเดินทาง โดย Painpoint ที่เราจะพบเจอในด้านธุรกิจท่องเที่ยวมีมากมาย ไม่ว่าจะ
🔸 ปัญหาในการทำ Supply Size ให้แข็งแรง
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีปัญหาในการสร้าง Demand หรือความต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปซื้อสินค้าและบริการ แต่ว่ามันมีปัญหาในการดูแล Supply Size หรือ สินค้าหรือบริการท่องเที่ยว ที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเตรียมไว้ขาย หรือให้บริการแก่นักท่องเที่ยว แต่ทว่าสิ่งนี้กลับไม่แข็งแรงพอ แล้วอีกเรื่องที่ใกล้ ๆ กันคือเรื่องของ ‘แรงที่น่าดึงดูดคนไปเที่ยว’
เพราะวันนี้ Demand สร้างง่าย แต่ถ้าเราสร้าง Demand แล้ว Supply ไม่แข็งแรง พวกแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไปเห็นแล้วครั้งนึง เขาก็อาจจะไม่ได้รู้สึกดี ไม่ได้ประทับใจขนาดนั้น โอกาสที่เขาจะกลับมาอีกรอบก็ยาก เผลอ ๆ อาจจะมาเที่ยวครั้งเดียวแล้วก็จบไป
🔸 สินค้าและบริการไม่มีความหลากหลายมากพอ
ข้อจำกัดของสินค้าการท่องเที่ยวในประเทศไทย ถ้าให้พูดตรง ๆ ไม่มีความหลากหลายมากขนาดนั้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเวลาเราเห็นคนไทยส่วนใหญ่ พอถึงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ทีไรก็ไป พัทยา, หัวหิน. นครปฐม เพื่อหาอะไรกินเป็น Day trip ไป เพราะที่เที่ยวที่คนนึกถึงนั้นมีน้อยกว่าที่คิด
แล้วจะมีกิจกรรมอะไรบ้างที่หลากหลายกว่านี้ไหม ทั้งในเชิงครอบครัว หรือออกไปทำกิจกรรมร่วมกันในเชิงกีฬาไหม หรือเป็นพวก Healing Harmony กิจกรรมที่ช่วยพักร่างกายและจิตใจ ปรับสมดุลตัวเองให้ตัวเอง ซึ่งมันไม่ได้มีความหลากหลายขนาดนั้น ดังนั้นเราจะเห็นว่ามีคนไทยหลายคนชอบไปเมืองนอก เพราะเขาได้ไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งในท้ายที่สุดก็ต้องยอมรับว่า การกลับมาโฟกัสเรื่องการพัฒนาสินค้าการท่องเที่ยว ให้มีความหลากหลายมากขึ้น
รวมไปถึงโปรดักต์ที่อยู่บนมือเราในปัจจุบัน อาจจะยังไม่พอหรือเปล่า รวมถึงมาตรฐานของโปรดักต์นั้นยังไม่พอที่จะดึงดูดให้คนไทยเที่ยวไทย แต่กลับกันชาวต่างชาติกลับเห็นความหลากหลายนั้น จึงมาเที่ยวเมืองไทย ดังนั้นนี่จึงเป็นหนึ่งในโจทย์สำคัญถึงมุมมองต่อคนไทย หรือเราอาจจะมีสินค้าและบริหารไม่ได้ตอบโจทย์คนไทยมากพอ
🔸 ขาดการบริหารจัดการความเสี่ยง และแผนรับมือการเปลี่ยนแปลง
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวนับว่ามีความ Sensitive มาก ๆ เพราะอะไรก็ตามที่เกิดผลกระทบขึ้นบนโลก อุตสาหกรรมที่จะโดนผลกระทบอย่างแรกคือ “อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” เราได้เห็นบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าจะหยุดโลกได้จริง ๆ นับเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าธุรกิจที่ไม่มีแผนรับมือวิกฤต จะอยู่รอดได้ยาก หลายธุรกิจ
เพราะ โควิด-19 คือ Tourism Disease โดยจะเกิดขึ้นหลัก ๆ จากการเดินทาง วิธีการที่จะอยู่รอดต้องเกิดการรับรู้เรื่องนี้ มีการรองรับ รู้เท่าทันภัยเหล่านี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และต้องมีวิธีจัดการ นี่เป็นอีกส่วนสำคัญของเจ้าของกิจการ และผู้ประกอบการทุกคนต้องมีแนวทางรับมือที่ชัดเจน
การท่องเที่ยวยุคใหม่ต้องเลิกคิดแต่เรื่องตัวเลข ในวันนี้ไม่ใช่แค่การดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาให้มากที่สุดอีกต่อไป
🎯 และนี่คือ 4 เทรนด์สำคัญที่ธุรกิจต้องจับตามอง เพื่อปรับวิธีคิด และเปลี่ยนวิธีทำให้เหมาะสม!
