ทำไมเรามักด่วนตัดสินใจในการซื้อสินค้าจากจีนอยู่เสมอ ?
ปฎิเสธไม่ได้ว่า ความคุ้นชินของคนไทยมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน คือการมองสินค้าจีน หรือแบรนด์จากจีนอย่างไม่ได้มั่นใจนัก ว่าคุณภาพสินค้าจะดีพอหรือไม่ ทำไมแบรนด์จากจีนถึงมีราคาที่ถูกเกินทำให้ไม่มั่นใจในคุณภาพ หรือเกิดการเอ๊ะทุกครั้งจะจ่ายเงินซื้อสินค้าจากแบรนด์จีน
ประเด็นสำคัญนี้น่าสนใจที่ว่า แล้วเราจะทำอย่างไรให้คนไทยไม่รีบด่วนตัดสินใจ แต่จริง ๆ แล้วสินค้าจากจีนอีกหลายค่ายเริ่มให้ความสำคัญและบางแบรนด์ก็สามารถไปตีตลาดสู่ระดับโลกได้ หนึ่งในแบรนด์นั้นที่อยากนำเสนอให้ผู้อ่านได้รู้จักนั่นคือ Haier หรือที่หลาย ๆ บ้านน่าจะใช้แอร์จาก Haier กัน ซึ่งเป้าหมายสำคัญในปีนี้ของแบรนด์จากเมืองจีน จะมุ่งเน้นคุณภาพและก้าวไปสู่ Global Brand
ทำไมสินค้าแบรนด์จีนถึงมีราคาถูก! ถูกแล้วดีจริงหรือ ?
สำหรับเนื้อหาต่อจากนี้เป็นข้อมูลจากแบรนด์ Haier แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 16 ปีซ้อน โดย มร. ต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล่า Insight ที่น่าสนใจ ซึ่งคิดว่าน่าจะทำให้ทุกท่านที่ได้อ่านบทความ เห็นภาพมากขึ้นของวิธีคิดจากแบรนด์จีนที่มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และตั้งเป้าเป็นมากกว่าแบรนด์จากจีน แต่จะมุ่งสู่การเป็น Global Brand ในปีนี้!
ทำสินค้าในราคาที่เหมาะสมสำคัญไม่แพ้การมีคุณภาพที่ดี
ต้องบอกก่อนการจะบอกสินค้าจีนทุกชนิดมีราคาถูกและไม่มีคุณภาพ อาจจะไม่จริงเสมอไป แต่อยากให้ลองมาดูภาพของสินค้า Haier แม้ราคาของเราจะถูกกว่าในตลาด แต่ต้องว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่ Haier มีโรงงานมากถึง 6 โรงงาน ซึ่งมีหนึ่งในโรงงานที่ Qingdao ในจีน และอีก 5 โรงงานที่กระจายอยู่ในแต่ละภูมิภาคในทวีปเอเซีย รวมถึงมีพาร์ทเนอร์ที่อยู่ในเวียดนาม หรือ ปากีสถาน
ดังนั้น Point สำคัญคือ Haier สามารถเลือกที่จะตรวจสอบสินค้าและผ่านการอนุมัติจากแต่ละโรงงานจากพาร์ทเนอร์ด้วยกัน (shop pass) ก่อนนำมาประกอบเป็นชิ้นส่วนแยกแต่ละพื้นที่ (Assembly) เข้าด้วยกัน ดังนั้นการจะพัฒนาให้สินค้ามีคุณภาพไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แค่คุณภาพที่ดี ต้องจับต้องได้ด้วย เมื่อมันเกิดการแข่งขันราคาในตลาด การที่ Haier มีทางเลือกมากก็จะช่วยควบคุมต้นทุนได้ โดยไม่ได้หวังพึ่งโรงงานใดโรงงานหนึ่ง รวมถึงการนำเทคโนโลยีของทาง Haier เข้าไปเป็นแต้มต่อให้โปรดักส์มีคุณภาพมากขึ้น
การทำสินค้าให้มีราคาที่เหมาะสม จึงเป็นคำตอบของ Haier เพราะสินค้าบางชิ้นก็ไม่ได้ถูกทุกชิ้น แต่ต้องกลับมามองว่า ราคากับความต้องการที่ลูกค้าได้ มันต้องสมน้ำสมเนื้อ และสมกับความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริง
เราไม่ได้ขายสินค้าด้วยราคา แต่เราขายสินค้าด้วย Behavior ของคนไทย
จุดเริ่มต้นต้องกลับไปมองที่ ‘Behavior ของคนไทย’ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการคิดค้นโปรดักส์ แต่ก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าแบรนด์จีน หรือแบรนด์อื่น ๆ ก็ยังคงมีเรื่องของสงครามราคาเกิดขึ้นอยู่ แต่ในมุมมองของ Haier กลับมองต่าง เพราะเขารู้ว่าพฤติกรรมของคนที่ซื้อ Smart TV ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่แบรนด์ หรือราคาเพียงอย่างเดียว แต่คนส่วนใหญ่ใช้ Emotional ในการซื้อมากกว่า Fuctional
อย่างทีวีในยุคนี้ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทีวี…
แต่ Smart TV ต้องสามารถตอบโจทย์การตกแต่งห้องที่สวยงามได้ เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ใช่ส่วนเกินของชีวิต
จริตความชอบของภาพก็แตกต่างกัน รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานก็แตกต่าง ตัวอย่างเช่น ถ้าห้องลูกค้าค่อนข้างมืด จอ OLED จะตอบโจทย์สูงสุดเพราะความดำของภาพจะดำสนิท สีที่สะท้อนออกมาจากจอจะสมบูรณ์แบบ แต่กลับกันถ้าห้องลูกค้ามีความสว่าง มีแสงเข้ามาเล็กน้อย ก็สามารถเลือก MiniLED ได้ก็จะได้ภาพที่สวยกว่า ซึ่งมันแปลว่าสินค้าอาจจะดูคล้ายกัน แต่การตอบโจทย์การใช้สินค้าของลูกค้าแตกต่างกัน เรื่องพวกนี้คือความใส่ใจในการออกแบบที่ไม่ต้องรอใครบอก แต่เราต้องรู้จริงถึง Painpoint ของลูกค้าจริง ๆ
