จากผลสำรวจของ QGEN ในงาน PEOPLE PERFORMANCE CONFERENCE 2025 ที่จัดขึ้นร่วมกับ CREATIVE TALK ภายใต้ธีม "Year Of Management จัดการคน จัดการตน จัดการองค์กร" ที่ให้ผู้ร่วมงานแชร์ความคิดเห็นใน 2 หัวข้อใหญ่อย่าง
- 🔥 Red Flag Culture: วัฒนธรรมที่ทำให้ "Burnout"
- 🍀 Green Flag Leader: พฤติกรรมของหัวหน้าที่คุณอยากร่วมงานด้วย
🔥 Red Flag Culture: วัฒนธรรมที่ทำให้ "Burnout"
โดย 32.48% ของคนทำงาน โหวตว่า ‘Ego-Centric Culture’ คือวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้พวกเขา "Burnout" มากที่สุด! นั่นคือ "ศูนย์กลางจักรวาล ไม่รับฟังความคิดเห็น" ไม่ใช่เรื่องเล็ก... แต่คือ Red Flag ที่ทำลายพลังใจในการทำงาน
จากผลสำรวจของ QGEN ในงาน PEOPLE PERFORMANCE CONFERENCE 2025 ที่จัดขึ้นร่วมกับ CREATIVE TALK ภายใต้ธีม "Year Of Management จัดการคน จัดการตน จัดการองค์กร" เราชวนผู้ร่วมงานกว่า 300 คน โหวตในหัวข้อ Red Flag Culture วัฒนธรรมองค์กรแบบไหน ที่ทำให้คุณ "Burnout" มากที่สุด?
Top 5 วัฒนธรรมองค์กร Red Flag ที่ทำให้คนทำงาน "Burnout" มากที่สุด:
1. Ego-Centric Culture ศูนย์กลางจักรวาล ไม่รับฟังความคิดเห็น (32.48%)
วัฒนธรรมองค์กรที่เต็มไปด้วย "อีโก้" ไม่ฟังใคร เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง โดย Gen Y โหวตในหัวข้อนี้มากที่สุด (36.42%) สะท้อนถึงความคาดหวังในเรื่อง 'การรับฟังกัน' และ 'การเคารพกัน' มากขึ้น
2. Blame Culture จ้องจับผิด โยนความผิด ไม่มีใครรับผิดชอบ (26.69%)
วัฒนธรรมการโยนความผิด แทนที่จะหาทางแก้ไข Gen Z โหวตเยอะที่สุด (30.77%) อาจเป็นเพราะ Gen นี้เพิ่งเริ่มทำงาน มีประสบการณ์ในการทำงานยังไม่มาก ต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการเรียนรู้และเติบโต ไม่ใช่สนามล่าความผิดพลาด
3. Micro Management ควบคุมทุกอย่าง ไม่มีอิสระ (15.11%)
การควบคุมงานแบบละเอียดทุกฝีก้าว Gen X รู้สึกเหนื่อยกับสิ่งนี้มากที่สุด (20.59%) อาจเป็นเพราะพวกเขาต้องการความไว้ใจจากประสบการณ์ที่สั่งสมมา
4. Gossip Culture นินทา ว่าร้าย ปั่นหัว (13.50%)
ข่าวลือในออฟฟิศ ที่ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจ โดย Gen Z คือกลุ่มที่อึดอัดกับสิ่งนี้มากที่สุด (18.27%)
5. Office Politics แบ่งพรรค เล่นพวก ให้โอกาสเฉพาะคนใกล้ชิด (12.22%)
เกมการเมืองในออฟฟิศที่ Gen X โหวตให้เยอะที่สุด (26.47%) อาจเพราะ Gen นี้ผ่านสนามการเมืองในออฟฟิศมามากกว่าใคร
Insight: Top 5 Red Flag Culture วัฒนธรรมองค์กร ที่ทำให้ "Burnout" ของคนแต่ละ Gen
Gen X: อายุ 46-65 ปี
- Office Politics แบ่งพรรค เล่นพวก ให้โอกาสเฉพาะคนใกล้ชิด
- Ego-Centric Culture ศูนย์กลางจักรวาล ไม่รับฟังความคิดเห็น
- Micro Management ควบคุมทุกอย่าง ไม่มีอิสระ
- Blame Culture จ้องจับผิด โยนความผิด ไม่มีใครรับผิดชอบ
- Gossip Culture นินทา ว่าร้าย ปั่นหัว
Gen Y: อายุ 31-45 ปี
- Ego-Centric Culture ศูนย์กลางจักรวาล ไม่รับฟังความคิดเห็น
