ทำไมคนที่ 'น่ารัก' ถึงประสบความสำเร็จมากกว่าคนเก่ง?

เคล็ดลับที่ AI ไม่มีวันทำได้! ทำไมคนที่ 'น่ารัก' ถึงประสบความสำเร็จมากกว่าคนเก่ง? โดยคุณธนา เธียรอัจฉริยะ

โชคที่ AI ทำนายไม่ได้ = ความเตรียมพร้อม x โชค

หลายคนมองว่าโชคเป็นเรื่องเหนือการควบคุม แต่จริง ๆ โชคส่วนใหญ่เกิดจากความเตรียมพร้อมที่เราสร้างได้เอง ถ้าเราเตรียมพร้อมรอโอกาสเล็ก ๆ ที่ผ่านเข้ามา โอกาสนั้นจะขยายกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่คนนอกมองว่า คือ “โชคดี”

3 รูปแบบของคนเก่งที่ต้องสร้างในยุค AI

1. รูปแบบ I : เก่งอย่างเดียว แต่เก่งสุดโต่ง

รู้ลึกเรื่องเดียวจนไม่มีใครเทียบได้ เช่น นักไวโอลินที่เชี่ยวชาญระดับโลก

2. รูปแบบ T : รู้ลึกและรู้กว้างไปพร้อมกัน

เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ต่อยอดกับเรื่องรอบตัวได้ไปในที่ที่ “คนแบบเราไม่ไป” เพื่อหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ

3. รูปแบบ Y : Multi-Skill ที่จับเรื่องลึก 2 ด้านมาชนกัน

อย่างน้อยต้องรู้ลึกทั้ง 2 เรื่องมาก ๆ แล้วนำมาสร้างมุมมองใหม่ คนเก่งรูปแบบนี้เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นนักดนตรีไปด้วย

สกิลสำคัญที่สุดในยุคปัจจุบัน X-Shape

นอกจากแบบ T กับ Y แล้วสกิลที่เหนือขั้นไปกว่าคือ X-Shape ซึ่งเกิดจาก 3 ปัจจัยคือ Trust × Creativity × Collaboration โดยนอกเหนือจากความรู้แล้ว เรื่อง Likability ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จเช่นกัน

เมื่อถามถึงความสำเร็จและการอยู่รอดในยุค AI คนมักพัฒนา ความสงสัย (Curiousity) และ วินัย (Discipline) จนหลงลืมบางสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า นั่นคือ “ความน่ารัก (Likeability)”

มีคนเคยถาม Warren Buffett ว่าเขามีเคล็ดลับความสำเร็จอะไรถึงมาได้ขนาดนี้ หลายคนคาดหวังเคล็ดลับพัฒนาทักษะหรือการลงทุน แต่ Warren Buffett กลับตอบว่า

“ความสำเร็จ คือ คนรอบตัว”

ทำไมบางคนเติบโตเร็วกว่า แม้เริ่มต้นเท่ากัน

ถ้ามีคนสองคนที่เริ่มทุกอย่างไปพร้อมกัน แต่เมื่อผ่านไป 10 ปีผลลัพธ์กลับต่างกัน คนหนึ่งโต อีกคนยังอยู่ที่เดิม นอกจากโชคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คว้ามาได้ สิ่งที่ต่างอีกอย่างคือสภาพแวดล้อมที่มี “กัลยาณมิตรทั้ง 4”

หัวหน้า - ชอบคนที่ทำงานสำเร็จ ไม่ใช่แค่ทำงานเสร็จ
Mentor - ชอบคนไปมาหาสู่
เพื่อนร่วมงาน - ชอบคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือ
ลูกน้อง - ชอบเจ้านายที่เป็น coach ไม่หลอกใช้

ใครมีกัลยาณมิตรทั้ง 4 ด้านนี้ จะไปได้ไกลกว่าคนอื่น

การเลือกสิ่งแวดล้อม: Givers vs Takers

เราควรฝึกเป็น Givers แต่การเป็น Givers ก็ต้องระวังว่าจะไปอยู่ในสังคมแบบไหน ถ้าไปอยู่ในดง Taker ก็จะโดนเอาเปรียบ ดังนั้นต้องไปอยู่ในดง Givers ด้วยกัน ถึงจะประสบความสำเร็จ

ความสำคัญของ Likability

ตัวอย่างเรื่องราวความสำเร็จของ Ohtani Shohei (นักเบสบอลที่เก่งที่สุดในโลก) กล่าวว่าโชคที่ดีคือการที่มีคนสนับสนุน ดังนั้นเราต้องออกไปเจอคน เพราะโอกาสจะเกิดจากการที่มีคนชอบเรา