เรื่องของเทรนด์ 2-3 ปีหลังมานี้ไม่ได้หนีกันมาก แต่ทุกวันนี้เทรนด์สำคัญ ๆ เป็นเรื่องของ ‘การออกแบบประสบการณ์, เทคโนโลยี และการสร้างความยั่งยืน’ เพราะถ้าธุรกิจการท่องเที่ยวยังบริหารแบบเดิม ๆ มุ่งแค่ยอด! มุ่งแค่ตัวเลข หรือแค่นักท่องเที่ยวระยะสั้นแล้วจบไป แต่ไม่สนใจคุณค่าที่ส่งมอบ จะไปต่อได้ยากในยุคนี้ โดยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปอย่างมาก! ถ้าวันนี้คนทำธุรกิจไม่เปลี่ยนตาม ภัยที่น่ากลัวที่สุดคือตัวคุณเอง
จาก Painpoint ที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ ถ้าผู้นำธุรกิจมองไกลและพร้อมปรับตัว ซึ่งมีเทรนด์ที่น่าสนใจ ในมิติของธุรกิจท่องเที่ยวที่น่าจับตามอง อยู่ด้วยกัน 4 เทรนด์
🌎 1. Hyper-Personalization
นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับเรื่องของการเดินทางเฉพาะตัวอย่างสูง ต้องการมีรูปแบบใดแบบหนึ่ง ที่ไม่เหมือนคนอื่น ตอบสนองความต้องการตามความสนใจของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าการจะตอบโจทย์สิ่งนี้ได้ จะเกิดขึ้นด้วยเทคโนโลยีอย่าง AI และ Agentic AI นี่จึงเป็นความท้าทายสำคัญของธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างมาก
🌎 2. Responsible Tourism & Sustainability Tourism
หนึ่งในเทรนด์การท่องเที่ยวแบบใหม่ ที่ทำให้ผู้คนตระหนักเรื่องของสิ่งแวดล้อม ทั้งในฝั่งของนักท่องเที่ยวเอง และเจ้าบ้าน หรือเจ้าของพื้นที่ เพราะการมาของภาวะโลกร้อน จึงทำให้ทุกคนต้องตระหนักเรื่องของสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เพื่อรักษาทรัพยากรให้คงอยู่ต่อไป
🌎 3. Regenerative Travel
นี่คือขั้นกว่าของการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่มีมิติความล่ำลึกในด้านการท่องเที่ยวที่ฟื้นฟู ไม่ใช่แค่ลดผลกระทบ แต่ไปเที่ยวแล้ว ต้องมีส่วนร่วมในการสร้างเพื่อให้เกิดความงอกงาม ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและวิถีชุมชน
แต่ก็ต้องยอมรับเรื่องความท้าทายอย่างหนึ่งว่า “ไม่ใช่นักท่องเที่ยวทุกคนที่อยากทำสิ่งนี้” การผลักภาระไปให้นักท่องเที่ยวลดเพียงอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบของความยั่งยืน แต่ตัวเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการเอง ก็ต้องมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งนี้ไปด้วยกัน นอกจากจะต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคแล้ว เรื่องของ Creativity จะมีส่วนอย่างมากในการสร้างสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นจริง!
