🎬 ทำไมแคมเปญจาก Netflix ถึงดังเป็นพลุแตก ?
ไม่ว่าจะเป็นโกโกวายักษ์ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา, ร้านอาหารที่พาคุณเข้าไปอยู่ในโลกของภาพยนตร์ หรือแม้แต่กลยุทธ์ การตลาดแบบ Full Funnel และการทำ Partnership ที่ทำให้ทั้งกรุงเทพต้องหยุดมอง ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ!
เบื้องหลังคือการทำงานอย่างเข้มข้นใน War Room ที่ 3 ทีมหลักจาก Netflix, VML, และ JONGLUCKDEE ต้องมารวมตัวกัน ถกเถียงอย่างดุเดือด เพื่อสร้างแคมเปญที่ไม่ใช่แค่ "ไอเดียดี" แต่คือ "ไอเดียที่ต้องดู" จนกลายเป็นกระแสทั่วประเทศ!
ใน Session: Made You Watch: The Creative War Room Behind Netflix’s Most Viral Moments in Thailand ดูกันทั้งเมือง: เบื้องหลังแคมเปญไวรัลของ Netflix ที่ทุกคนพูดถึง ในงาน AssetWise presents Marketing Oops! Summit 2025
🎬 แกะ 21 สูตรลับสร้างแคมเปญไวรัลของ Netflix เบื้องหลังระดับโลกในการสร้างแคมเปญที่ไม่ใช่แค่ "ไอเดียดี" แต่คือ "ไอเดียที่ต้องดู"
🌟 Product ของ Netflix คือ ‘หนัง’ ดังนั้นการจะสร้างสรรค์งานครีเอทีฟที่เข้าถึงใจคน คือการทำให้เข้าไปอยู่ในชีวิตคนดูจริง ๆ ตัวอย่างเช่น ป้ายโฆษณาของ Money Heist หรือ ซอสผัดงอแง จากโรซ่า ที่เข้าถึงคนได้ง่าย
🌟 Having The End in Mind เมื่อจะทำแคมเปญสักอย่าง “เราต้องรู้ ต้องคิดปลายให้จบแล้ว” ปลายทางจะเป็นอย่างไร Visual สุดท้าย หรือ PR เวลาถูกหยิบไปจะเป็นอย่างไร หนึ่งในตัวอย่างคือ Squid Game 2 ที่โปรโมทน้องโกโกวา กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นหนึ่งในแคมเปญโปรโมทที่ถูกคิดมาตั้งแต่ต้นจนจบ
🌟 เบื้องหลังการทำโปรโมท Squid Game 2 ตอนเริ่มบรีฟมักจะเกิดภาพสำเร็จตั้งแต่ในหัวตอนบรีฟแล้ว รวมไปถึง Discussion ที่เกิดขึ้นก็ต่อยอด โดยจะทำอย่างไรให้ประเทศไม่แพ้ชาติใดในโลก รวมไปถึงใส่ไอเดีย Landmark takeover เข้าไป ว่ามันต้องไปอยู่ที่ไหน
🌟 Taste The Hunger คนหิวเกมกระหาย เป็นอีกหนึ่งการโปรโมทที่คุยกันแล้วว่า Conversaion Starters เห็นตั้งแต่บรีฟแล้วว่าเราจะโปรโมทอะไร และคุยอะไรกับคนดูกันไว้แต่แรกแล้ว ว่าเมื่อหนังออกไปคนจะพูดอะไรบ้าง เช่น คนจะต้องอยากทำเมนูผัดงอแงที่บ้าน, ความเลื่อมล้ำของการกิน เป็นต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญมาก ๆ ว่าเราจะคุยอะไรกับ Consumer ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องแพลนกันอย่างลึกซึ้ง
🌟 สิ่งสำคัญของการทำแคมเปญสุดปังอย่าง Netflix เกิดจาก Good Work ต้องมาจาก Good Brief ไม่ใช่ว่าเราต้องทำยังไง แต่มี Process มาแล้วว่าเราจะ Work งานต่อได้อย่างไร
🌟 สงครามส่งด่วนเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่วาง Conversaion Starters ไว้อย่างน่าสนใจ และนี่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนที่รู้ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า คนดู จะคาดหวังพูดถึงสิ่งเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น
CHINESE LANGUAGE: LEARN CHINESE FROM THE SERIES & TALENTS' SKILLS → เรียนรู้ภาษาจีนจากซีรีส์และทักษะของนักแสดง
‘HOW TO GET RICH’, ‘BUSINESS GAMES’ & ‘STARTUP’ TIPS → ‘จะรวยได้ยังไง’, เกมธุรกิจ และเคล็ดลับสตาร์ทอัพ
WHO COULD BE SANTI, TUNDER, EASY IN REAL LIFE? → ใครกันนะที่อาจเป็นสันติ, ทันเดอร์ หรืออีซี่ในชีวิตจริง?
