ทุกวันนี้แทบไม่มีใครที่ไม่รู้จักศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีที่มีชื่อว่า BLACKPINK อีกแล้ว สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามวงการศิลปินเกาหลีมาก่อน อาจจะขอแนะนำสั้น ๆ ว่า วง BLACKPINK ประกอบด้วยนักร้องสาว 4 คนที่มีชื่อว่า Jisoo, Jennie, Rose และ Lisa (ลิซ่า)
Lisa คือสาวไทยในวงที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ความฮอตไปทั่วโลก นอกจากนั้น BLACKPINK ยังเป็นเป็นศิลปินเกาหลีวงแรกที่ได้ขึ้นเวที Coachella ที่สหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ทั้งนี้หลังจากที่ผมได้ติดตามวง BLACKPINK กับความเคลื่อนไหวของปรากฏการณ์นี้มานาน โดยเฉพาะ Lisa ที่มีแฟนคลับนอกประเทศเกาหลีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่จีน ยุโรป อเมริกาใต้ หรือสหรัฐอเมริกาเองก็ตาม ทำให้เกิดความสนใจว่า ทำไม Lisa ถึงได้รับความชื่นชมและติดตามจากผู้คนทั่วโลกได้มากมายขนาดนี้ และน่าสนใจตรงที่ว่า เราจะนำปรับมาใช้กับการสร้าง Branding ให้กับตัวเอง ธุรกิจ และการตลาดได้อย่างไร
ภาพจาก Facebook Fanpage BLACKPINK
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Lisa BLACKPINK กันก่อนว่าสาวน้อยคนนี้คือใคร มีความเป็นมาอย่างไร Lisa มีความสนใจในเรื่อง K-pop และอยากเป็นศิลปิน K-pop มาตั้งแต่เด็ก ซึ่ง Passion นั้นก็ทำให้เธอมีความมุมานะในการเรียนเต้นและร้องเพลงต่าง ๆ โดยเรียนกับ ประภัสสร เทียมประเสริฐ เจ้าของรางวัลโทรทัศน์ทองคำ และ สุภาพรรณ ผลากรกุล ผู้ฝึกสอนการร้องเพลงประจำรายการ True Academy Fantasia ซึ่งในที่สุด Lisa ได้ไปออดิชั่นกับค่าย YG Entertainment ที่เข้ามาเฟ้นหาคนที่มีแววไปเป็นเด็กฝึกหัดศิลปินที่เกาหลี โดย Lisa คือหนึ่งในผู้ประกวดกว่า 4,000 คน ที่ได้แข่งขัน และเป็นคนเดียวที่สามารถผ่านการคัดเลือกไปได้ หลังจากฝึกหัดอยู่ในค่ายกว่า 5 ปี ในที่สุด Lisa ก็ได้เดบิวต์เป็นศิลปิน K-pop ตามความฝันอย่างเต็มตัวในปี 2016
นับว่าเป็นศิลปินต่างชาติและไทยคนแรกของค่าย YG Entertainment ด้วยความสามารถของ Lisa ทำให้คนทั่วโลกต่างยอมรับ และมีแฟน ๆ ติดตามมากมาย ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Lisa นี้ขึ้น คือไม่ว่า Lisa จะใส่เสื้อผ้า ใช้สินค้า หรือเดินทางไปร้านไหนก็ตาม สินค้าดังกล่าวมักจะมีการ Sold out หรือร้านค้านั้นจะมีคนไปตามจนแน่นขนัดเลยทีเดียว ทั้งนี้ด้วยปรากฏการณ์ของ Lisa นี้ทำให้ผมได้รับบทเรียน คือ
1. Follow your passion
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Lisa ประสบความสำเร็จได้ในวันนี้ คือการวิ่งตาม Passion ของตัวเองไปให้สุดทาง และพยายามจนคว้าความฝันมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก คนที่อยากจะสร้าง Branding ของตัวเอง นั่นก็คือ Passion อย่างหนึ่งที่จะทำให้ไม่เกิดความรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวังเมื่อเจออุปสรรค ในทางกลับกันจะทำให้มีแรงผลักดันลุกขึ้นสู้ เพื่อทำให้เป้าหมายต่างเป็นจริงขึ้นมาได้
2. Actions speak louder than words
ตลอดเวลาที่เริ่มต้นเป็นศิลปินของ Lisa ต่างถูกชาวเกาหลีบางคนดูถูก ถางถาง เหยียดเชื้อชาติ และมีกระทั่งการใช้ F-Word ต่อหน้า Lisa ก็มี โดยสิ่งที่ Lisa ทำนั้นไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นการให้เห็นถึงความพยายามที่จะเอาชนะคำดูถูกเหล่านี้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับคนทำธุรกิจหรือ Branding เพราะหลายคนได้แต่พูด ได้แต่สร้าง communication ขึ้นมา แต่ไม่เคยมีใครที่จะแสดงการกระทำให้เห็นและทำให้เชื่อได้ว่าเป็นแบรนด์แบบนั้นจริง ๆ ดังนั้นการที่แบรนด์หรือคนที่สร้างแบรนด์เป็นคนลงมือทำ และให้การกระทำกลายเป็นการพูดเอง ย่อมสร้างปรากฏการณ์ได้ดีมากกว่าการพูด