🌎 4. Hybrid Workplace & Remote Worker
มีคนบอกไว้ว่าระหว่าง ‘Work From Home’ หรือจะ ‘Work From Here’ เพราะหลายคนก็ไม่ได้ทำงานจากบ้านแล้ว แต่อาจจะไปทำงานตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างร้านกาแฟ หรือเที่ยวไปทำงานไป ดังนั้นกลุ่ม "Digital Nomad และ Remote Worker กำลังกลายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง ประเทศที่ปรับตัวให้รองรับกลุ่มนี้ได้ดี จะกลายเป็นศูนย์กลางของนักเดินทางยุคใหม่ ประเทศไทยเองมีศักยภาพสูงมากในจุดนี้ แต่เราต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและออกแบบนโยบายให้ตอบโจทย์มากขึ้น
ส่วนเทรนด์อื่น ๆ ก็ยังมีให้เห็นเรื่อย ๆ เช่นเรื่องของ Wellness ก็ยังเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ คนส่วนใหญ่มาเที่ยวเพราะอยากผ่อนคลาย มาฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็น Medical & Wellness Hub ของเอเชีย แต่เราต้องเชื่อมโยงบริการและยกระดับมาตรฐานให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก"
ดังนั้นการแก้ Painpoint หรือการเข้าใจเทรนด์ ไม่ใช่แค่เรื่องของการปรับกลยุทธ์ แต่เป็นการเปลี่ยน แนวคิดในการทำธุรกิจ ใครที่มองไกลและปรับตัวได้เร็ว จะสามารถสร้างโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืนได้
🎯 ต่อให้รู้ปัญหา หรือ เข้าใจเทรนด์ แต่ถ้าผู้นำไม่ยอมรับ และไม่พร้อมที่จะปรับเปลี่ยน ก็ยากจะไปต่อได้
อุตสาหกรรมท่องเที่ยว นับว่ามีความปราบเซียน! พอสมควร เพราะไม่ว่าโลกจะมีผลกระทบอะไรมาก็ตาม อุตสาหกรรมแรก ๆ ที่จะส่งผลกระทบ หนึ่งในนั้นก็คือการท่องเที่ยว ดังนั้น “ผู้นำสายนี้ต้องแกร่ง และมองไกล”
แน่นอนว่าการจะทำได้จริง ไม่ใช่การคาดเดา แต่เกิดจากการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของคนที่ลองมาแล้วกว่า 65 ปีอย่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เราเห็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมานาน การสั่งสมองค์ความรู้อันมีค่านี้ และเข้าใจภาพรวมของอุตสาหกรรมอย่างคนรู้จริง เข้าใจเทรนด์ต่าง ๆ คือ Value ที่สำคัญของผู้ที่จะได้มาเข้าอบรมนี้ โดยโครงการล่าสุด! อย่าง Tourism Management Program for Executives (TME) ที่ทางท่านรองเก่ง ก็ตั้งใจอยากให้โครงการนี้ช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้น และสร้างการท่องเที่ยวไทยให้แข็งแกร่ง เพื่อช่วยให้ผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวไทยสามารถ ‘ปรับตัว’ และ ‘ขับเคลื่อน’ อุตสาหกรรมไปสู่อนาคตได้อย่างแท้จริง
🎯 TME6 มาในธีม ‘Path to Greatness: Signature Destinations, Unforgettable Experiences’
ก้าวเข้าสู่ครั้งที่ 6 แล้วสำหรับหลักสูตร TME 6 โดยเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่ง TME 6 ไม่ใช่แค่หลักสูตรอบรมทั่วไป แต่เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการและผู้นำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ‘ปรับตัว’ และ ‘ขับเคลื่อนธุรกิจ’ ได้จริง ผ่านความเข้าใจโลกด้วย 3 แกนสำคัญ
🔹 1. การเข้าใจ Mega Trends และทิศทางของอุตสาหกรรม เราให้ผู้เรียนเข้าใจว่าพฤติกรรมนักท่องเที่ยวกำลังเปลี่ยนไปอย่างไร และประเทศไทยต้องปรับตัวอย่างไรเพื่อแข่งขันในระดับโลก
🔹 2. การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ (Signature Destinations) และการออกแบบประสบการณ์ที่น่าจดจำ (Unforgettable Experiences) เราเน้นให้ธุรกิจสร้างจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดและมีเรื่องราว รวมถึงใช้ Soft Power เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับการท่องเที่ยว
🔹 3. การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้กับธุรกิจ (Smart Tourism & Digital Transformation) ทั้ง AI, Big Data, และ Digital Payments จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับธุรกิจการท่องเที่ยวในยุค Hyper-Personalization นี้
🎯 TME6 ปีนี้! นำทัพ “ตัวจริงในอุตสาหกรรม” มาแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ผ่านผู้ที่มีประสบการณ์ และลงมือทำจริง!
TME6 คัดเลือกวิทยากรจากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงจริง เช่น
👉 คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ - ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
👉 คุณศิเวก สัจเดว - Founder & Managing Director, ServiceMind Asia
👉 คุณวรรณสิงห์ ประเสิรฐกุล - ผู้สนับสนุนที่มีชื่อเสียงของ UNHCR
👉 คุณไผ สมศักดิ์ บุญคำ - ผู้ก่อตั้ง Local Alike
👉 คุณเกริกพงศ์ งาทวีสุข - กรรมการผู้จัดการ Ascend Travel
👉 คุณโอลิเวอร์ กิติพงษ์ วีระเตชะ - Group CMO, Dentsu Thailand
👉 McKinsey & Agoda - เจาะลึกกลยุทธ์การท่องเที่ยวระดับโลก
👉 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มุ่งสร้าง Impact เชิงบวกให้สังคม CEO จาก Fastwork
👉 นักสร้าง Soft Power เช่น เชฟไอซ์ ศรณ์ & The Ground Control - ใช้ Gastronomy และศิลปะสร้างมูลค่าการท่องเที่ยว
👉 ตลอดจนตัวแทนผู้บริหารที่มากันครบทุกองค์ประกอบในห่วงโซ่คุณค่าการท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจการโรงแรม, สายการบิน, สถานพยาบาล, การขนส่งและคมนาคม, Digital Payment และธุรกิจชุมชน
ซึ่งทุกคนล้วนเป็น ‘ตัวจริง’ ในอุตสาหกรรม
ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนได้รับมุมมองใหม่ ๆ ที่นำไปใช้ได้จริงครับ"
แม้จะไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็เรียนได้แน่นอน! เพราะการเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่มีไอเดียดีหรือเงินทุนเยอะ แต่ต้องเริ่มต้นจาก ‘Mindset’ ที่ถูกต้องก่อน
หลักสูตรนี้ออกแบบให้เหมาะกับทั้งผู้ที่มีประสบการณ์และผู้ที่กำลังเริ่มต้น เราใช้การเรียนรู้แบบ Case Study และ Workshop ซึ่งช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าใจและนำไปปรับใช้ได้จริง ได้เห็นทั้งภาพกว้างและลงลึกในแต่ละมุมมองหรือแนวโน้มที่สำคัญ
ถ้าคุณเป็นผู้บริหารที่มาจากอุตสาหกรรมอื่น แต่ต้องการเข้าใจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากขึ้น TME 6 จะช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมได้เร็วขึ้น และถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการที่มีธุรกิจท่องเที่ยวอยู่แล้ว หลักสูตรนี้จะช่วยให้คุณต่อยอดไอเดียและพัฒนาแผนธุรกิจให้ตอบโจทย์อนาคตได้ดียิ่งขึ้น
💡ผมเชื่อว่าการจะเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่มีไอเดียดีหรือเงินทุนเยอะ แต่ต้องเริ่มต้นจาก ‘Mindset’ ที่ถูกต้องก่อน
ท้ายที่สุดจากประสบการณ์ที่ได้คุยกับผู้นำ ผู้จัดการโรงแรมมาหลาย ๆ แห่ง ท่านรองเก่งได้ตกผลึก โดยแชร์ประสบการณ์ถึงเรื่องของ “ผู้นำ” ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพราะหลายครั้งจะเห็นว่าไม่ได้ง่ายเลยที่ผู้นำจะ Maintain Business ที่เขาดูแลอยู่ หรือแม้กระทั่งตำแหน่งบริหารระดับสูงอย่าง GM ซึ่งบางโรงแรมก็พยายามสร้างสิ่งใหม่ แต่กลับยังไม่ถูกใจผู้บริหาร พอไม่ตรงตามเป้า เขาก็อยู่ไม่รอด
ดังนั้นการอยู่รอดใน “ตำแหน่งชี้เป็นชี้ตายกับธุรกิจสำคัญมาก” ซึ่งการจะอยู่รอดและไปต่อได้จริงจากองค์ความรู้ที่ได้แลกเปลี่ยนกับตัวจริงในธุรกิจนี้ มีอยู่ด้วยกัน 3 Mindset สำคัญ!
