ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเกิดความสับสนวุ่นวายจากสถานการณ์ฉุกเฉินบ่อยครั้ง นอกจากองค์กรจะต้องปรับตัวให้ทันกับข่าวและมาตรการต่างๆ ตามกฎหมายแล้ว
องค์กรยังต้องรีบสื่อสารให้คนภายในองค์กรได้รับทราบข้อมูลให้ไว ถูกต้อง และทั่วถึงให้มากที่สุด ความกะทันหันของข้อมูลที่รับมาและต้องกระจายออกไป สอนให้หลายองค์กรปรับตัวและเห็นความสำคัญของการสื่อสารภายในองค์กรมากขึ้น
เราได้เห็นข้อความในทำนองที่ว่า “การสื่อสารภายในองค์กรสำหรับยุคนี้เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าเดิม” หรือ “ผู้นำต้องสื่อสารกับลูกน้องมากกว่าแต่ก่อน” เราต่างก็รู้ดีและเห็นด้วยกับข้อความเหล่านี้ แต่หลายคนคงก็ยังสงสัยว่า “ก็ถูก แต่จะทำยังไงล่ะ อะไรคือการสื่อสารที่ควรจะเป็น” ฉะนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า เราสามารถสื่อสารอย่างไรให้มากกว่าเดิมและมีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
ต้องมีความโปร่งใสมากขึ้น
สิ่งแรกที่ต้องย้ำเตือนในใจคือ ยุทธการแบบเหวี่ยงแหเป็นการสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพ การสื่อสารต้องตรงและเจาะจงวัตถุประสงค์ ที่สำคัญ จุดประสงค์นั้นต้องมี “ความโปร่งใส” โดยถูกนำมาใช้ในการสื่อสารตลอดช่วงเวลาโรคระบาด และหลังจากนั้นไปอีก เพราะชีวิตหลังจากนี้ อย่างไรก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิม โดยเฉพาะเรื่องของการเป็นผู้นำและการสื่อสาร
แล้วทีมงานต้องการความโปร่งใสเรื่องอะไรบ้าง ตอบได้เลยว่ามีหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่บอกว่าต้องทำงานที่ไหน ทำงานอย่างไร และทำงานอะไร ฯลฯ แม้ว่าบางเรื่องอาจจะยังไม่ตัดสินใจไม่ได้ อย่างน้อยหัวหน้าต้องบอกว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนไหน เช่น ตอนข่าวโอมิครอนแพร่ระบาดช่วงแรก เชื่อได้เลยว่าสิ่งแรกที่พนักงานกังวล คือ “แล้วฉันจะทำยังไงต่อ” บางคนเพิ่งจะกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเต็มตัว พวกเขาต้องกลับไปทำงานที่บ้านอีกไหม ดังนั้นคอยบอกพวกเขาเสมอว่าตอนนี้บริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจอะไรอยู่ จะทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้น
จากการศึกษาพบว่า 90% ของพนักงานต้องการการสื่อสารจากหัวหน้าในองค์กรอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง การสื่อสารภายในองค์กรสม่ำเสมอช่วยให้พนักงานมีกำลังใจในการทำงาน ทำให้ทุกคนเข้าใจถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กรร่วมกัน เพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะยังอยู่กับองค์กรด้วย
กุญแจสำคัญในการสื่อสารภายในองค์กร
การสื่อสารพร้อมกันอาจหมายถึงบังคับให้ทีมงานต้องเสียเวลาที่มีประสิทธิภาพไปกับการประชุมผ่าน Zoom และลงเอยด้วยคำบ่นจากบางคนว่า “แบบนี้ส่งเป็นอีเมลมาก็ได้” ถึงแม้ว่าการสื่อสารควรจะเป็นแบบไม่พร้อมกัน แต่ต้องเป็นแบบกำหนดเวลาที่แน่นอนรวมถึงสม่ำเสมอ ปัจจุบันนี้หลายๆ องค์กร มีสื่อโซเชียลมีเดียของตัวเอง ซึ่งควรเอามาใช้ในการสื่อสารภายในองค์กร โดยที่การสื่อสารจะต้องมีการวางแผน วางกลยุทธ์และปักหมุดว่าจะสื่อสารอะไรบ้าง
นอกจากจะต้องสื่อสารแยกกันแล้ว องค์กรยังต้องสื่อสารผ่านหลายช่องทางด้วย เพราะพนักงานแต่ละคนอาจมีรูปแบบการสื่อสารที่ชอบไม่เหมือนกัน แต่ข่าวดีคือ การเปลี่ยนรูปแบบสื่อสมัยนี้เป็นเรื่องง่าย สื่ออย่างวิดีโอเพียงขิ้นเดียว สามารถตัดให้เป็นการสื่อสารรูปแบบเสียงได้ง่ายๆ จากนั้นก็แปลงเป็นรูปแบบตัวหนังสืออย่าง อีเมล หรือ บล็อกก็ย่อมได้
ทีมงานต้องการฟีดแบคมากกว่าเดิม
อย่าลืมจัดหาเวลาสำหรับการฟีดแบคด้วย การให้ฟีดแบคเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารขององค์กรโดยเฉพาะในปัจจุบัน โดยธรรมชาติแล้วเวลาทำงานอะไร ทีมงานจะต้องการฟีดแบคว่าสิ่งที่พวกเขาทำเป็นยังไงบ้าง และตรงกับความคาดหวังของบริษัทไหม หรือ พวกเขามาถูกทางหรือเปล่า การให้ฟีดแบ็กที่มีประสิทธิภาพ หมายถึงแรงขับเคลื่อนในการทำงานและความอยากอยู่ต่อของพนักงานด้วย
เช่นเดียวกับความโปร่งใส การให้ฟีดแบ็กนั้นต้องทำเป็นประจำและมีการลงตารางเวลาแน่ชัด ที่สำคัญอย่าให้น่าเบื่อเกินไป
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการสื่อสารภายในองค์กรเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เสียอีก ถึงแม้ว่าหลายๆ องค์กรจะเริ่มปรับตัวและทำให้การสื่อสารดีขึ้นมากกว่าในตอนเริ่มต้น แต่หลายองค์กรก็ยังหารูปแบบและวิธีการที่ลงตัวและเหมาะสมไม่ได้ ซึ่งนั่นส่งผลถึงความไว้วางใจของพนักงานต่อตัวองค์กรเอง ดังนั้นจึงหวังว่า แนวทางสำคัญ 3 อย่างที่เราเสนอในวันนี้จะช่วยให้องค์กรสื่อสารกันภายในอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจตรงกันมากขึ้น
ที่มาของข้อมูล – Leaders: This is exactly what ‘more communication’ should look like