สรุป 5 เทรนด์การช้อปที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล จาก Thailand’s Future Shopper 2023

จักรวาลการช้อปปิ้งออนไลน์ไม่ใช่เทรนด์อีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็นบรรทัดฐานการใช้ชีวิต เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าในปัจจุบัน โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์ ได้พัฒนาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ว่าจะทำยังไงให้สินค้าของตนดึงดูดผู้บริโภคมากที่สุด

Last updated on ก.ค. 15, 2023

Posted on ก.ค. 12, 2023

Wunderman Thompson Thailand ได้ออกมาเผยถึง 5 เทรนด์ผู้บริโภค จาก Thailand’s Future Shopper 2023: Divergence and Disruption of the Status Quo ซึ่งจะพาเราไปสำรวจ 5 เทรนด์นักช้อปที่เปลี่ยนไป ในโลกธุรกิจที่แบรนด์ต้องไม่หยุดนิ่ง โดยทาง CREATIVE TALK ได้สรุปออกมาเป็น 5 ข้อ ดังนี้

1. สินค้าต้องเข้าถึงผู้บริโภคในหลากช่องทาง

ทุกวันนี้ เราจะเห็นได้ว่าการช้อปออนไลน์มีความหลากหลายมากกว่าเดิม นั่นทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ต้องก้าวข้ามขอบเขตของแพลตฟอร์มหลัก แบรนด์ต้องทำงานหนักยิ่งขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่า ผลิตภัณฑ์ของเราจะไปปรากฏอยู่ทุกช่องทาง ไม่ใช่แค่บนแพลตฟอร์มที่เราใช้เป็นหลักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแพลตฟอร์มเฉพาะกลุ่มเช่น เว็บไซต์เปรียบเทียบราคา แบรนด์เว็บไซต์ หน้าเว็บผู้ค้าปลีก และมาร์เก็ตเพลสอื่น ๆ ด้วยการสร้างความหลากหลายทางออนไลน์ จะทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น ไปจนถึงเพิ่มการมองเห็นผลิตภัณฑ์ของตนได้สูงสุด


2. แบรนด์ต้องรับมือกับความคาดหวังที่สูงขึ้น

ผู้บริโภคไม่เพียงต้องการช้อปออนไลน์มากกว่าเดิม แต่พวกเขาก็มีความคาดหวังในสินค้ามากขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นแบรนด์จึงต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุด ความหลากหลายของสินค้า เอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการจัดส่งที่รวดเร็วมีคุณภาพ

การมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานเหล่านี้ จะทำให้แบรนด์ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งธุรกิจต่าง ๆ ก็ควรประเมินและปรับปรุงการนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของกลุ่มเป้าหมายด้วย


3. ใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์ให้มากที่สุด

เว็บไซต์ของแบรนด์ทำหน้าที่เป็นจุด Touchpoint ที่สำคัญสำหรับผู้บริโภค แบรนด์ต้องแน่ใจว่าเว็บไซต์ของตนเองมีความน่าดึงดูด สิ่งสำคัญคือต้องสร้างอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ซึ่งให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและครอบคลุม

นอกจากนี้ แบรนด์ควรพิจารณาถึงข้อเสนอ สิ่งจูงใจหรือโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อโดยตรงจากเว็บไซต์ของตน ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์เว็บไซต์ แบรนด์จะสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วม และสร้าง Royalty ที่ดีจากลูกค้าได้


4. สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่น่าจดจำ

เส้นทางการช้อปปิ้งควรเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน และมีส่วนร่วมสำหรับผู้บริโภค ตลอดเส้นทางการช้อปแบรนด์ต้องทำความเข้าใจทุก Touchpoint ของผู้บริโภค และสร้างช่วงเวลาที่น่ารื่นรมย์ไปพร้อมกัน เช่น จำลองประสบการณ์การช้อปปิ้ง ด้วยการใช้ AI แชทบอทให้การช้อปสนุกไปอีกขั้น หรือทำให้ช่วงเวลาในการซื้อของนั้นสามารถแชร์ได้ นอกจากนั้นก็สามารถสร้างแรงจูงใจให้คนมารีวิวผลิตภัณฑ์ หรือเปลี่ยนแบรนด์ของเราให้เป็นดิจิทัลสำหรับการเล่นเกม


5. กุญแจสำคัญคือการสร้างประสบการณ์ลูกค้า

เพื่อให้ประสบความสำเร็จในตลาดการค้าปลีกออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง แบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ การสร้างประสบการณ์ลูกค้า (CX) ที่แข็งแกร่ง มีความชัดเจนในการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคทุกขั้นตอน ตั้งแต่การได้รับแรงบันดาลใจจากวิดีโอยูทูป ไปจนถึงการค้นหาข้อเสนอที่ดีที่สุดในเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาและการส่งมอบสินค้า ซึ่งแบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นต้องเข้าใจว่าสิ่งใดที่ทำให้พวกเขาโดดเด่น


นอกจากนี้นับเป็นครั้งแรกที่ภาพของการช้อปปิ้งออนไลน์มีความชัดเจน หลังการระบาดของโควิด นักช้อปรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย และความพึงพอใจในทันที ขณะที่คนอายุมากกว่าให้ความสำคัญกับข้อเสนอและความคุ้มค่า โดยพฤติกรรมการช้อปของคนไทยตลอด Consumer Journey ตั้งแต่แรงบันดาลใจ – การค้นหา – การซื้อ ส่วนใหญ่ (60% – 70%) กล่าวว่ามากกว่า 50% ของแต่ละสเต็ปของ Consumer Journey เกิดขึ้นบนออนไลน์ที่มีความหลากหลาย และไม่เหมือนเดิม

trending trending sports recipe

Share on

Tags