🔸 1. ผู้นำที่ปรับตัวเอง มีการประเมินความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา
เพราะโลกแห่งความยุ่งเหยิงวุ่นวาย ไหนจะเศรษฐกิจ ไหนจะการมาของเทคโนโลยีที่รวดเร็วนี้ หากคุณเป็นผู้นำที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารเลย รวมถึงไม่มีวิธีการจัดการบริหารความเสี่ยง ก็อาจจะเป็นผู้นำที่ล้มเหลว เพราะวิกฤติต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้นำจึงต้องมีวิสัยทัศน์ มีการอัปเดต ไม่ว่าจะมิติไหนก็แล้วแต่ ให้มีความทันสมัยตลอดเวลา ติดตามสถานการณ์โลก
เพราะผู้นำที่ไม่ได้ติดตามสถานการณ์โลกจะอยู่ไม่รอด โลกเราแคบลงทุกวัน อะไรที่เกิดขึ้นบนอีกซีกโลกนึง บอกไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เราคาดเดาไม่ได้หรอก วันนึงอาจจะมาถึงในวันที่เราไม่ตั้งตัว ดังนั้นผู้นำในยุคนี้ ต้องมีความคล่องตัว มีความยืดหยุ่นเพียงพอ และมีแนวคิดในเชิงการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว มีการบริหารความเสี่ยงให้องค์กรอยู่รอด
🔸 2. ผู้นำที่จะพาองค์กรเติบโตได้จริง ต้องมีเป้าหมายชัดเจน
เพราะผู้นำกลุ่มนี้จะนำองค์กรไปสู่จุดมุ่งหมาย มีแนวทางที่มั่นคง ชัดเจน และก็ต้องเห็นคุณค่าของเพื่อนร่วมงาน กว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤต กว่าเราจะเดินมาสู่จุดหมายได้ จะต้องใช้วิธีการหลาย ๆ อย่าง ดังนั้นมันหมดสมัยองค์กรที่มีแต่ One man Show หรือการเก่งคนเดียว แต่ในความเป็นจริงคือ Team Work เป็น Super Team มากกว่า Super Hero ซึ่งนี่คือผู้นำยุคใหม่ที่จะปรับเปลี่ยนและอยู่รอดได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน
ท่านรองเก่ง ได้ให้แง่คิดสำคัญปิดท้ายไว้ว่า ใครที่อยู่ใน ‘ตำแหน่งที่เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายกับธุรกิจ’ เราจะเก่งอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องรู้รอบด้าน เพราะทุกวันนี้ถ้าคุณยังไม่มีช่องทางในการรับสารที่มีความรวดเร็ว เมื่อรับสารแล้วกรองแล้ว สังเคราะห์แล้ว เห็นผลกระทบแล้ว เราถึงจะปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ถ้าผู้นำไม่มีทักษะพวกนี้ไม่รอดแน่ ๆ
🔸 3. ผู้นำที่มีหัวคิดรุ่นใหม่ จะมีความสำคัญอย่างมากต่อจากนี้!
