การตลาดเพื่อนสนิท ทำไมเราถึงเสียเงินเสมอ เวลาโดนเพื่อนป้ายยา

Last updated on เม.ย. 1, 2024

Posted on ก.พ. 5, 2021

“ซื้อเลย อันนี้โคตรเข้ากับแกเลยเพื่อน”

เชื่อว่าหลายคนคงเคยโดนเพื่อนป้ายยา ป้ายร้านอาหารอร่อย ร้านกาแฟดี เสื้อผ้าสวย เครื่องสำอางที่ต้องมี กล้อง เลนส์ อุปกรณ์เสริมมือถือ และอีกสารพัดสรรพสิ่งที่คุณควักเงินจ่ายไปเพราะคำว่าของมันต้องมีจากเพื่อน

จากงานวิจัยบอกเราว่าคนจำนวนมากถึง 92% เชื่อในคำแนะนำหรือที่เรียกว่าป้ายยาจากเพื่อน ขณะที่มีเพียง 29% เท่านั้นที่เชื่อในตัวโฆษณาตามฟีดต่าง ๆ โดย 46% บอกว่าก่อนจะซื้อสินค้า พวกเขามักจะขอคำแนะนำจากคนในครอบครัว ส่วน 45% บอกว่าอยากได้คำแนะนำจากเพื่อน

แต่ว่าอะไรล่ะที่ทำให้ทุกครั้งเราก็เชื่อเพื่อนตลอด โดนป้ายยาตลอด และหลายครั้งมักจะเสียเงินซื้อของไปทั้ง ๆ ที่จากไม่คิดจะได้ ก็ต้องได้!

ผมในฐานะที่เป็นคนชอบป้ายยาเพื่อนมาโดยตลอด ตั้งแต่สินค้าเล็ก ๆ อย่างขนมปังปอนด์ เรื่อยไปจนถึง หนังสือ รองเท้าวิ่ง เครื่องดูดฝุ่น หรือไปใหญ่สุดถึงรถยนต์ก็ยังมี และยังเป็นอีกคนที่โดนเพื่อนป้ายกลับด้วย 

วันนี้จึงอยากจะมาสรุปทฤษฎีว่า ทำไมเราถึงพ่ายแพ้เสมอเวลาเพื่อนป้ายยา กันครับ

สาเหตุที่ 1 เพราะสินค้าเกี่ยวกับคุณอยู่แล้ว

สาเหตุแรกของความพ่ายแพ้ต่อการป้ายยาที่สำคัญมากคือ สินค้าที่ป้ายนั้นต้องเกี่ยวข้องกับคุณ หรือเป็นสินค้าที่คุณสนใจ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าคุณชอบกินกาแฟแล้วบังเอิญมีเพื่อนมาป้ายยาร้านกาแฟพอดี คุณก็จะสนใจที่จะดู และมีโอกาสที่จะพ่ายแพ้ต่อการป้ายยาสูงมาก รู้ตัวอีกทีคุณก็นั่งอยู่ร้านกาแฟนั้นไปแล้ว และพร้อมจะเป็นผู้ป้ายยาคนอื่นต่อไป

ตรงกันข้าม ถ้าคุณเป็นผู้ชาย แต่มีคนมาป้ายลิปสติกสีสวย โอกาสที่คุณจะพ่ายแพ้ก็จะต่ำลง

ดังนั้นหากสังเกตดูสินค้าที่จะโดนป้ายกันเป็นวงกว้าง มักจะเป็นสินค้าทั่วไปที่ทุกคนเข้าถึงได้ เช่น อาหาร ขนม ชานม สินค้าที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก หรืออาจจะเป็นสินค้าที่จับต้องได้ง่าย ราคาไม่แพง โดนป้ายแล้วซื้อได้เลย โดยเฉพาะสินค้าติดโปรฯ นี่จะโดนกันหนักมาก

ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เวลามองว่าคนนี้ป้ายยาแล้วมีคนเสียทรัพย์เป็นจำนวนมาก การจะบอกว่าคนนี้ป้ายยาเก่งหรือไม่ก็อาจจะยังตอบไม่ได้ แต่ที่บอกได้คือ คนป้ายยา ป้ายถูกสินค้าอย่างแน่นอน

สาเหตุที่ 2 ความน่าเชื่อถือในฐานะคนใกล้ชิด

จากข้างต้นที่บอกว่าคนส่วนใหญ่จะถามเพื่อนและครอบครัวก่อนตัดสินใจซื้อสินค้านั่นเป็นเพราะความน่าเชื่อถือเป็นหลัก เพราะเราเชื่อว่าเพื่อนไม่น่าจะหลอกเรา ครอบครัวน่าจะหวังดีต่อเรา นั่นคือเหตุผลที่เวลาเพื่อนบอกเราว่า ของชิ้นนี้ดีจริง อาหารร้านนี้อร่อยจริง เราจึงเชื่อและพาจะตกหลุมพรางของการป้ายยาได้โดยง่าย

ความเชื่อนี่ล่ะ คือสิ่งที่โฆษณาตามฟีดมีน้อย เพราะลึก ๆ ในใจของทุกคนรู้อยู่แล้วว่านี่คือโฆษณา และโฆษณามีหน้าที่สร้างยอดขาย ซึ่งบางครั้งนอกจากเราจะไม่เชื่อแล้ว เรายังกลัวว่าจะโดนหลอกเสียด้วยซ้ำ

สาเหตุที่ 3 ผู้ป้ายยามีชีวิตประจำวันที่ใกล้เคียงกับผู้โดนป้าย

หากลองสังเกตดูคนที่คุณจะพ่ายแพ้ต่อการป้ายยาของเขา มักจะเป็นคนที่มีอะไรหลาย ๆ อย่างคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐาน เช่น อายุ เพศ อาชีพการงาน สถานะทางสังคม หรือแม้แต่ความชอบ ความคิด มุมมองที่เหมือน ๆ กัน มีงานวิจัยบอกว่า คนผิวขาวจะเชื่อในคนกลุ่มเดียวกันมากกว่าคนที่ไม่ใช่คนผิวขาวมากถึง 12% และผู้หญิงจะเชื่อในการบอกต่อจากผู้หญิงด้วยกัน 22% มากกว่าผู้ชาย 

ดังนั้นลองมองซ้าย มองขวาดูคนที่คุณมักจะโดนป้ายบ่อย ๆ พวกเขามีอะไรบ้างที่คล้ายกับคุณบ้าง 

สาเหตุที่ 4 ผู้ป้ายยามีประสบการณ์ในของสิ่งนั้นมาก่อน

แน่นอนว่าแม้เราจะเชื่อคนในครอบครัวและเพื่อนใกล้ชิด แต่ก็ใช่ว่าเราจะเชื่อเขาไปซะทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน การได้ยินคำแนะนำจากมืออาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่มีประสบการณ์ในสินค้าประเภทนั้นมาอย่างโชกโชนจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการโดนป้ายยาได้มากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรู้ว่าเพื่อนคุณคนนี้ชอบถ่ายภาพ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ตากล้องมืออาชีพก็ตาม แต่คุณเห็นเขาถ่ายภาพเป็นประจำ ซื้อเลนส์มาแล้วหลายตัว เปลี่ยนมาแล้วหลายครั้ง ใช้หลากหลายยี่ห้อ คุณก็จะมีโอกาสเชื่อในคำแนะนำของเขาเรื่องกล้อง ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่คุณกำลังมองหากล้องดี ๆ สักตัวตามสาเหตุข้อแรกแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะโดนป้ายยามีสูงมาก

