เจาะเบื้องหลังไอเดียคนครีเอทีฟ ที่โดนจุดลูกค้า โดยทีม Deep Blue Station

อย่ามัวแต่ ‘อินกับไอเดีย’ จนลืม ‘อินกับอินไซต์ลูกค้า’ เพราะไอเดียที่ดี เริ่มต้นจากการมีอินไซต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค เบื้องหลังที่น่าสนใจจากโปรเจกต์ Deep Blue Station ที่ไม่ได้แค่ว้าว แต่เวิร์กกับลูกค้าและผู้บริโภค

Last updated on ก.พ. 17, 2025

Posted on ก.พ. 17, 2025

จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์นี้เกิดจาก ‘ลูกค้าซื้อ!’

ถ้าคุณเป็นลูกค้า แล้วมีคนมาขายงานบอกว่า “เปิดห้องให้งีบหลับ 60 นาที” เป็นคุณจะซื้อไหม ?

คนทำงานสร้างสรรค์, นักออกแบบยุคนี้ไม่ง่าย! แต่ก็ไม่ได้ยากถ้าเข้าใจอินไซต์ และใส่ใจรายละเอียดมากพอ

Creative หลายคน รวมไปถึงคนที่ต้องขายงานลูกค้าอยู่ทุกวัน มักจะพบเจออุปสรรคทั้งการที่ลูกค้าไม่ซื้องาน หรือสิ่งที่เราขายไม่ดึงดูดมากพอ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทาง CREATIVE TALK ตั้งใจมาเจาะลึกถึงเบื้องหลังครีเอทีฟของโปรเจกต์ Deep Blue Station Presented by AminoNite ที่งาน Bangkok Design Week 2025 โดย คุณเฟียต ธนพงศ์ พานิชชอบ Co-Founder จาก YIMSAMER และ คุณฟาง จิตติสุดา กฤษณโสภา Brand marketing จาก Ajinomoto


ต้องไม่ลืม Know - how หรือความถนัด, ความเชี่ยวชาญ คือสิ่งที่ลูกค้ามองหา

ตอนคุณเฟียต (YIMSAMER) ได้รับโจทย์จากลูกค้าอย่าง AminoNite หรือแบรนด์ลูกจาก Ajinomoto ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งได้หยิบยกประเด็นเรื่องของ Wellness ท่ามกลางกระแสสุขภาพที่กำลังเติบโตทั่วโลก การนอนหลับที่มีคุณภาพได้กลายเป็นส่วนสำคัญของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อนำมารวมกับความถนัด และความเชี่ยวชาญของตัวเอง จนนำมาสู่คำใหม่อย่าง “Wellness Entertainment” เพราะทุกวันนี้เราจะเห็นคนไปเล่นโยคะกันมากขึ้น ไหนจะทำสมาธิ, Sound Bath (เสียงบำบัด) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ออฟไลน์ ที่มีความนิ่งสงบ

แต่ในมุมมองของ Wellness Entertainment ถ้าเราทำพื้นที่สงบอย่างเดียว มันก็จะขาดเรื่องของ Entertainment การตีโจทย์ครั้งนี้จึงเป็นความท้าทายในการนำแสง สี เสียง ที่เป็นองค์ความรู้ของคุณเฟียต (YIMSAMER) มาใช้ และเป็นความถนัดที่สุด เพื่อสร้างประสาทสัมผัสทั้ง 5 ให้กับคนที่จะเข้ามารับประสบการณ์ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่เปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้สัมผัสกับความผ่อนคลาย และการพักผ่อนแบบ Immersive ร่วมกัน ‘ด้วยการนอนเต็มอิ่ม 60 นาที’

เหตุผลที่ต้องเป็น 60 นาที เพื่อทำให้ทุกคนได้เรียนรู้เรื่องของ ‘การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ และ การหลับลึก’ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่การฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ดังนั้นด้วยความที่เป็น Events ที่มีข้อจำกัดของเวลา นี่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ใน 60 นาที ที่จะพาทุกคนไปลองทำ Power Nap เพื่อนำไปสู่การหลับลึกอย่างแท้จริง


อย่ามัวแต่ ‘อินกับไอเดีย’ จนลืม ‘อินกับอินไซต์ลูกค้า’ การตีโจทย์ให้แตกสำคัญ!

