หลายคนเลือกงานในสิ่งที่คิดว่าทำได้ดี แต่เราเลือกงานจาก ‘ความท้าทาย’ ที่จะเปลี่ยนประเทศไทยไปตลอดกาล
Rolling Loud Thailand คือ Challenge นี่คือหนึ่งในโจทย์ที่มีความท้าทายสูงมาก
คุณศิรวัฒน์ เทพเจริญ CEO at More Money Entertainment และ ดร.วาสนา อินทะแสง Executive Committee at More Money Entertainment ได้ให้ข้อคิดไว้น่าสนใจถึงคนที่คิดจะทำธุรกิจ เพราะเมื่อไหร่ที่เราก้าวขาลงไปแล้ว มันไม่มีคำว่าทำไม่ได้ เราต้องทำได้ดี และทำให้ได้เท่านั้น!
🎯 Challenge 1 - การสร้างความเชื่อมั่น
ความท้าทายแรกคือคนยังไม่เชื่อ คิดว่างานนี้ไม่ใช่ของจริง เหตุเพราะ Rolling Loud Thailand คือสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในไทย! การทำเรื่องที่ยังไม่เคยมีมาก่อนไม่ใช่ของง่าย ไม่มีใครเชื่อว่า Travis Scott หรือ Cardi B จะมาเมืองไทย ประสบการณ์ที่ทาง Rolling Loud Thailand อยากให้เกิดคือ ‘คนไทย ไม่จำเป็นต้องบินไปยุโรป’ แต่เราจะนำศิลปินระดับโลก และคนต่างชาติ บินมาที่เมืองไทยแทน
สถิติที่น่าสนใจ
- อเมริกากว่า 10% บินจากอเมริกา เพื่อมา Rolling Loud Thailand ที่ไทย
- ญี่ปุ่น, อินเดีย, ยุโรป, จีน ก็เป็นอีกหนึ่ง Opportunity ที่บินมาไทย
- จากปีที่ผ่านมา มีคนไทยเพียงแค่ 20% เท่านั้น แต่ในปีนี้! จากการเปิดขาย Early Bird เราได้คนไทยเพิ่มขึ้นมา 38% มี Engagement กว่า 500 ล้านวิว และทำ Sold out ใน 2 วัน
🎯 Challenge 2 - มาตรฐานกับการทำงานแบรนด์ระดับโลก
- Opportunity แรกของทีมเกิดจากออกไปเข้าใจธุรกิจสายบันเทิง โดยศึกษาและลงมือทำเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี แล้วได้ License จาก Rolling Loud
- แต่กว่าจะได้ License ไม่ง่ายเพราะมาตรฐานงานระดับโลกสูงมาก ทางฝั่งต่างประเทศต้องบินมาตรวจสอบประเทศไทย ซึ่งโจทย์ต้องไม่ใช่กรุงเทพ และมีพื้นที่เดินทางง่าย สะดวกสบาย ในละแวกมีการแพทย์พร้อม มีแหล่งท่องเที่ยวให้ไปต่อได้ แต่ไม่ไกลกรุงเทพมากเกินไป
- ต้องปรับพื้นที่ 100 ไร่ ในพื้นที่พัทยา จากเดิมเป็นพื้นดิน ปรับพื้นให้เป็นปูน และมีเวลาปรับเพียง 3 เดือน เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับกลุ่มคนที่จะมางาน ซึ่งเป็นกลุ่มคนพรีเมียม ดังนั้นรองเท้าที่ใส่ การแต่งหน้าแต่งตัวของลูกค้า เขาต้องไม่ลุยดิน การเข้าใจกลุ่มลูกค้า และมาตรฐานของงานระดับโลกสำคัญมาก
- หนึ่งในจุดแข็งสำคัญของ Soft Power เราคือ “HOSPITALITY” หรือการบริการ การดูแลใส่ใจ
🎯 Challenge 3 - คนไทยสามารถไปถึง Standard ระดับโลกได้
- หนึ่งในความท้าทายของ Rolling Loud คือการมีคนมาร่วมงานกว่า 1 แสนชีวิต สิ่งที่ทำให้ทีมหลังบ้านของ Rolling Loud Thailand ประสบความสำเร็จคือ “TEAM” การติดกระดุมเม็ดแรกสำคัญมาก ทุกอย่างจะสำเร็จได้เกิดขึ้นจากการสื่อสาร ซึ่งเบื้องหลังการทำงานของ Rolling Loud Thailand เรียกได้ว่าประชุมหนัก และสื่อสารกันอยู่เสมอ