ท่านรองเก่ง ยังเสริมต่ออีกว่า ในเกมยาวของการทำธุรกิจนั้น คนรุ่นใหม่จะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการเข้ามาพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องนี้ผู้นำจะมีส่วนสำคัญอย่างมาก นั่นคือเรื่องของการสร้างเรื่องราว (Storytelling) เพื่อสร้างความหมายของคำว่า Uniqueness ในแต่ละเมืองของประเทศไทย เพราะถ้าพูดถึงเมืองนี้ จังหวัดนี้ เรามีความโดดเด่นอะไร เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัส เสมือนกับเวลาเราไปญี่ปุ่น เราก็จะได้เจอเรื่องเล่ามากมาย แทบจะทุกเมืองด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เป็นเหมือนคำเชิญชวน และจุดเด่นสำคัญให้กับแต่ละพื้นที่
ตัวอย่างเช่น ถ้าหากวันนี้จังหวัดคุณมี ‘ทุเรียนพันธุ์พิเศษอยู่’ ก็ควรจะบอกได้ว่าทุเรียนพันธ์ุนี้จะไม่มีทางให้ออกจากนอกอาณาเขตนี้เด็ดขาด ห้ามมีการส่งทุเรียน หรือลักลอบไปปลูกที่อื่นเด็ดขาด ถ้าอยากกินต้องมาที่นี่เท่านั้น ซึ่งนี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างเท่านั้น
Storytelling จะเป็นสิ่งที่ทำให้คนตัดสินใจไป
ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ประเทศไทยยังขาดอยู่! แต่นี่คือโอกาสสำคัญ
เรื่องของการท่องเที่ยวใกล้ตัวกว่าที่ทุกคนคิด ท่านรองเก่ง ได้พูดปิดท้ายไว้ว่า อนาคตอันใกล้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวอาจจะต้องคิดถึงเรื่องอื่น คือต้องมี ‘New source of money’ หรือแหล่งรายได้จากการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้มากขึ้น หรือมีสิ่งปลูกสร้างระดับโลกเข้ามาในเมืองไทย เช่น Amusement Park, Theme Park, Concert Hall ระดับโลก, Events ระดับโลก และการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก สิ่งเหล่านี้แหละที่ในประเทศเรามีน้อยเกินไป
ตราบใดเรายังขายเหมือนเดิม มันจะขายได้ตลอดไปขนาดไหน
ต้องกล้าเปลี่ยน และเปลี่ยนวิธีการมองให้คนมาเที่ยวเมืองไทย
เราเชื่อว่าหลักสูตรนี้ คุณจะได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ และเครื่องมือในการสร้างกลยุทธ์ธุรกิจที่ทันสมัย แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ผู้เรียนจะได้เครือข่ายที่แข็งแกร่ง และมีแนวทางที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนธุรกิจของตัวเอง หลังจบหลักสูตร เพราะเราเชื่อว่า เจ้าของธุรกิจในไทยมีศักยภาพมากพอในการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อสร้างพื้นที่ใหม่ ๆ เป็น World Class Destination ที่ไม่ได้กระจุกการท่องเที่ยวที่ใดที่หนึ่ง
ดังนั้นการเรียนรู้ในครั้งนี้ คุณจะไม่ได้แค่เพียงแต่ความรู้ แต่จะมีแผนธุรกิจที่พร้อมนำไปใช้จริง และมีทีมที่ปรึกษาที่สามารถช่วยให้คุณต่อยอดไอเดียของตัวเองต่อไปได้
🔗 ขอรับรายละเอียดเพิ่มเติม 👉 https://bit.ly/3DVeTk7
📲 สมัครได้แล้ววันนี้ 👉 https://bit.ly/3XWoXAr
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
📧 ศูนย์พัฒนาวิชาการด้านตลาดการท่องเที่ยว
📞 02-250-5500 ต่อ 4917, 4920-4
📲 LINE Official: @tattme