ไอเดียที่ดี เริ่มต้นจากการมีอินไซต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยมี Research ที่ระบุถึง โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) มีคนเป็นโรคนี้มากถึง 60-70% รวมไปถึงตลาดของอาหารเสริมก็โตขึ้นค่อนข้างเยอะ ถ้าเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็น Pain Point สำคัญ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

  1. กลุ่มที่โดนแรงกดดัน และความคาดหวังของคนยุคนี้ทำงานกันหนักขึ้น ทุกอย่างในชีวิตต้องสำเร็จ และต้องมี Achievement ประมาณว่า ‘ฉันต้องทำได้ ฉันต้องสำเร็จ’ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เหมือนจะดีนะ แต่กลับทำให้สุขภาพของคนเราอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ส่งผลไปถึงการพักผ่อนที่น้อยลง

  2. กลุ่มที่เรียกว่า The Passionate Cool Kid กลุ่มนี้คือคนทำงานที่มีความหลงใหลในแพชชันสูง เน้นการทำงานหนักโดยมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ไม่ชอบทำงานเล็ก ๆ ถวายตัวให้กับงานแบบเต็มที่ จนลืมหันกลับมาใส่ใจสุขภาพ แบบไม่นอนก็ได้ ขอแค่ทำให้เป้าหมายสำเร็จ

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอินไซต์ถึงสำคัญ! เมื่อไอเดียพร้อม อินไซต์เกิด รวมถึงโปรดักต์ที่ได้นำเทคโนโลยีของทาง Ajinomoto มาใช้ จึงครีเอตโปรดักต์ใหม่อย่าง AminoNite ที่เน้นไปที่ Deep Sleep เพราะถ้าคนเรามีการนอนหลับลึกที่เพียงพอ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ จะทำให้คุณมีพลัง และพร้อมใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ

มุมมองของการนอนหลับ ไม่ได้เพียงแค่หลับตาแล้วหัวลงหมอน แต่คุณต้องรู้จักตัวเองระหว่างนอนให้ดีว่า ‘คุณได้เข้าสู่ห้วงหลับลึกอย่างแท้จริง’ แล้วหรือยังนั่นเอง หากสังเกตจากเนื้อหานี้ดี ๆ มันไม่ใช่แค่การเปิดตัวสินค้าใหม่ แต่มันมีวิธีสื่อสารให้ตรงจุด ที่ไม่ใช่อินกับไอเดียให้ว้าวอย่างเดียว แต่การเข้าใจ และอินไปให้ถึงระดับ Deep Insight ก็สำคัญไม่แพ้กัน


จังหวะและเวลาที่เหมาะสม สำคัญไม่แพ้ไอเดียที่มีคุณภาพ

ไอเดีย Immersive Sleeping Experience ไม่ได้เกิดจากแค่ลูกค้าเข้าเท่านั้น แต่ยังมีการคิดต่อยอดไปถึงจังหวะ และเวลาที่เหมาะสมในการทำ นั่นคือจัดในช่วง ‘Bangkok Design Week 2025’ เพราะนี่คือกลุ่มเป้าหมาย The Passionate Cool Kid รวมไปถึงตั้งแต่ Bangkok Design Week จัดมาในปี 2018 จนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยมีเรื่องของ Immersive Sleeping Experience เกิดขึ้นเลย เป็นงานใหญ่ที่มีจุดเดินชมมากมาย แต่ไม่มีจุดพักผ่อนอย่างแท้จริง คุณเฟียต (YIMSAMER) เลยจับจุดที่ว่า คนเดินเหนื่อย ๆ ในงานทั้งวัน ก็สามารถแวะมาพักหลับได้