เรื่องราวของ Warren Buffet เขาเคยให้คำแนะนำว่า เราต้องไปอยู่กับคนที่ดี คนที่เราชื่นชม แล้วให้เขากลายเป็นเพื่อนของเราให้ได้

ความ Likeable มีอยู่ในทุกบทบาท

หลักการ "Make My Boss Brilliant"

Cathie Woods มีแนวคิดคือ "Make my boss Brilliant" ทำยังไงก็ได้ให้หัวหน้าเก่งที่สุด เขาบอกว่าจริงๆ เขาก็เก่งเท่าเพื่อนคนอื่น แต่เขาทำให้หัวหน้าดูดีได้ คนเลยเข้าใจว่าเขาเป็นคนเก่ง

ศิลปะแห่งการเสียเปรียบของ Partner

ในธุรกิจ : คุณตุ้มเปิดการเจรจาธุรกิจโดยการยอมเสียเปรียบตั้งแต่แรก ทำให้อีกฝ่ายชอบ แล้วรู้สึกอยากทำงานกับคนแบบนี้

การให้เกียรติ

ในการเป็นพิธีกร คุณตาจากช่อง Workpoint ใช้ศิลปะแห่งการไร้ตัวตน เพราะเขาเป็นพิธีกรที่ทำให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ดูโดดเด่น ซึ่งเป็นการให้เกียรติผู้ถูกสัมภาษณ์

Likeable อยู่มานานและอยู่ในทุกสถานการณ์

วัฒนธรรมแห่งความกตัญญู

จากแนวคิดญี่ปุ่นผู้เป็น Land of gratitude ในภาษาญี่ปุ่นมีคำว่า "おかげさまで" (ขอบคุณในความช่วยเหลือของคุณ) คนญี่ปุ่นจะรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่คนอื่นทำให้ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจ หรืออาจจะไม่ตั้งใจ เช่น อาจารย์เกดเคยได้รับคำขอบคุณจากป้าข้างห้อง เพราะการอยู่ข้างบ้านทำให้ได้อยู่อย่างสงบสุข (สมัยก่อนอาจจะมีเพื่อนบ้านไม่ดี เลยอยู่ไม่สงบ พออาจารย์มา เลยรู้สึกขอบคุณ)

การจัดการวิกฤต

เวลามี Crisis ต้องขอโทษก่อน แต่ถ้าไม่พอต้องหาคนมารับโทษ ตัวอย่างคุณโจ้ที่รับผิดแทนลูกน้อง ทำให้ลูกน้องทั้งหมดรู้สึกไว้วางใจและทำงานกันได้เข้าขากันมากขึ้น เพราะเขาไว้ใจว่าเวลามีเรื่องแล้วเขารู้ว่าคุณโจ้จะช่วยเหลือ

การสร้างแบรนด์ส่วนตัว

หลักการสำคัญของการสร้างแบรนด์คือ ต้องสร้างประสบการณ์ที่ฝังใจลูกค้า แล้วทำให้ลูกค้ารู้สึกกับยี่ห้อนั้น เวลาทำอะไรให้เกินความคาดหวัง หากทำเท่าความคาดหวัง จะไม่มีใครจดจำเราได้

หลักการใช้ชีวิตให้คนอื่นรู้สึกชอบ

ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นผู้ใหญ่ เวลาหิวน้ำ ก็เปิดน้ำเทให้คนอื่นก่อน แล้วค่อยเทให้ตัวเอง เขาจะดูเป็นคนถ่อมตน

เวลามีเรื่อง อย่าพูดอะไรไม่ดีลง Social Media เพราะก็เหมือนด่าลงบนป้ายโฆษณากลางแยก

ถ้าจะใช้สื่อ ควรใช้ในการชื่นชมคน โดยเฉพาะตอนที่อีกฝ่ายต้องการกำลังใจ

สุดท้ายนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างคนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราพัฒนา รวมถึงการมีโชคดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ทำไม่ได้ การเรียนรู้ที่จะปลูกต้นไม้ (ฝึกเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ) จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต

นอกจากนี้การเป็นคน Likable ต้องเป็นคนอื่นพูด ไม่ใช่เราพูดเอง เราควรท่องไว้เสมอว่า “ใครช่วยให้จำ ช่วยใครให้ลืม” เพราะเงินไม่ใช่สิ่งที่มีค่าที่สุด แต่เป็น “ความทรงจำ และ คำขอบคุณ”

ใครที่อยากรับชมแบบจัดเต็ม สามารถซื้อบัตรรับชมย้อนหลังทุกเซสชันเพิ่มเติมได้ที่
👉 https://bit.ly/3TRATke