- Blame Culture จ้องจับผิด โยนความผิด ไม่มีใครรับผิดชอบ
- Micro Management ควบคุมทุกอย่าง ไม่มีอิสระ และ Office Politics แบ่งพรรค เล่นพวก ให้โอกาสเฉพาะ- - คนใกล้ชิด (คะแนนเท่ากัน)
- Gossip Culture นินทา ว่าร้าย ปั่นหัว
Gen Z: อายุ 20-30 ปี (เริ่มนับอายุช่วงคนทำงาน)
- Blame Culture จ้องจับผิด โยนความผิด ไม่มีใครรับผิดชอบ
- Ego-Centric Culture ศูนย์กลางจักรวาล ไม่รับฟังความคิดเห็น
- Gossip Culture นินทา ว่าร้าย ปั่นหัว
- Micro Management ควบคุมทุกอย่าง ไม่มีอิสระ
- Office Politics แบ่งพรรค เล่นพวก ให้โอกาสเฉพาะคนใกล้ชิด
หมายเหตุ: ช่วงอายุในแต่ละ Generation อ้างอิงจาก McKinsey & Company
จะเห็นได้ว่าแต่ละ 'Gen' ล้วนมีประสบการณ์และมีความ 'เจ็บ' ที่ไม่เหมือนกัน การทำความเข้าใจคนแต่ละ Gen จึงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี
🍀 Green Flag Culture: พฤติกรรมของหัวหน้าที่คนทำงานอยากร่วมงานด้วย
"รับฟังความคิดเห็น" อาจดูเป็นเรื่องเล็กสำหรับหัวหน้า...แต่คือเรื่องใหญ่สำหรับลูกน้อง
เพราะหลายครั้ง คนไม่ได้ลาออกจาก "งาน" แต่ลาออกจากการที่ "หัวหน้าที่ไม่ฟังอะไรเลย"
นี่คือผลสำรวจความคิดเห็นจากงาน PEOPLE PERFORMANCE CONFERENCE 2025 ที่ให้ผู้ร่วมงานแชร์ความคิดเห็นในหัวข้อ "Green Flag Leader พฤติกรรมของหัวหน้าที่คุณอยากร่วมงานด้วย"
Top 3 อันดับ "Green Flag Leader พฤติกรรมของหัวหน้าที่คนทำงานอยากร่วมงานด้วย"
1. Open-minded เปิดใจ รับฟังความคิดเห็น | ขอฟังหน่อย ไม่ใช่สั่งอย่างเดียว
หัวหน้าที่ "เปิดใจ รับฟังความคิดเห็น" เป็นพฤติกรรมที่ถูกพูดถึงมากที่สุด เพราะการที่ได้รู้ว่าเสียงของเรานั้น "มีค่า" ก็สร้างพลังใจมหาศาลแล้ว ขอแค่ฟัง ไม่ต้องเห็นด้วยก็ได้ แต่อย่าเพิกเฉย เพราะหัวหน้าที่ทำให้คนทำงานรู้สึกปลอดภัยและอยากทำงานด้วย ไม่ใช่คนที่มีคำตอบให้ทุกอย่าง แต่คือคนที่ "เปิดใจ และรับฟัง"
เสียงเล็ก ๆ ในห้องประชุม บางครั้งไม่ได้ต้องการชนะ
แค่ต้องการการรับฟัง และถูกให้ความสำคัญ
2. Empathy เห็นอกเห็นใจ | เข้าใจ ไม่ตัดสิน
หลายคนบอกว่า หัวหน้าที่เข้าใจมุมมองของคนอื่น เห็นความแตกต่างโดยไม่รีบตัดสิน คือคนที่พร้อมจะสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการทำงานร่วมกัน
"งานเป็นยังไงบ้าง?" / "ติดปัญหาตรงไหนอยู่หรือเปล่า?"
หัวหน้าที่เข้าใจว่าเราก็มีวันที่ไม่โอเคบ้าง หัวหน้าที่มี Empathy สามารถเปลี่ยนวันแย่ ๆ ให้กลับมามีกำลังใจได้
3. Supportive สนับสนุน | อยู่ข้าง ๆ ในวันที่เรายังไม่เก่ง
"เก่งแค่ไหน ก็มีวันที่ผิดพลาด" การได้รับการสนับสนุน คอยแนะนำ อยู่ข้างเราเวลาพลาด ให้โอกาส และเชื่อว่าเราจะดีขึ้นได้ คือหนึ่งสิ่งที่ทำให้เรามีแรงทำงานต่อไปและไม่กลัวการลองสิ่งใหม่
จะเห็นได้ว่าหัวหน้า "Green Flag" ไม่ใช่คนที่เก่ง ไม่ใช่คนที่ต้องรู้ทุกอย่าง แต่คือคนที่สร้างความรู้สึก 'ปลอดภัย' และ 'เห็นคุณค่า' ของเรา
ในยุคที่คนทำงานมีตัวเลือกมากขึ้น การที่มีหัวหน้าที่รับฟัง เข้าใจ และคอยสนับสนุนทีมได้ อาจกลายเป็น ความได้เปรียบทางวัฒนธรรมที่องค์กรอื่นเลียนแบบไม่ได้