ถ้ามันไม่ยาก มันก็ต้องใหญ่ ถ้ามันไม่ใหญ่ มันก็ต้องเยอะ

ในมุมของลูกค้าก็น่าสนใจไม่แพ้กัน คุณฟาง (Ajinomoto) ในฐานะลูกค้าได้ยินไอเดียนี้แว้บแรก ก็ตอบรับด้วยสีหน้าและคำพูดอย่างมั่นใจว่า ‘ซื้อทันที!’ เพราะไอเดียนี้มีความสดใหม่ และมันทำงานได้จริง ที่สำคัญเลยคือมัน Hit to the Point! เพราะคนที่จะมาร่วมประสบการณ์ เขาได้รับประสบการณ์เต็ม ๆ ทั้งแสง, สี, เสียง, กลิ่น และรสชาติ รวมถึงได้ทดลองโปรดักต์ใหม่ด้วยเช่นกัน ลูกค้าไม่ได้มองแค่โปรดักต์​ 1 ชิ้นแล้วขายไป แต่ลูกค้าต้องการให้คนได้ประสบการณ์ร่วมด้วย

ดังนั้นประสบการณ์จะดีได้ ต้องมีองค์ประกอบที่ดี ภายในงานคนที่เข้าร่วมประสบการณ์นี้จะได้รับสิ่งที่เรียกว่า

👉 ‘GOODS NITE KIT’ ซึ่งจะมีทั้ง กระเป๋า, ผ้าปิดตา, ผ้าห่ม, ชุดทดลอง AminoNite TESTER PACK ซึ่งสิ่งนี้เอากลับบ้านได้ด้วย เพราะการนอนหลับที่มีคุณภาพ ก็ต้องมาพร้อมอุปกรณ์ที่เหมาะสม

👉 เบื้องหลังคนทำงานสำคัญมาก อีเวนต์นี้มีการร่วมมือกันระหว่าง AminoNite, KeySquare, Yimsamer, Virtual Media Lab และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) รวมไปถึงข้างในโปรเจกต์นี้ยังใส่ใจไปถึง นักออกแบบกลิ่น (Sense designer), Copywriter, นักพากย์เสียง (Voice Actor) และยังมีอีกหลายภาคส่วนมาก ๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง

👉 ภายใน Immersive Sleeping Experience เราจะได้รับรู้ถึงกลิ่น ซึ่งเป็นกลิ่นที่ออกแบบมาเพื่องานนี้ผ่านตัว Room spray ที่มีความเป็นลาเวนเดอร์อ่อน ๆ มีความไม้อ่อน ๆ เสมือนธีมงานที่เป็นรถไฟ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์สูงสุด เสมือนทุกคนกำลังนั่งรถไฟแห่งการนอน

👉 คุณเฟียต (YIMSAMER) ได้เล่ามุมปรัชญาของตัวเองว่า ‘ถ้ามันไม่ยาก มันก็ต้องใหญ่ ถ้ามันไม่ใหญ่ มันก็ต้องเยอะ’ วิธีคิดของคนที่ไม่ทำอะไรง่าย ๆ นำมาสู่ประสบการณ์นอนอย่าง ‘Bean Bag ขนาดใหญ่เกือบ 2 เมตร’ ซึ่งเมื่อทุกคนได้เข้ามารับประสบการณ์จะทำให้รู้สึกถึงความยาก - ใหญ่ - เยอะ รวมถึงการ Customize สีให้เข้ากับธีม และที่สำคัญที่สุดการใช้ Bean Bag ให้ความ Comfort กันเองกว่า มากกว่าเตียงนอนใน 60 นาทีเสมือนเรานอนลงไปแล้วโดนโอบอุ้มจาก Bean Bag เพราะด้วยขนาดที่ใหญ่เลยทำให้เราเอ็นจอยกับประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่

