เราสามารถเอาสิ่งที่รัก มาทำเป็นธุรกิจได้ไหม?
ผู้คนมากมาย ต่างคอยมองหาความสำเร็จในอาชีพการงาน บ้างก็ไม่ได้ทำงานที่ตรงใจ บ้างก็ได้ทำตามความหลงใหลที่ใฝ่ฝัน อย่างไรก็ตาม ความจริงหนึ่งที่เราพบคือ หลายครั้งความหลงใหลก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นรายได้ได้เสมอไป
การเปลี่ยนความหลงใหลให้เป็นผลกำไร จึงเป็นแนวคิดที่ต้องผสมผสานความครีเอทีฟ การวางแผน และความรอบรู้ทางธุรกิจเข้าด้วยกัน
คุณกฤตินี พงษ์ธนเลิศ อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของเพจ marumura จึงได้มาแชร์ถึงแนวคิดการผสมความหลงใหลกับธุรกิจเข้าด้วยกัน ในงาน CTC2023 Festival ด้วยหัวข้อ ‘Finding Business Harmony : Balancing Profitability and Passion’ ซึ่งเป็นหลักการ Passion X Profit ที่สามารถเปลี่ยนความหลงใหลให้กลายเป็นเงินได้จริง
เราทุกคนมักมีความหลงใหลที่หลงใหล แต่คนมากมายมักไม่ได้เลือกทำตามสิ่งนั้น เพราะเรารู้กันดีว่า การทำตามสิ่งที่รัก บางครั้งมันก็ไม่ได้เงินดี อย่างไรก็ตาม กลายเป็นเรื่องปกติมากที่แต่ละบุคคล จะเปลี่ยนความหลงใหลให้กลายเป็นแหล่งรายได้ ซึ่งคุณกฤตินีก็ได้หยิบยก Case Study มาเพื่อทำให้เราหาจุดกึ่งกลางของ 2 สิ่งนั้นได้
Passion
อะไรคือความหลงใหลของเรา ลองใช้เวลาคิดดูว่าเราชอบมันไหม ความหลงใหลยังไม่ต้องมีตั้งแต่วันแรกก็ได้ แต่จงจำไว้ว่าความหลงใหลที่ดีจะประกอบด้วยสิ่งเหล่านี้
- สิ่งที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่น
- สิ่งนั้นต้องมาจากความตั้งใจของเราเอง
- ความหลงใหลที่ดีจะทำให้เราทำได้นาน
- ความหลงใหลนำไปสู่กำไรที่ดีได้
- แตกต่าง ไม่เหมือนใคร
Profit
จุดที่ทำให้เราสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ซึ่ง ณ ตรงนี้ เราต้องมีแผนธุรกิจโดยละเอียด เพื่อกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะแผนที่คิดมาอย่างดี จะทำหน้าที่ในการเปลี่ยนความหลงใหลให้กลายเป็นแหล่งรายได้อันยั่งยืน
- บริษัทได้อะไร
- เราได้ทำอะไร
- หารายได้ทางไหน
คุณกฤตินีได้ยกตัวอย่างหญิงชาวญี่ปุ่นอย่าง ยูโกะ คาโต้ (Yuko Kato) ที่เป็นอดีตนักออกแบบของบริษัท โดยคาโต้พบว่า ตอนที่ไปเที่ยวตามงานเทศกาลต่าง ๆ เมืองหลายแห่งมักจะมีเพนพอยต์คือ เทศกาลมากมายขาดแรงงาน ขาดเงินทุน และไม่มีความแปลกใหม่ นั่นทำให้คาโต้จึงสร้างธุรกิจ ที่เป็นแพลตฟอร์มเพื่อเชื่อมคนกับงานเทศกาลขึ้นมา
บริษัทนี้ชื่อ Omatsuri Japan ซึ่งทำธุรกิจจัดงานเทศกาล ที่มีจุดเริ่มต้นด้วยความหลงใหลที่อยากทำให้ผู้คนสดใสด้วยเทศกาลพื้นบ้าน
เมื่อมาถอดดูโครงสร้าง Passion X Profit ของยูโกะ คาโต้ ในการสร้าง Omatsuri Japan จะได้ดังนี้
Passion
อยากทำให้ผู้คนสดใสด้วยเทศกาลพื้นบ้าน
Profit
- ได้นำเสนอสินค้าใหม่ให้เทศกาล
- เป็นตัวกลางให้บริษัทเอกชนทำ Marketing Research
- และเมื่อทำมามาก ๆ ก็จะได้รับความรู้ จนกลายเป็นคนที่ช่วย Consult งานเทศกาลได้
หลังจากเรารู้ว่า Passion X Profit ของเราคืออะไร จุดที่จะรวมมันเข้าด้วยกันได้ก็คือตรงกลางหรือ Purpose ซึ่งเป็นความหลงใหลที่…
- นำไปสู่ความยั่งยืน
- ได้ช่วยเหลือคน
- ทำได้อย่างต่อเนื่อง และไปสุดทาง
และเมื่อหาจุดตรงกลางเจอ มันจะกลายเป็น ‘ผลกำไร’
ท้ายที่สุดคุณกฤตินีได้ทิ้งท่ายว่า การมีความหลงใหลเป็นสิ่งที่ดี แต่จงเลือกความหลงใหลที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่นเพราะสิ่งนั้นจะกลายเป็น Purpose ซึ่งทำให้เราทำได้นานอย่างน้อย 10 ปี โดยช่วงแรกเราอาจต้องก้าวข้ามผ่านแรงกดดันต่าง ๆ จากสังคมให้ได้ซะก่อน แต่เมื่อผ่านไปได้ ความหลงใหลนั้นจะนำเราไปจนสุดทาง ทำให้ Business Model ของเราไม่เหมือนใคร
การเปลี่ยนความหลงใหลให้กลายเป็นกำไรไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ด้วยการทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถสร้างอาชีพ และเติมเต็มรายได้จากการทำสิ่งที่รัก โปรดจำไว้ว่า ความสำเร็จอาจไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่ด้วยความมุ่งมั่นจะทำให้เราสามารถเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความจริงได้ต่อ
เรียบเรียง: พีรพล สดทรัพย์