เป็นข่าวที่หลายคนให้ความสนใจ นั่นคือดีลสำคัญของ Microsoft ที่ต้องการยื่นข้อเสนอเพื่อเป็นผู้ดูแล TikTok ใน 4 ประเทศ นั่นคือ สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ออสเตเรีย และ นิวซีแลนด์
บทความแนะนำสำหรับคุณ : TikTok Opportunity for the New Gen
ข่าวนี้ดังไปทั่วโลกด้วยเหตุผลที่ว่า TikTok นั้น ถือเป็น Social Media Platform ที่มีการเติบโตสูงมาก ๆ ตั้งแต่ปี 2019 ที่ผ่านมา และยิ่งมีตัวเลขการดาวน์โหลดแอพ และการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นมากในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน TikTok มีจำนวนผู้ใช้งานอยู่มากถึง 800 ล้านคน ใน 155 ประเทศ และ 75 ภาษา 800 ล้านคน
อาจจะดูไม่มากสำหรับ Facebook ที่มีผู้ใช้งาน 2,600 ล้านคน TikTok เพิ่งจะได้แค่ 1 ใน 3 ของ Facebook เท่านั้น แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการเติบโตของ TikTok ในสหรัฐอเมริกาช่วง 18 เดือน สามารถเติบโตได้มากถึง 5.5 เท่าตัวเลยทีเดียว
การเติบโตเช่นนี้มีความน่าสนใจตรงที่กลุ่มคนที่ใช้ TikTok นั้น ส่วนมากเป็น คนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 16-24 ปี แตกต่างจาก Facebook ที่มีกลุ่มผู้ใช้งานอายุมากกว่า คือ 25-34 ปี ซึ่งตัวอายุนี้สามารถบ่งบอกถึงเทรนด์ของกลุ่มผู้ใช้งานระยะยาว เป็นกลุ่มเป้าหมายที่นักการตลาดล้วนให้ความสนใจ
บทความแนะนำสำหรับคุณ : ทำไม TikTok จึงกลายเป็นสมรภูมิแห่งไอเดียที่สนุกได้อย่างไม่มีอะไรกั้น
แต่สิ่งที่เป็นประเด็นมากที่สุดตอนนี้คือ ความที่ TikTok นั้นเป็นแอพพิเคชั่นของบริษัทจากประเทศจีน “ByteDance” จึงเป็นเรื่องที่ประธานาธิปดีโดนัล ทรัมป์ ต้องออกมาประกาศว่าจะระงับ จะบล็อกการใช้ TikTok ในสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ และไม่ไว้ใจเรื่องข้อมูลที่อาจจะรั่วไหลไปอยู่ในกำมือของรัฐบาลจีน
แม้ว่าทาง TikTok จะออกมาบอกแล้วว่า ข้อมูลของสหรัฐอเมริกานั้นถูกเก็บแยกไว้แล้ว และรัฐบาลจีนไม่สามารถเข้าถึงได้ก็ตาม
ประเด็นคือ ถ้า Microsoft เข้ามาซื้อ TikTok แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?
งานนี้มีทั้งหมด 3 ปาร์ตี้ด้วยกัน และ แน่นอนว่าประโยชน์จะตกอยู่กับทั้งสามฝ่าย คือ ทั้งฝั่ง Microsoft ฝั่ง TikTok และฝั่งสหรัฐอเมริกา
Microsoft แม้ว่าปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทอันดับต้น ๆ ของโลกที่มีมูลค่าสูงสุด แต่ที่ผ่านมา Microsoft ก็รุกไปที่ตลาด Entreprise ซะเป็นส่วนมาก Social Media Platform ที่เป็นเจ้าของก็จะเน้นไปทางสายทำงาน สายธุรกิจ เช่น LinkedIn หรือ GitHub ยังไม่เคยมี Social Media ระดับแมสเช่นนี้มาก่อน ยิ่งเป็น Social Media รูปแบบใหม่ที่เป็น AI Based Social Media และมีผู้ใช้งานเป็นคนรุ่นใหม่แล้วละก็ อนาคตของ Microsoft ในระยะไกลน่าจะดูสดใสมิใช่น้อย
ด้าน TikTok เองก็ยังสามารถคงจำนวนผู้ใช้งานอันดับ 2 ของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา ที่รองจากอินเดียได้ ส่วนสหรัฐอเมริกาก็เชื่อว่า ถ้า TikTok มาอยู่ในมือของบริษัทสัญชาติอเมริกา ก็จะทำให้ปัญหาเรื่องข้อมูลรั่วไหลน่าจะหมดความกังวลได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนตัวผมเชื่อว่า TikTok เป็น Social Media Platform ที่น่าสนใจมาก ๆ ถ้าไม่เจอเรื่องการเมืองเข้าแทรกแทรง ก็จะน่าจะมีโอกาสเติบโตไปได้เป็นอย่างดี ผมไม่คิดว่า TikTok จะเข้ามาล้ม Facebook ได้ เชื่อว่า Facebook จะคงอยู่ต่อไป แต่จะจับได้เฉพาะกลุ่มเป้าหมายของ Facebook ขณะที่ TikTok จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และพร้อมจะขยายฐาน เพิ่ม features เพื่อทำให้สุดท้ายแล้ว TikTok ไม่ใช่แค่แอพสำหรับให้คนมาเต้นเท่านั้น แต่น่าจะไปถึงการสร้าง Ecosystem ภายใน ให้เกิดการแลกเปลี่ยน เช่น การขายของ หรือการทำรายได้ให้กับผู้ชม และผู้สร้างคอนเท้นต์ได้ด้วย เพราะที่ใดมีชุมชน ที่นั่นย่อมมีการแลกเปลี่ยน และนั่นคือเหตุผลที่การเข้าซื้อในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับเราและทุกคนที่ใช้ TikTok บนโลกนี้ เพราะนั่นหมายถึงการเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากบนโลกผ่านช่องทางใหม่ ที่ไม่ใช่ Social Network แบบเดิม ช่องทางที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ด้วยคอนเทนต์รูปแบบใหม่ที่มีข้อจำกัดน้อยกว่า
ล่าสุดประธานาธิปดี โดนัล ทรัมป์ ประกาศว่า จะปิด TikTok ภายในวันที่ 15 กันยายน 2563 อย่างแน่นอน ดังนั้นทางเดียวที่จะทำให้ TikTok สามารถอยู่ต่อได้ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็คือต้องรีบปิดดีลระหว่าง Microsoft และ TikTok ให้ได้ก่อนวันที่ 15 กันยายนที่จะถึงนี้
ดังนั้นดีลนี้ แม้ว่าจะมี 3 ปาร์ตี้ที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน แต่ยังมีอีกหลายปาร์ตี้ที่แอบลุ้นขอให้ดีลนี้ไม่สำเร็จอยู่อย่างมากมาย
เรื่อง : สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม CEO RGB72 and Founder CREATIVE TALK
อีกช่องทางการติดตาม CREATIVE TALK
- Twitter : https://twitter.com/creativetalkTH
- Instagram : https://www.instagram.com/creativetalklive
- YouTube : https://www.youtube.com/user/CreativeTalkTH