👉 งานจบ แต่ประสบการณ์ยังไม่จบ บน Ticket จะมีให้ Scan QR Code ซึ่งมี Playlist เพลงที่เกิดขึ้นในงานนี้ เพื่อให้นำกลับไปใช้ต่อที่บ้านได้อีก ซึ่งโดยปกติเวลาเราไปงานอีเวนต์ ก็มักจะจบในงาน โดยไม่มีการเชื่อมต่อประสบการณ์ไปถึงบ้าน แต่ด้วยที่คุณเฟียต (YIMSAMER) เป็นนักออกแบบประสบการณ์ Journey ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า extension หรือการหนีบอะไรกลับไปได้อีก พื้นที่งานช่วยให้เขาเข้าใจและเกิดความประทับใจ แต่ตอนกลับบ้านเขาต้องได้รับประสบการณ์ที่ดีไม่แพ้กัน ซึ่งนั่นก็คือเพลงใน Playlist นั่นเอง รวมไปถึงยังเป็นเครื่องเตือนใจทำให้เขานึกถึงอีเวนต์แห่งนี้เช่นกัน


ถ้าเปรียบดั่งเรื่องราวนี้คือนิทาน ก็คงมีบทสรุปแบบที่เราคุ้นหูกันว่า ‘นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า….’

คงไม่มีอะไรจะสอนเราได้ดีเท่าวันนี้ ลองกลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง ‘ในฐานะคนทำงานคนหนึ่ง’

  • วันนี้คุณได้ให้คุณค่ากับงานที่ทำ มากพอแล้วหรือยัง ?
  • วันนี้คุณได้ทุ่มเทและใส่ใจในรายละเอียดกับงาน มากพอแล้วหรือยัง ?
  • วันนี้คุณกล้าที่จะคิดต่าง และกล้าเสี่ยงทำสิ่งใหม่ บ้างแล้วหรือยัง ?

คำว่า ‘เมื่อไหร่….ลูกค้าจะเข้า หรือ เมื่อไหร่….ลูกค้าจะหันมาสนใจเรา มันอาจไม่จำเป็นต้องคิดเลยถ้าคุณแตกต่างมากพอและสม่ำเสมอในการสร้างสรรค์ผลงาน รวมไปถึงคุณสามารถทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์ เชื่อมั่นในตัวคุณได้แล้วหรือยัง ในวันนี้ลูกค้า หรือแบรนด์มีทางเลือกมากมายในการสร้างสรรค์แคมเปญใหม่ ๆ

คุณฟาง (Ajinomoto) ในฐานะลูกค้า บอกเสมอว่าการที่เขาจะเลือกใครมาทำงานด้วยมันเกิดจากองค์ประกอบเหล่านี้

  • แบรนด์เห็นถึงมุมที่แตกต่าง ตีโจทย์ได้แตก
  • ทำให้แบรนด์มีความแตกต่างกว่า competitor เจ้าอื่น ๆ
  • สามารถหยิบจับออกมาจากจินตนาการ ไม่ใช่เพ้อฝัน แต่ต่อยอดสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้
  • คิด Journey ในการนำเสนอต่อผู้บริโภคของแบรนด์ออกมาได้ครบถ้วน มีรายละเอียดที่ชัด ไม่ใช่มาวันเดียวแล้วจบ แต่ยังอยากให้นึกถึงแบรนด์ต่อไปได้เรื่อย ๆ

คุณเฟียต (YIMSAMER) ได้ทิ้งท้ายไว้ให้ทุกคนชวนคิดว่า “วันนี้ผมโชคดี โชคดีที่แบรนด์ให้โอกาส โชคดีที่ได้สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร โชคดีที่มองหา Alternative นำพาศิลปะและดีไซน์ไปสู่พื้นที่ใหม่ ๆ ได้ และผมโชคดีที่ผมกล้าเริ่มบูรณาการสิ่งที่ทำอยู่ ไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ มากขึ้น และเฟียตเชื่อว่าเราจะเป็น Pioneer หรือผู้บุกเบิกโดยใช้ความสามารถและจุดแข็งของเราไปได้ไม่รู้จบ”


คำว่าโชคดีของคุณเฟียต ไม่ได้มาจากการอยู่เฉย ๆ แล้วโชคดี แต่ที่เขาโชคดี เพราะเขาทำมันอย่างสม่ำเสมอ และเชื่อว่าสักวันจะมีคนเห็นคุณค่าของงานที่ทำ!


สัมภาษณ์ เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ

trending trending sports recipe

Share on

Tags