- การปรับความเข้าใจ Culture ร่วมกันระหว่างทีมอเมริกา และไทยสำคัญ เขาก็ต้องเข้าใจเรา เราก็ต้องเข้าใจเขา มันยากในการปรับจูนช่วงแรก ต้องใจเย็น! และคิดไว้เสมอว่าเราต้องเรียนรู้ทุกอย่างใหม่เสมอ
- การ Communication สำคัญมาก ดังนั้น Language skills สำคัญมากในการทำงานกับชาวต่างชาติ
- การดูแลศิลปินระดับโลก หลังบ้านเราต้องใช้ทีมงานที่ดูแลเป๊ะทุกกระบวนการ
- เรื่องอาหาร ก็ต้องถูกปากคนทั่วโลก ไม่ใช่เพียงแค่คนไทย
- ความปลอดภัย มี Security บินมาจากอเมริกากว่า 100 ชีวิต ซึ่งก็มีทีมคนไทยอยู่ด้วย
Rolling Loud คืองานที่เป็นรองเพียง Coachella Valley Music and Arts Festival คืองานระดับแสนกว่าคน ดังนั้นนี่คือ ‘Global Standard’ จึงไม่แปลกใจที่จะมีการวัดผล (Measurement) และมีกฎระเบียบค่อนข้างมาก นี่จึงเป็นหนึ่งในความท้าทายของคนไทย และเป็นตัวอย่างของความสำเร็จของงานระดับโลก เพราะเขาใส่ใจทุกมิติ ทุกกระบวนการ ละเอียดอ่อนกับงานมาก!
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือเวทีของ ‘Travis Scott’ ใช้เวลาเปลี่ยน 45 นาที งบประมาณ 15 ล้าน เพราะแต่ละโชว์จะต้องมีการปรับเปลี่ยนเวทีไปตามสไตล์ของแต่ละศิลปิน ซึ่งมันมีเรื่องของ Production, Operation มากมาย และที่สำคัญต้องทำให้ถึง! ซึ่งปีก่อนใช้ทีมของอเมริกา แต่ปีนี้! จะเป็นทีมไทยทั้งหมดสำหรับ Rolling Loud Thailand เพราะคนไทยก็สามารถไปถึง Standard ระดับโลกได้แล้ว
ต่อให้คุณไป Rolling Loud ทั่วโลก คุณก็จะไม่มีวันได้เห็น Rolling Loud Thailand เพราะประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ มีเพียงแค่ในประเทศไทยที่เดียวเท่านั้น!
การมีอยู่ของ Rolling Loud Thailand ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Hip Hop Music Festival แต่มันยังส่งผลไปถึงเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะ
- กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
- พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ต่างมีรายได้เพิ่มขึ้น
- เพิ่มศักยภาพของคนไทยสามารถทำงานระดับโลกได้
- เป็นสะพานเชื่อมไปสู่ Business อื่น ๆ
- ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งใน ‘Hub Festival’ ของเอเชีย
- น้อง ๆ ศิลปินไทยมีโอกาสให้คนทั่วโลกได้เห็น ว่าศิลปินไทยมีของและเป็นตัวจริง!
สุดท้ายนี้สิ่งที่ทั้งสองท่านได้ฝากไว้คือ “อย่ากลัวที่จะล้มเหลว” เพราะศักยภาพของคนเริ่มจากตัวเรา อย่าปิดประตูเพื่อปิดกั้นขีดความสามารถของตัวเอง ต่อให้เราจบไม่ตรงสาย แต่ถ้าเราเปิดโอกาสที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ เราก็จะได้ไปสู่เรื่องใหม่ ๆ ได้ทำเรื่องที่นอกกรอบอย่างแน่นอน
วันนี้มาเริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อน เส้นทางบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่สวยงาม แต่ถ้ามองว่าเป็นอุปสรรคตั้งแต่เม็ดแรก เรื่องทุกเรื่องในชีวิตเราจะยากไปหมด Mindset สำคัญมากในการทำงานที่มีความท้าทาย
ใครที่อยากรับชมแบบจัดเต็มสามารถซื้อบัตรรับชมย้อนหลังทุกเซสชันเพิ่มเติมได้ที่
Zipevent Co.,Ltd.
