เวลาเดทกับคนสำคัญ ของว่างที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสทางความรัก
เวลาประชุมนัดมักจะต้องมีชา และขนมมาเสิร์ฟเพื่อรองรับแขก
เวลาไปดื่ม ก็ต้องมีของว่างมาเสริม เพื่อไม่ให้บทสนทนาแห้ง
จะเห็นเลยว่า ‘อาหาร’ คือสื่อกลางที่ทำให้ผู้คนเข้าใจกัน มันไม่มีกำแพงเหมือนภาษา แต่รูปแบบการทำงานของมันกลับก้าวไปไกลทั่วโลก และไม่ใช่แค่จานหลัก เพราะของว่างที่แสนเรียบง่ายนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่มีบทบาทในการสร้างความสัมพันธ์บนโต๊ะอาหารได้อย่างน่าประหลาดใจ
การวิจัยของศาสตราจารย์ลักษมี พละจันทรา (Lakshmi Balachandra) จาก Babson College พบว่าการแชร์อาหารร่วมกัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์กับคน และช่วยให้เราสามารถปิดดีลธุรกิจตรงหน้าได้สำเร็จ
ศาสตราจารย์ลักษมีพบว่า ในทางธุรกิจ การปิดดีลไม่ได้อยู่แค่ในห้องประชุม แต่ยังอยู่บนโต๊ะอาหารได้ด้วย เพราะว่าคนที่สั่งอาหารมาทานเวลาคุยธุรกิจ จะสามารถปิดดีลได้มากกว่าคนที่ไม่สั่งอาหารถึง 12%
นั่นทำให้ในบางครั้งแค่ขนมปัง หรือเค้กกับชา ก็อาจเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้คนสามารถแบ่งปันความรู้สึกกับคนตรงหน้าได้ วัฒนธรรมการทานอาหาร ช่วยให้มนุษย์แซงหน้าทุกสัตว์ชนิดในโลก จนสามารถเชื่อมโยงกันได้ แม้ไม่ได้พูดออกมา แต่แค่ทานข้าวด้วยกัน ก็เหมือนกับเราร่วมแชร์ความรู้สึกกันอย่างออกรส
เราจะพบเลยว่าของว่างก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีบทบาทในฐานะตัวเชื่อมสัมพันธ์ แม้ว่ามันอาจไม่ได้ดูน่าดึงดูดเท่าอาหารจานหลัก แต่การมีสแน็คเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหาร ก็อาจนำเราไปสู่ประตูบานใหม่ที่เรียกว่าโอกาสขึ้นมา
อาหารว่างคือหนึ่งในสิ่งที่สามารถเชื่อมโยงคนได้อย่างไร้พรมแดน เราจะพบว่าอาหารว่างที่ดูธรรมดา ๆ บนโต๊ะนั้น หลายครั้งมันก็ไม่ใช่วัฒนธรรมของชาติเราเลย อาทิ เกี๊ยวจากจีนในมื้อสำคัญที่ร้านก๋วยเตี๋ยว, ฮอตดอกทอดในร้านอาหารตามสั่ง, เฟรนช์ฟรายส์ในร้านกินดื่มกลางคืน หรืออย่างไทยเองก็มีแหนม ที่ไปอยู่ในมื้อสำคัญบนโต๊ะอาหารในฝั่งยุโรป
สิ่งเหล่านี้คือวัฒนธรรมที่แลกเปลี่ยนผ่านสายสัมพันธ์บนโต๊ะอาหาร จนเราสามารถการหลอมรวมข้ามวัฒนธรรมผ่านสื่อกลางที่เรียกว่าของว่าง แม้จะเป็นเมนูที่ประดับบนโต๊ะอาหาร แต่มันกลับมีดีเทลอันยิ่งใหญ่ซ่อนเอาไว้
เพราะแม้จะคุยกันคนละภาษา แต่อาหารยังคงเป็นตัวกลางที่สื่อไปถึงใจของคนอย่างไร้พรมแดน ด้วยพลังของสิ่งที่เรียกว่า Soft Power นี่เอง ที่ทำให้ผู้คนมากมายนำของกินที่ไม่ใช่อาหารประจำชาติ มาประดับอยู่บนโต๊ะได้อย่างไม่เขินอาย และหนึ่งในแบรนด์ผู้เป็นเสมือนทูตที่ส่งต่อ Soft Power ไทย ไปสู่หัวใจของคนทั่วโลกได้อย่างเด่นชัดก็คือ ส.ขอนแก่น
ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา ส.ขอนแก่น ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางบนโต๊ะอาหารของคนไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะมื้อสำคัญกับครอบครัว หรือมื้อกินดื่มกับเพื่อนสนิท ส.ขอนแก่น ก็ยังทำหน้าที่เป็นผู้กระชับมิตรให้กับคนไทยด้วยมื้อโปรดที่รสชาติดี สดสะอาด และมีคุณค่าทางโภชนาการ
และมื้ออาหารทานเล่นเหล่านี้นี่แหละที่ปั้นธุรกิจ ส.ขอนแก่น ให้ทำรายได้ถึง 3,000 ล้านบาท จนสามารถเปลี่ยนของฝากธรรมดาจากไทย ให้เดินทางไกลสู่มื้อพิเศษบนโต๊ะอาหารที่ต่างประเทศได้
แหนม ไส้กรอกอีสาน หรือกระทั่งหมูยอ ของว่างจากไทยที่เราคุ้นชินตาในปีนี้ จะถูกยกระดับกว่าเดิมด้วยการที่ ส.ขอนแก่น จะพากับแกล้มไทยบินลัดฟ้าไปเปิดตัวทั่วยุโรป ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อประกาศศักดาให้โลกรู้ว่า กับแกล้มประจำชาติจะถูกยกระดับให้กลายเป็น Soft Power บนโต๊ะอาหารโลก
เราจะเห็นเลยว่าอาหารว่างนั้น เป็นมากกว่าเมนูบรรเทาหิว ถ้าเราเลือกอาหารที่เหมาะกับบรรยากาศ มันจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ให้คนได้ เพราะอาหารคือสะพานที่เชื่อมระหว่างคนแปลกหน้าให้รู้จักกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่ในไทย แต่ยังไปไกลทั่วโลก
และครั้งไหนที่ทานแหนม และหมูยอของ ส.ขอนแก่น โปรดอย่าลืมว่า เราไม่ได้แค่กำลังทานอาหาร แต่เรากำลังทานเมนูที่เชื่อมโยงคนทั่วทั้งโลกอยู่