3. Hard training
ในรายการ YouwithYou 2 ประเทศจีนที่ Lisa ได้เป็น Mentor นั้น Lisa เคยเล่าว่าเพื่อที่จะให้การเต้นของตัวเอง Perfect และได้รายละเอียดที่ตัวเองต้องการ สิ่งที่ลิซ่าทำคือการซ้อมให้หนัก และเพื่อให้ดีกว่าคนอื่นนั้นคือการซ้อมให้หนักกว่าคนอื่น เพราะคนที่ขยันน่ากลัวกว่าคนที่พรสวรรค์เสียอีก นอกจากนี้สิ่งที่ Lisa พยายามหนักมากคือ เรื่องภาษา เริ่มแรกที่มาเกาหลีพูดอะไรไม่ได้เลย Lisa ต้องหัดพูดภาษาเกาหลีและทำความเข้าใจภาษาให้คล่อง จนสามารถเอาชนะใจคนเกาหลีได้
ดังนั้นสิ่งที่คนทำแบรนด์หรือธุรกิจได้เรียนรู้คือ ไม่มีอะไรที่จะได้มาง่าย ๆ คุณจะเอาชนะคู่แข่งได้ไม่ได้ ถ้าคุณไม่ได้ทำงานหนักพอ แม้กระทั่งการลงรายละเอียดในงานต่าง ๆ และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ให้ได้
4. Fan Service
สิ่งที่ Lisa ได้บอกเด็กฝึกหัดทุกคนที่มาเรียนเต้นกับ Lisa ในรายการ YouwithYou 2 คือ การใส่ใจแฟน ๆ Lisa บอกว่าทุกคนต้องเต้นให้ดี เต้นให้สมบูรณ์แบบไร้ข้อผิดพลาด เพราะแฟนคลับที่ติดตามดู อาจมีแค่โอกาสแค่ครั้งเดียวในชีวิตที่ได้ดูศิลปินแสดงอย่างใกล้ชิด ดังนั้นถ้าทำได้ไม่ดี ก็จะเป็นภาพติดตาแฟน ๆ ไปตลอด หรือทำให้เขาเสียใจได้
ดังนั้น ทุกครั้งที่แสดงต้องแสดงให้ดี ซึ่งนี่เป็นหัวใจสำคัญอย่างมากในการเป็นศิลปิน ที่ต้องคิดถึงความรู้สึกของแฟนคลับและคนที่ติดตามตัวเอง ทั้งนี้แบรนด์และธุรกิจ สามารถนำบทเรียนนี้มาศึกษาในมุมของการทำความเข้าใจความรู้สึกลูกค้าตัวเองอยู่เสมอ เพื่อสร้างการสื่อสารที่ตรงใจกับลูกค้า รักษาลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์และธุรกิจไปได้นาน ๆ
5. Performer
หลายครั้งทุกคนที่ติดตาม Lisa ไม่ว่าจะประเทศไทย หรือต่างประเทศ มักบอกว่า Lisa คือ Performer ที่ดี แม้แต่อดีต Creative Director YG Entertainment เองก็ยังชื่นชม Lisa ในเรื่องนี้โดยบอกว่า Lisa คือศิลปินเกาหลีแห่งยุคที่วงการจะผลิตขึ้นมาได้ ซึ่งใน 10 ปี จะมีศิลปินแบบนี้ออกมาหนึ่งคน ทั้งนี้ตลอดเวลาที่ Lisa ขึ้นแสดงบนเวที จะให้ความรู้สึกสนุกไปกับแฟน ๆ ทั้งการแสดงอารมณ์ สีหน้า ตลอดเวลาที่แสดง แม้เวลาที่กล้องไม่ได้จับมาที่เธอเลยก็ตาม มีการปรับเปลี่ยนสไตล์การเต้น การร้องแร็ป เพื่อสร้างความสนุกให้กับแฟน ๆ
เพราะฉะนั้น การที่แบรนด์หรือธุรกิจ จะสามารถสร้างภาพลักษณ์ สร้างความสนุก ให้คนรู้สึกสนใจ ติดตาม และกลายเป็นแฟนคลับได้ คือเวลาที่ทุกคนในองค์กรได้ทำหน้าที่เป็น Performer อย่างดีที่สุด ในทุก ๆ ครั้งที่ปรากฏตัวต่อลูกค้าหรือสื่อ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนแบรนด์ และสร้างฐานการติดตามของลูกค้าต่อไปได้
ทั้งนี้ Lisa มีผู้ติดตามใน Instagram มากกว่า 36 ล้านคน เรียกได้ว่าเป็นที่ 1 ในประเทศเกาหลี และเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการบันเทิงในเอเซียไปเสียแล้ว การมีฐานแฟนคลับมากขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือเพราะแค่กระแสอย่างแน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเหตุผลที่ได้กล่าวไปข้างบน ที่ทำให้ Lisa กลายเป็นศิลปินที่มีแฟนคลับมากมายทั่วโลก สามารถสร้างปรากฏการณ์ที่ทำให้สินค้าขายดีแบบถล่มทลาย Sold out ได้ในพริบตา หากแบรนด์และคนทำธุรกิจพร้อมที่จะศึกษา เราจะพบว่ามีบทเรียนมากมายที่ให้เรียนรู้จาก Lisa BLACKPINK
เรื่อง : ฉกาจ ชลายุทธ Co-Founder Visionary Chaos Theory
ภาพจาก : Facebook Fanpage BLACKPINK
