คุณผู้อ่านหลายท่าน เคยเห็นบุตรหลานเล่นเกมที่มีหน้าตาเหลี่ยม ๆ นี้บ้างไหม ยิ่งในยุคที่เกมมากมายต่างมีภาพที่สวยกันแล้ว เราคงจะสงสัยล่ะสิว่าไอ้เจ้าเกมเหลี่ยม ๆ นี่สนุกยังไง แล้วมันมีอะไรถึงทำให้ลูกหลานเราติดงอมแงมขนาดนั้นกันนะ
เจ้าเกมเหลี่ยมนี้ชื่อว่า Roblox ถูกสร้างโดย เดวิด บาสซุกกี (David Baszucki) กับ เอริค แคสเซล (Erik Cassel) ซึ่งจุดเด่นของเกมนี้อยู่ที่ความเป็นบล็อกและกลไกฟิสิกส์ที่ทำให้เด็กหลายคนติดงอนแงม จนมียอดผู้เล่นเพิ่มมากขึ้นพอ ๆ กับเกมแนวบล็อกที่เป็นรุ่นพี่อย่าง Minecraft เลยล่ะ แต่ที่มากกว่านั้น Roblox ไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นแค่เกม เพราะพวกเขาเรียกตนเองว่า ‘แพลตฟอร์ม’ ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ที่เสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้เล่นทั่วโลก
คำว่า Roblox มาจาก Robot + Blocks ซึ่งหมายถึงกลไกที่มีบล็อกผสมอยู่ โดยปัจจุบันแพลตฟอร์มมีผู้ใช้งานมากกว่า 43 ล้านคนต่อวัน และผู้ใช้งานมากกว่า 202 ล้านคนต่อเดือน เป็นจำนวนผู้ใช้ที่มากกว่าโซเชียลมีเดียบางแพลตฟอร์มซะอีก
ซึ่งหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Roblox ประสบความสำเร็จคือกลยุทธ์ที่ยึดแนวคิดด้วยการ ‘ให้อำนาจแก่ผู้ใช้งานเพื่อก่อร่าง และแบ่งปันประสบการณ์ที่ดื่มด่ำในการสร้างโลก’ แนวคิดนี้ทำให้ Roblox ไม่เพียงแค่สร้างคอมมูนิตี้เพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ผู้เล่นได้แชร์ความครีเอทีฟของตนจนแพลตฟอร์มเติบโตมากขึ้น
ดังนั้นแล้ววันนี้เราจะพามาเจาะลึกวิธีคิดทั้ง 4 บล็อก ที่ทำให้ Roblox เติบโตจนเป็นที่ถูกอกถูกใจของเด็กทั่วโลกกัน
🟧 บล็อกที่ 1 ใช้ความครีเอทีฟสร้างสังคม 🟧
ถ้าจะบอกว่ายุคของ Metaverse นั้นเกิดขึ้นไปแล้วใน Roblox ก็คงไม่ผิดนัก เพราะหัวใจสำคัญในกลยุทธ์ของ Roblox คือความเชื่อมั่นในพลังของคอมมูนิตี้ นั่นเพราะว่าแพลตฟอร์มนี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้จัดกิจกรรม รวมทัังสร้างสังคมขนาดย่อม ๆ ที่เชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกันได้
เราจะเห็นเลยว่าแพลตฟอร์มพยายามสร้างสังคมออนไลน์ด้วยการให้ผู้เล่นสร้าง Mini Game (เกมขนาดย่อม ๆ ที่สามารถเล่นได้ในแพลตฟอร์ม) ซึ่งสิ่งนี้ทำให้แพลตฟอร์มไม่มีวันเก่า เพราะผู้เล่นหน้าใหม่ก็วิ่งกลับมาหา Mini Game เก่า ๆ รวมถึงผู้เล่นหน้าเก่าก็วิ่งเข้าหา Mini Game ใหม่ ๆ อยู่ตลอด นั่นทำให้ Roblox จึงมีผู้เข้าใช้งานบนแพลตฟอร์มอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากในโลกออนไลน์แล้ว Roblox ยังจัดงาน Roblox Developers Conference และ BloxCon ซึ่งเป็นงานคอนเฟอเรนซ์ในแบบออฟไลน์ โดยทีมงานจะเชิญเหล่านักพัฒนาของ Roblox มาเป็นสปีคเกอร์พูดคุยอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเป็นงานที่ทำให้คนในโลกออนไลน์ได้พบปะกันจริง ๆ
🟧 บล็อกที่ 2 เชื่อมต่อสังคม ด้วยการดึดดูดกลุ่มคนหน้าใหม่ 🟧
Roblox พยายามอย่างมากในการดึงดูดผู้เล่นใหม่ เพื่อให้ตนได้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด ในช่วงหนึ่งพวกเขาพยายามทำการตลาดด้วยการโฆษณาให้แคสเตอร์หลายคนหันมาเล่นเกมนี้ แต่ด้วยความสนุก และความโด่งดังของเกม สุดท้ายพวกเขาก็แทบไม่ต้องโฆษณา เพราะสุดท้ายเหล่าแคสเตอร์ก็หันมาเล่นเองกันเต็มไปหมด