BUSINESS GIANTS GAIN BENEFITS FROM CAPITALISM CRUSHING SMALL BIZ → บริษัทยักษ์ใหญ่ได้ประโยชน์จากระบบทุนนิยมที่บดขยี้ธุรกิจเล็ก
BREAKOUT CHARACTERS: SANTI, XIAOYU, RUIJI → ตัวละครที่โดดเด่น: สันติ, เซียวหยู่, รุ่ยจิ
RIDER BROTHERS → พี่น้องไรเดอร์ (นักส่งของ)
🌟 การหา Unique Selling Point (USP) ไม่ได้หมายความว่ามีแค่สิ่งเดียว แต่ในหนัง Netflix หนึ่งเรื่องมีอย่างมหาศาล ดังนั้นการจะดึงจุดขาย หรือเลือก Point ไหนเข้าถึงใจคนได้จริง เป็นหนึ่งในอาวุธลับ ซึ่งคนทำงานเห็นภาพตอนจบตั้งแต่แรกไว้แล้ว.
🌟นิยามคนทำ ‘ไวรัล’ = ไม่ใช่ฟลุ๊ก แต่คือการวางแผนมาอย่างละเอียด
🌟 RISK IT RIGHT อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ มันคือไอเดียที่มีความเสี่ยง เป็นสิ่งที่ Netflix ต้องการให้เกิดขึ้น หนึ่งในตัวอย่างที่วาง storyboard เกือบ 60 เฟรม เพื่อทำน้องโกโกวา หรือน้องยองฮี เป็นคีย์หลักของแคมเปญ แล่นบนเรือขนาดยักษ์ ผ่านเส้นทางที่ยากที่สุดอย่างแม่น้ำเจ้าพระยา มันมีทั้งระดับน้ำ, สเกลบนท้องฟ้าน้องยองฮีที่ใหญ่ยักษ์, น้ำหนักการขนย้าย ซึ่งมันคือการจัดการความเสี่ยงทั้งหมด แต่นี่คือสิ่งที่ Netflix
🌟 สะพานพุทธ หนึ่งในสะพานที่น้องโกโกวาไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ ซึ่งการมีแนวคิด RISK IT RIGHT คือการหาว่าเราจะก้าวผ่านไปได้อย่างไร ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นคือ น้องโกโกวา สามารถนอนลงเพื่อหลบเลี่ยงการชนกับสะพานพุทธได้ เป็นอีกหนึ่งวิธีคิดที่จัดการกับความเสี่ยงได้อย่างสวยงาม
🌟 การ Take Risk ต้อง Take บนความจริง และถูกต้อง อย่างเคสน้องโกโกวา ต้องมีการ Buffer วางแผนเผื่อ Scenario หลาย ๆ ครั้งมาก มีการไปบรีฟกับกรมเจ้าท่าที่ดูแลน่านน้ำของเมืองไทย ซึ่งเมื่อเขาได้ยินก็ถึงตาลุกวาวขึ้นมาทันทีว่านี่บ้าหรือเปล่า จะเล่นใหญ่อะไรขนาดนั้น หรือแม้กระทั่ง น้องโกโกวาหมุนหัวได้ ซึ่งเป็นเจ้าแรกในไทย หรือ น้องนอนลงได้เพื่อหลบเลี่ยงการชนกับสะพาน เป็นต้น
🌟 คีย์สำคัญคือลูกค้า และ เอเจนซี่ ต้องกล้ารับความเสี่ยง ด้วยแพลนที่ถูกวางไว้หมดแล้ว นี่คือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ลูกค้าไว้ใจ มันคือหนึ่งในการเซ็ตบาร์ของคนทำงานที่ไม่ได้ทำแค่ทำให้เสร็จ แต่ทำให้สำเร็จและมีคนเห็น มันคือการหาทำ! ของทุกปาร์ตี้
🌟 อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของ Netflix และทีมโฆษณาชุดนี้คือ ‘IN IT TOGETHER’ การร่วมมือ ร่วมทุกข์ร่วมสุข ไม่ทิ้งกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลายากลำบากหรือท้าทาย เพราะทุกคน “สนุกกับการหาทำ”
🌟 เคสของ Taste The Hunger คนหิวเกมกระหาย คือหนึ่งในเรื่องที่ตอบโจทย์ ‘IN IT TOGETHER’ ได้ดีที่สุด นั่นคือแคมเปญเปิดร้านอาหาร HUNGER Restaurant ที่วัดกันไปเลยระหว่าง Fine Dining VS Street Food ให้คนที่ชอบซีรีส์ได้มาลิ้มลอง ต่อยอดมาสู่การผลิตซอสผัดงอแงของโรซ่า ที่ต้องได้ทั้งรสชาติ และกลิ่นกระทะที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมันใช้การพัฒนาเป็นปี! ที่สามารถนำ Netflix เข้าไปสู่ครัวเรือนของคนไทยได้จริง!
