รู้จักที่มาของปีนักษัตรจีน ที่มีทั้งเสือ ทั้งสุนัข ทั้งหนู แต่กลับไม่มีแมวเหมียว…
สำหรับคนที่ไม่ทราบลำดับนั้น ปีนักษัตรจีนทั้ง 12 ปีนั้น มีลำดับเรียงตามนี้
1. ปีหนู 🐭 (ชวด)
2. ปีวัว 🐮 (ฉลู)
3. ปีเสือ 🐯 (ขาล)
4. ปีกระต่าย 🐰 (เถาะ)
5. ปีงูใหญ่ / มังกร 🐉 (มะโรง)
6. ปีงูเล็ก 🐍 (มะเส็ง)
7. ปีม้า 🐴 (มะเมีย)
8. ปีแพะ 🐐 (มะแม)
9. ปีลิง 🙊 (วอก)
10. ปีไก่ 🐔 (ระกา)
11. ปีสุนัข 🐶 (จอ)
12. ปีหมู 🐷 (กุน)
ซึ่งทุกสัญลักษณ์ของแต่ละปีก็จะถูกออกแบบขึ้นตามเอกลักษณ์ของสัตว์ประจำปีนั้นๆ ทว่าจะมีใครรู้บ้าง ว่าสัตว์ทั้ง 12 ชนิดนั้น มีที่มาจากไหน แล้วทำไมถึงมีลำดับเรียงตามนี้? แล้วทำไมถึงมีเสือแต่ไม่มีแมวได้? บทความนี้เราจะชวนมาฟังที่มาของตำนานและลักษณะเฉพาะบางอย่างของสัตว์ทั้ง 12 ตัวนี้กัน
เรื่องเล่าของสัตว์ทั้ง 12 นั้นเริ่มต้นจาก ‘การชิงชัยสู่ประตูสวรรค์’ และนี่เป็นที่มาของลำดับปีนักษัตรทั้ง 12
เนิ่นนานมาแล้ว ในอดีตกาลนั้นไม่มีปีนักษัตรจีนมาก่อน ทว่าองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ต้องการจะเลือกสัตว์ 12 ตัวมาเป็นผู้พิทักษ์ของพระองค์ บรรดาสัตว์ต่างๆ จึงได้ฤกษ์เริ่มเดินทางสู่ประตูสวรรค์ ซึ่ง ‘หนู’ เป็นสัตว์ที่เดินทางมาก่อนเพื่อน ทว่าต้องหยุดกระทันหันเมื่อประจันหน้ากับแม่น้ำและไปต่อไม่ได้ จนเมื่อหนูมองเห็น ‘วัว’ ที่กำลังจะข้ามแม่น้ำ จึงเลือกกระโดดขึ้นไปอยู่บนหูของวัว ซึ่งวัวที่อุตสาหะตัวนั้นก็ไม่ได้ว่าหรือไม่พอใจอะไร จึงค่อยๆ เดินต่อไป โดยที่มีหนูอยู่บนหัว
และหลังจากที่ข้ามแม่น้ำสำเร็จ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปสู่วังของเง็กเซียนฮ่องเต้ทันที และเมื่อหนูกระโดดลงจากหูของวัวลงมาอยู่แทบเท้าขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ‘หนู’ จึงได้อันดับที่ 1 ไป ส่วนวัวได้อันดับที่ 2 ก่อนจะตามมาด้วย ‘เสือ’ และ ‘กระต่าย’ สัตว์ที่มุ่งมั่นว่องไวทั้งคู่ เสือมาเป็นอันดับ 3 ส่วนกระต่ายมาเป็นอันดับ 4 เนื่องด้วยความเร็วและการชิงชัยซึ่งเสือมีความรวดเร็วกว่า