ตรงกันข้าม หากเพื่อนคุณไม่เคยซื้อกล้องเลย ตลอดเวลาถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถืออย่างเดียว วันหนึ่งเมื่อเขาซื้อกล้องมาแล้วแนะนำคุณว่ากล้องนี้ดีมาก โอกาสที่คุณจะเชื่ออาจจะต่ำ และถ้าบังเอิญคุณเคยมีประสบการณ์มากกว่า เช่น เคยใช้กล้องมาหลายตัวแล้ว คุณอาจจะไม่เชื่อเขาเลยก็เป็นได้

สาเหตุที่ 5 เพราะมันคือความสามารถเฉพาะตัว

สาเหตุสุดท้าย ซึ่งต้องบอกว่าเป็นความสามารถพิเศษของเพื่อนผู้ป้ายยาเลยทีเดียว บางครั้งสินค้าที่เขาป้ายเราก็ไม่ได้สนใจ เป็นเพื่อนเราก็ไม่ใช่ โปรไฟล์ของเขาก็ไม่ใกล้กับเราเลย แถมประสบการณ์ของเขาก็อาจจะไม่ได้มีมากในเรื่องนั้น ๆ แต่ทำไมเราถึงโดนป้ายเอาเสียดื้อ ๆ 

เพราะนั่นคือ ศิลปะของการป้ายยา 

นักป้ายยาหลายคนมีความสามารถในการเขียน พูด หรือทำคลิป พวกเขาอาจจะมีการผูกเรื่องราวที่เราสนใจ ให้เข้ากับสินค้าที่กำลังป้าย เช่น การพูดถึงลิปสติกที่คุณต้องซื้อให้แฟนช่วงวันวาเลนไทน์ จากเดิมที่คุณผู้ชายผู้ไม่สนใจลิปสติก พอเจอหัวข้อนี้ก็ต้องสนใจแล้วล่ะครับ เพราะถ้าคุณมีแฟน และแฟนก็มีความเกี่ยวข้องกับคุณ โอกาสที่จะพ่ายแพ้ต่อการป้ายยาก็จะมีสูงขึ้นอย่างแน่นอน

นักป้ายยาบางคนสามารถสร้างภาพในจินตนาการได้ เช่น การบอกว่า ขนมปังอร่อย นุ่ม เคี้ยวหนึบหนับกำลังดี ทำให้คุณเกิดจินตนาการของการกินขนมปัง หรือ การเดินทางที่จะทำให้คุณได้พบกับอิสระ ได้ปลดปล่อยจิตใจให้โปร่งโล่งจากการทำงานมาตลอดสัปดาห์ อะไรแบบนี้ ก็จะทำให้คุณรู้สึกอยากเดินทางและหนีออกจากห้องทำงานเลยทีเดียว ซึ่งวิธีการทำให้เกิดจินตนาการนั้นมีหลายวิธี เอาไว้ว่าง ๆ จะมาเล่าลงรายละเอียดให้อีกที

สรุปแล้วการพ่ายแพ้เสมอเวลาเพื่อนป้ายยานั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แม้ว่าหลายครั้งเพื่อนก็แค่โพสต์ไปงั้น ๆ แต่เราก็ดันติดกับดักเอง แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่เขาตั้งใจป้ายแล้วมันก็ได้ผลดีเสียด้วย และทุก ๆ ครั้ง มันก็มักจะเกิดขึ้นจากสาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้ล่ะครับ

ว่าแล้วก็ขออนุญาตป้ายยาเสียเลย 

เราขอชวนทุกคนเข้าร่วมงาน CTC2021 @BITEC BANGNA ในวันอาทิตย์ที่ 25 เมษายนนี้ ภายในงานคุณจะได้พบกับ Speakers กว่า 90 ท่าน เนื้อหาอัดแน่นกว่า 50 Sessions และอีกมากมายที่รอให้คุณไปเรียนรู้และเติบโต

“เชื่อเราเถอะ งานนี้เหมาะกับคุณ”

สนใจซื้อบัตร คลิกที่นี่ https://bit.ly/39UKYY0

trending trending sports recipe

Share on

Tags