สำหรับเหล่าขาช้อปทั้งหลายแล้ว การได้เลือกซื้อของขวัญให้คนที่ตัวเองรักนั้นถือเป็นความสุขที่สุดอย่างหนึ่ง แต่สำหรับเหล่านักการตลาดแล้ว สิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขที่สุดก็คือ ข้อมูลเชิงลึก (Insight) นั่นเอง
การจะให้ของขวัญที่เพอร์เฟคสำหรับใครสักคน นอกจากจะต้องอาศัยช่วงที่เวลาเหมาะสมแล้ว ยังต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องด้วย Facebook IQ จึงได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจากปี 2019-2020 ที่จะช่วยให้เหล่านักทำโฆษณาคิดแคมเปญเจ๋งๆ สำหรับช่วงเวลาสิ้นปี้แบบนี้ได้
ผู้คนวางแผนล่วงหน้าก่อนช่วงเทศกาลมากน้อยแค่ไหน
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่เปลี่ยนไป ผลสำรวจจาก “Holiday Insights Study by YouGov” ที่ทำในประเทศไทยช่วงวันที่ 9 – 29 ธันวาคม 2020 พบว่าคนไทยกว่า 73% มีการแพลนไว้ล่วงหน้าก่อนซื้อของขวัญ และส่วนใหญ่วางแผนที่จะซื้อของขวัญในช่วงวันที่ 21 – 31 ธันวาคม
ช่องทางในการซื้อของขวัญ
เมื่อพฤติกรรมการซื้อของโดยทั่วไปหันมาเป็นแบบออนไลน์กันมากขึ้น การซื้อของขวัญในช่วงปีใหม่ก็เช่นกัน ผลการสำรวจพบว่า คนกว่า 77% เลือกซื้อของออนไลน์ผ่านทั้ง โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ มีเพียง 23% เท่านั้นที่ยังเลือกซื้อที่ร้านอยู่ ไม่ว่าจะเลือกซื้อก่อนหรือซื้อในช่วงนาทีสุดท้าย คนก็ยังเลือกที่จะซื้อของผ่านมือถือ แท็บเล็ต หรือ คอมพิวเตอร์ มากกว่าไปที่ร้านอยู่ดี ส่วนเรื่องของสิ่งที่มีผลต่อการเลือกซื้อของผู้บริโภคนั้น เรื่องความรวดเร็วในการส่ง และ การส่งฟรี ยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคคำนึงถึงเป็นสิ่งแรกๆ และถึงแม้ช่องทางในการซื้อผ่านทางมือถือและแท็บเล็ตจะเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคต่างก็เทใจว่าเป็นช่องทางที่น่าหงุดหงิดที่สุด แต่ก็เป็นช่องทางที่ได้รับการบริการลูกค้าที่ดีที่สุด
พฤติกรรมผู้บริโภคโดยรวม
สิ่งที่น่าสนใจพอๆ กับช่วงเวลาและช่องทางในการซื้อของขวัญแล้ว สิ่งที่นักการตลาดควรจะรู้ก็คือ สิ่งที่ผู้บริโภคเลือกซื้อเป็นของขวัญ ซึ่งสิ่งที่คนส่วนใหญ่เลือกซื้อเพื่อเป็นของขวัญในช่วงปีใหม่แบบนี้ก็คือ สินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งนับเป็นเปอร์เซ็นต์สูงถึง 77% ในขณะที่อันดับรองลงมาคือ สินค้าจากร้านค้าปลีกทั่วไป ผลิตภัณฑ์การเงิน สินค้าเทคโนโลยี การท่องเที่ยว สินค้าเพื่อความบันเทิง และสินค้าเกี่ยวกับรถยนต์ตามลำดับ
เมื่อถามถึงสินค้าประเภทไหนที่ผู้บริโภคพร้อมและกล้าที่จะลองแบรนด์ใหม่ๆ บ้างนั้น อาหารและเครื่องดื่มมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยเสื้อผ้าซึ่งเปอร์เซ็นต์สูสีกันมากที่ 73% และ 72% ตามลำดับ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทที่มีการแข่งขันกันสูงอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าผู้บริโภคสมัยใหม่จะเริ่มเปิดใจให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้น แต่โดยภาพรวมแล้วสิ่งที่นักการตลาดต้องรู้เพื่อทำการตลาดในช่วงสิ้นปีแบบนี้คือ การศึกษาข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เพื่อเข้าใจสิ่งที่เป็น Pain Point ของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นการซื้อแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ เพื่อที่จะให้ผู้บริโภคได้ซื้อสิ่งที่ต้องการ และยามที่ต้องการได้แบบไม่สะดุดนั่นเอง
อ้างอิงข้อมูลจาก