คุณภาพมีความสำคัญ อย่างหน้าจอของ Haier เองก็ใช้ของ BOE ซึ่งเป็นผู้ผลิตจอ LED ชั้นนำของโลก ซึ่งติด 1 ใน 3 ของโลก ดังนั้นการที่เราจะสามารถขยับไปเป็นแบรนด์ระดับโลกได้ คุณภาพจึงมีความสำคัญมากกว่าราคา แต่ต้องตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง ได้สินค้าไปต้องเต็มเม็ดเต็มหน่วย
การมีทีมงานที่เป็นคนไทย และคนจีนทำงานร่วมกันคือแต้มต่อสำคัญในการขยายตลาดไทย ตัวอย่างเช่น คนไทยเป็นชาติที่เอาใจยากนะ เพราะเรามีความต้องการที่หลากหลาย บางคนอยากได้ Smart TV ราคากลาง ๆ แต่คุณภาพสูง หรือบางคนอยากได้ Smart TV ระดับพรีเมียม แต่จอ 55 นิ้วไม่ไหว เพราะต้องอาศัยอยู่ในคอนโดขนาดเล็ก การเรียนรู้พฤติกรรมจากลูกค้า แล้วนำมาปรับตามไลฟ์สไตล์ของตลาดจึงเป็นคีย์สำคัญในการเติบโต
ซึ่งเป็นที่การันตีย์ว่า ยอดขายการเติบโตของ Haier ในปีที่แล้วสูงถึง 50% ในกลุ่มของ Smart TV ซึ่งเป็นตัว QLED และยังคงมี gap การเติบโตอีกมากในบ้านเรา
นอกเหนือจากนั้น Haier ยังมุ่นเน้นเรื่องนวัตกรรม AI โดยต้องตอบโจทย์ให้ตรงจริตกับผู้ใช้งานสูงสุด
แบรนด์ Haier ทุกคนอาจคุ้นเคยจากเครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ที่หลายบ้านใช้กันอยู่ แต่ในวันนี้ Haier ไม่ได้หยุดอยู่แค่กลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศเพียงอย่างเดียว แต่ยังขยายอาณาจักรเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านออกมามากมาย เช่น เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, ตู้แช่, ทีวี และเครื่องทำน้ำอุ่น เป็นต้น
มร. ต่ง เจี้ยนผิง ได้พูดคุยถึงมุมมองที่น่าสนใจอย่าง กลุ่มผู้บริโภคคนไทยในปัจจุบันได้ให้ความสนใจในการใช้ AI เพื่อทำให้ชีวิตสะดวกสบาย ง่ายและรวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการทำงาน และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เราจึงมองเห็นโอกาสที่จะนำเทคโนโลยี AI มาพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันในหลายส่วน
ตัวอย่างเช่น เครื่องปรับอากาศ UV Cool Voice Series ที่สามารถสั่งงานด้วยคำสั่งเสียงภาษาไทยเป็นครั้งแรกของ Haier หรือ ตู้เย็นที่สามารถสั่งผลิตน้ำแข็งผ่านมือถือด้วย Application HaiSmart หรือแม้กระทั่งเรื่องของดีไซน์อย่างเครื่องปรับอากาศเองก็มีสีสันให้เลือก เพราะเรารู้ว่าคนไทยชอบสีสันที่นอกเหนือจากดำหรือขาว แต่ Haier ยังมีสีชมพู, สีฟ้า, สีเขียว ให้เลือกจับแมทกับห้องของเราได้เช่นกัน
Haier มีโรงงานวิจัยอย่างจริงจังในการพัฒนาอยู่ทุกภูมิภาคในโลก ทำให้สามารถศึกษาพฤติกรรมของคนทั่วโลก และได้คิดค้นนวัตกรรมสินค้าที่มีฟังก์ชัน AI ได้ตรงใจคนแต่ละภูมิภาคมากที่สุ
ส่วนของภาคการผลิตทาง Haier ได้มีการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยให้การผลิตของ Haier สามารถผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าได้จำนวนมากขื้นและใช้เวลาน้อยลง ทำให้ Haier สามารถผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
ในส่วนของการตลาดได้มีการเริ่มใช้เทคโนโลยี AI ในการทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ผ่านโปรแกรม AI ที่สามารถ Customize คอนเทนต์ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการที่แตกต่างกันได้อย่างรวดเร็วและตรงกับ Behavior ของกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงการขยายพื้นที่โชว์สินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองและสัมผัสสินค้าด้วยตัวเอง ไม่ต้องลุ้นผ่านการช้อปออนไลน์ที่หลายคนกลัวว่าจะไม่ตรงปก แต่ Haier ก็ได้ตอบรับสิ่งนั้นโดนการมีพื้นที่ให้ลูกค้าได้ทดลอง
ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์จากจีน ที่จะก้าวเข้าสู่ Global Brand อย่างเต็มตัว ก็ถือว่าเป็นกำไรของผู้บริโภคอย่างชัดเจนที่จะได้มีตัวเลือกสินค้ามีคุณภาพมากขึ้น และลดความกลัวต่อสินค้าจีน แต่ในวันนี้แบรนด์จากจีนหลาย ๆ เจ้า กำลังนำพาตัวเองก้าวเข้าสู่ตลาดโลกอย่างแท้จริง
