ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมทางการเงินของคนไทยเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐานทางการเงินจากที่เคยต้องพกเงินสดหรือพกบัตร ATM กลายเป็นเราไม่ค่อยพกเงินสดติดกระเป๋า
กลับมาใช้มือถือกดเงินสดจากตู้ ATM หรือ ใช้จ่ายผ่านมือถือแทน ตลอดจนพฤติกรรมการชำระเงินที่มีหลากหลายนวัตกรรมและเทคโนโลยีมารองรับ ดังนั้น Startup และ SME ไทย ต้องมีความเข้าใจในเรื่อง Payment รูปแบบต่าง ๆ เพื่อทำให้การซื้อขายของคุณ สอดคล้องไปกับพฤติกรรมและเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
วันนี้ Katalyst Talk ได้รับเกียรติจากคุณ นพพร ด่านชัยนาม Managing Director บริษัท Digio (Thailand) FinTech Startup ผู้พัฒนา Payment Technology Solution ที่มาแชร์เทรนด์และแนะนำทิศทางการชำระเงินทั้งปัจจุบันและอนาคตให้กับนักธุรกิจและผู้บริโภคได้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วนี้
ประเทศไทยกับสังคมเงินดิจิทัลอันดับต้นของโลก
คุณนพชี้ให้เห็นประเด็นว่าทำไมคนไทยทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้สูงอายุตอนนี้ก็สามารถจับจ่ายใช้สอยผ่านมือถือได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากปัจจัยจากสถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้คนเลี่ยงที่จะใช้เงินสดกันแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่มีส่วนผลักดันการชำระเงินแบบ Online ก็คือ นโยบายจากภาครัฐอย่างโครงการ “คนละครึ่ง” มีร้านค้าน้อยใหญ่ร่วมโครงการนับแสนราย ที่ทำให้คนไทยหลายล้านคนปรับพฤติกรรมใช้จ่ายหน้าร้าน ต้องเปลี่ยนจากชำระด้วยเงินสด เป็นชำระผ่านมือถือ ไปโดยปริยาย
ในอีกด้านหนึ่ง การซื้อขายผ่านช่องทาง Online ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหน ผู้บริโภคเองก็มีความคุ้นเคยกับการจ่ายเงินผ่าน Online Payment ทั้งรูปแบบโอนเงินผ่านธนาคาร รูปแบบ PromptPay หรือ รูปแบบ Digital Wallet ซึ่งช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้คล่องตัวขึ้นไปอีก
Online Payment สะดวกกับคนทำธุรกิจมากกว่าที่เห็น
การชำระเงินผ่านทางระบบ Online ยังช่วยทำให้ธุรกิจจัดการรายรับ รายจ่ายของบริษัทได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะการชำระด้วยเงินสด ทำให้ร้านค้าหรือธุรกิจต้องหมั่นเช็คยอดเงินสดว่าตรงกับยอดใช้จ่ายจริงไหม เมื่อธุรกรรมทุกอย่างอยู่ในช่องทาง Online ธุรกิจร้านค้าเองก็บริหารจัดการได้ถูกต้อง แม่นยำ ลดทอดเวลา และมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
ทาง KBank เองก็เพิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนทำธุรกิจ Online มากขึ้นด้วยบริการ K Social Pay ที่ทั้งแชท แชร์ เช็คยอด เพิ่มความปลอดภัยให้กับร้านค้าที่ทำธุรกรรมต่างๆ ผ่าน Social Commerce อย่าง LINE ให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ยุคทองของ Digital Wallet
นอกจากนี้คุณนพยังเสริมอีกว่า ปัจจุบัน เครื่องมือการชำระเงินที่น่าจับตามองที่สุด ก็คือ Digital Wallet เพราะธุรกิจเองสามารถนำไปผูกกับสิทธิประโยชน์อื่นๆ และสร้างการชำระเงินที่คล่องแคล่วได้มากขึ้น เช่น ผู้บริโภคสามารถเลือกผ่อนชำระสินค้าได้โดยไม่ต้องตัดผ่านบัตรเครดิต แม้กระทั่งนักศึกษาก็สามารถซื้อได้ ทำให้การตัดสินใจซื้อลื่นไหลมากขึ้น
อนาคตของรูปแบบการชำระเงิน
คุณนพพูดถึง CBDC (Central Bank Digital Currency) หรือ บาทดิจิทัล ที่กำกับโดยธนาคารกลางนั้น น่าจะพาวงการการชำระเงินดิจิทัลไปได้อีกไกล ซึ่งในอนาคตการยืมเงินกันอาจมีการการันตีการได้คืนที่แน่นอนมากกว่านี้ ระบบอัตโนมัติต่างๆ ที่พ่วงกับเงินดิจิทัลอาจถูกนำมาใช้มากขึ้น คนไทยเดินทางไปต่างประเทศอาจไม่ต้องแลกเงินแล้ว
ภายในช่วงเวลาไม่กี่สิบปี เราได้เห็นวิวัฒนาการของรูปการชำระเงินมากมายหลายรูปแบบ เช่น การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตก็เปลี่ยนจากเครื่อง Zip Zap (เครื่องรูปบัตรเครดิตที่ใช้กับเซลล์สลิปแบบคาร์บอน) มาเป็นเครื่องรูดบัตรเครดิตขนาดเล็กลง การจ่ายเงินออนไลน์เปลี่ยนมาเป็นชิป เป็นแบบ Contactless หรือแม้กระทั่งการจ่ายด้วยเงินสด เปลี่ยนเป็นจ่ายผ่านมือถือ หรือ Wristband รวมถึงรูปแบบมีเดียในการชำระเงินก็เปลี่ยนไป
และนั่นก็ทำให้ภาคธุรกิจอย่าง Startup หรือ SME เองต้องหมั่นอัปเดตข้อมูล เพื่อหาช่องทางที่เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองมากขึ้น เพราะเราต้องยอมรับว่าตั้งแต่นี้ต่อไป โลกดิจิทัลมีแต่จะเปลี่ยนแปลงไวมากขึ้นเรื่อย ๆ