นอกจากนั้น Roblox ยังร่วมมือกับบริษัทหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Netflix และ Warner Bros. ในการ Collab ให้แพลตฟอร์มเข้าถึงกลุ่มผู้เล่นใหม่ ๆ นอกเหนือจากนั้นพวกเขายังพยายามสร้าง Experience ที่เป็นไวรัลให้คนภายนอกรู้จักอยู่เสมอ ซึ่งในครั้งหนึ่ง Roblox ยังเคยจัดงานคอนเสิร์ตแบบ Metaverse ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งแสดงโดย ลิลนาสเอ็กซ์ (Lil Nas X) และคอนเสิร์ตครั้งนั้นถูกเปรียบเปรยว่ามีขนาดใหญ่เท่ากับโรลลิงสโตนของแรปเปอร์ชาวอเมริกันอย่างแทรวิส สก็อตต์ (Travis Scott) เลยทีเดียว
🟧 บล็อกที่ 3 เปลี่ยนผู้เล่นเป็นนักพัฒนา 🟧
‘อยากสร้างแพลตฟอร์ม ก็ต้องสร้างสังคมซะก่อน’
หากจะบอกว่าชุมชนนักพัฒนาของ Roblox นั้น ทำให้แพลตฟอร์มประสบความสำเร็จก็คงไม่ผิดนัก เพราะผู้สร้างเกมให้สิทธิ์ผู้เล่นในการเข้าถึงเครื่องมือ และทรัพยากรที่จำเป็นต่อการต่อยอดเกมไปสู่เกมอื่น ๆ ได้ นั่นทำให้แฟนเกม Roblox เปลี่ยนตัวเองจากผู้เล่นมาสู่การเป็นนักพัฒนามากมาย
ไม่เพียงแค่นั้นเอ็นจิ้นเกมของ Roblox นั้นก็ใช้งานง่าย และเป็นมิตรต่อนักพัฒนา ผู้เล่นหลายคนจึงสร้าง Mini Game ของตนขึ้นมา จนกลายเป็นคอมมูนิตี้ขนาดย่อม ๆ ที่สำคัญ Roblox ยังจ่ายเงินให้ผู้เล่นที่กลายเป็นนักพัฒนาเกม ซึ่งจูงใจให้กลุ่มคนเหล่านี้พยายามสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ
การที่ Roblox จ่ายเงินให้กับนักพัฒนาของพวกเขา กระตุ้นให้นักพัฒนาสร้างประสบการณ์ และนวัตกรรมใหม่ โดยปัจจุบัน Roblox มีนักพัฒนามากกว่า 9.5 ล้านคนซึ่งพวกเขาล้วนทำเงินให้ Roblox ทั้งสิ้น
🟧 บล็อกที่ 4 อย่าลืมว่าทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง 🟧
ปัจจุบัน Roblox สร้างรายได้จากการที่ผู้เล่นซื้อของในเกม โดยให้ผู้เล่นซื้อเงินเสมือนที่เรียกว่า ‘โรบลั๊กซ์’ นอกจากนั้นเมื่อแพลตฟอร์มเห็นว่ามีผู้ใช้งานเยอะ พวกเขาเลยเปิดให้คนมาลงโฆษณาในนี้ซะเลย สิ่งเหล่านี้จึงสร้างรายได้ให้ Roblox มหาศาล นอกจากนั้นแพลตฟอร์มยังสำรวจโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ ๆ เช่น สินค้า และบริการเสมือนจริง ที่ผู้ใช้ Roblox สามารถซื้อสินค้าเสมือนจริง เพื่อใช้ในรูปประจำตัวของตนได้
ความสำเร็จเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ได้เลย ถ้าไม่เกิดการระบาดของโควิด-19 เพราะการระบาดของโรคกับ Social Distancing เป็นหนึ่งในตัวเร่งปฏิกิริยา ให้คนเข้ามาใช้ Roblox มากขึ้น เนื่องจากผู้คนโหยหาสังคม อยากเข้าถึง Metaverse มากขึ้น โดยมีการประมาณว่า Roblox ทำรายได้มากกว่า 250 ล้านดอลลาร์ในแต่ละปีเลยล่ะ
กลยุทธ์ที่สร้างสรรค์ของ Roblox เป็นบล็อกก้อนสำคัญที่ทำให้แพลตฟอร์มมีการเติบโต ซึ่งความครีเอทีฟ และการไม่ปิดกั้นนี้ก็ได้ทำให้ Roblox กลายเป็นระบบนิเวศที่ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างจินตนาการอันไร้ขอบเขต ไม่เพียงเท่านั้นแพลตฟอร์มยังปูทางไปสู่โลกที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งสร้างคอมมูนิตี้อันเหนียวแน่นทั้งในโลกแห่งความจริง และบน Metavesre นั้นจะทำให้ธุรกิจของพวกเขามีความยั่งยืนมากขึ้น
แปล เรียบเรียง: พีรพล สดทรัพย์
ที่มา
- The CEO of Roblox on Scaling Community-Sourced Innovation
- Roblox Creator Hub
- 2 Reasons Investors Should Not Give Up on Roblox Stock Yet
- Values in Action – Respect the Community: The Roblox Game Jam
- Roblox Business Model
- Roblox