🌟 การอัปเดตตลอดเวลา พูดคุยสื่อสาร รับผิดชอบร่วมกันกันสำคัญมาก ซึ่งถ้าเราจะไปด้วยกันต้องเกิด Trust + Transparent ที่ไว้ใจร่วมกัน ยิ่งการทำงานของ Netflix มีถึง 3 ปาร์ตี้ (Netflix, VML, และ JONGLUCKDEE) เราต้องคุยอย่างตรงไปตรงมา ไม่หมกเม็ด ไม่โกหก เช่น ถ้างบไม่พอทำยังไงต่อ, ติดอะไรบอกกัน ไว้ใจกัน แชร์ความจริงร่วมกัน แล้วทำมันออกมา เป็นต้น
🌟 บางงานก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คนทำงานคิด แต่ก็ยังสามารถ Optimize ต่อได้ มองความผิดพลาดเป็น Learning สม่ำเสมอ
🌟 KNOWING WHAT ‘NOT’ TO DO การรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ ไม่ควรทำโคตรสำคัญ เราต้องเลือกว่าอะไรคือสิ่งที่เราจะทุ่มสรรพกำลัง และเงินเข้าไป เพราะใน Netflix มีแต่ของดี ๆ ให้ทำ เราไม่จำเป็นต้องทุ่มทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่ต้องเลือกสิ่งที่ ‘ควรทุ่ม’ และ ‘คุ้มค่าที่สุด’ ในการทำ ซึ่งสำคัญมาก
🌟 หลาย ๆ ครั้งคนทำงานชอบพูดว่า ‘มันคันมือมากเลย’ ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของคนทำงาน ที่มี Passion และความหลงใหลร่วมกันในการทำโปรเจกต์ ซึ่งนี่เป็นธรรมชาติของคนทำงานชุดนี้
🌟 เบื้องหลังแคมเปญน้องโกโกวาจาก JONGLUCKDEE เกิดจาก Creative สเกตงานมาเกือบ 38 ไอเดีย สุดท้ายต้องไปขาย Netflix แค่ 2 ไอเดีย โดยขายไอเดียเอาน้องโกโกวาไปวางไว้ตึกใบหยก กับ แม่น้ำเจ้าพระยา สุดท้ายก็คิดร่วมกันแล้วว่าไปเลือกส่วนที่ยากที่สุด คือ ‘แม่น้ำเจ้าพระยา’ เพราะ Netflix ชอบความเสี่ยงอย่างสร้างสรรค์ จากคนทำงานที่คิดมาอย่างดี ไม่ใช่ไอเดียที่ลอยฟลุ้ง ๆ มาอย่างเดียว
🌟 NEVER STOP LEARNING อย่าหยุดเรียนรู้ เรียนรู้อยู่เสมอ เป็นคีย์การทำแคมเปญสำคัญของทีมนี้ ตัวอย่างเช่น บางแคมเปญ Fail ติดกัน 2 อัน ก็มาทำ Workshop ร่วมกัน แชร์ร่วมกัน มันเป็นการแชร์เพื่อไม่ให้เราผิดพลาด ซ้ำอีก และไม่ทำอะไรซ้ำเดิมเด็ดขาด
🌟 และสุดท้าย Squid Game 3 แคมเปญที่ทุกคนจะได้เห็นกันล่าสุด และเป็นที่เดียวในโลกที่ประเทศไทยเราเล่นกระโดดเชือกได้จริง ไม่มีประเทศไหนทำอีกแล้ว ประเทศไทยใช้เชือกจริง เล่นจริง ทำจริง กับหุ่น 12 เมตร ที่น้องโกโกวา พาแฟนมาด้วยอย่าง ‘Cheol-su’
เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