ส่วนผู้ที่ได้ลำดับ 5 คือ ‘มังกรผู้สง่างาม’ และ ‘เจ้างูเล็ก’ ซึ่งตามมาทีหลัง ได้ลำดับ 6 โดยเจ้างูเล็กยังกล่าวว่าตนยกให้มังกรเป็นพ่อบุญธรรมของตนด้วย
ถัดมาลำดับ 7 และ 8 เป็น ‘ม้า’ กับ ‘แพะ’ ซึ่งสัตว์ทั้งสองทั้งใจดีและถ่อมตัว จึงพยายามจะให้อีกฝ่ายได้ลำดับก่อน เง็กเซียนฮ่องเต้สังเกตเห็นดังนั้นจึงให้ทั้งคู่มาเป็นลำดับ 7 และ 8 ตามกัน
ก่อนจะมาถึง ‘เจ้าลิงจ๋อ’ ที่กระโดดข้ามระหว่างต้นไม้และก้อนหินมายังประตูสวรรค์ จนได้เป็นอันดับ 9 ส่วนอีก 3 ลำดับสุดท้ายที่เหลือก็คือ ‘ไก่’ , ‘สุนัข’ และ ‘หมู’ เรียงกัน
ทว่าทำไมปีนักษัตรจีนถึงไม่มี ‘เจ้าแมวเหมียว’ ทั้งที่มีทั้งเสือ สุนัข และหนูที่เป็นคู่อริกันได้?
เราอาจต้องย้อนไปถึงเรื่องเล่าเวอร์ชั่นหนึ่ง ตามตำนานบอกว่า ‘แมว’ กับ ‘หนู’ เป็นเพื่อนบ้านกัน แต่เจ้าแมวคอยกลั่นแกล้งเจ้าหนูอยู่เสมอ ทำให้หนูรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมา แต่ไม่เคยพูดมาออกมา ทำให้หนูเก็บความแค้นเจ้าแมวไว้ในใจ กระทั่งได้ยินพระราชกฤษฎีกาของเง็กเซียนฮ่องเต้เรื่องการแข่งขัน เจ้าหนูก็หัวเราะกับตัวเองและคิดว่านี่คือโอกาสของตนแล้ว
และวันนั้นเจ้าแมวขี้เซาก็เตะประตูของเจ้าหนูจนเปิดออก และออกคำสั่งให้หนูคอยบอกข่าวตนเสมอ ว่าจะไปงานเลี้ยงสังสรรค์วันเกิดขององค์เง็กเซียนเมื่อไหร่วันไหน ซึ่งเจ้าหนูก็รีบสัญญาและรับปากทันทีว่าตนจะบอก
ทว่าในเช้าวันถัดมา หนูก็ออกจากบ้านเงียบๆ โดยที่ไม่บอกกล่าวอะไรกับเจ้าแมว และเจ้าแมวก็ไม่ได้ตื่น จนถึงเวลาที่การแข่งขันจบลง ซึ่งมันก็สายเกินไปแล้ว ทำให้เจ้าแมวพลาด และไม่ได้เข้ามาอยู่ในรายชื่อของปีนักษัตรทั้ง 12
และอีกเวอร์ชั่นของเรื่องเล่านี้ก็บอกว่า แมวกับหนูต่างขึ้นไปอยู่บนศีรษะของวัวที่ข้ามแม่น้ำไปหาเง็กเซียนฮ่องเต้ แต่ตอนนั้นหนูผลักแมวตกลงไปในน้ำ จนถูกน้ำพัดและจมหายไป จึงทำให้แมวไม่ได้เข้าสู่ประตูสวรรค์ได้ทันเวลา
และนี่คือเรื่องเล่าซึ่งเป็นที่มาของปีนักษัตรจีนทั้ง 12 และเหตุผลที่ว่าทำไมในปีนักษัตรจีนถึงได้ไม่มีแมวเหมียวอย่างที่บางคนอาจเคยสงสัยกัน
อ้างอิงจาก – https://www.chinahighlights.com
Content Creator ผู้ชอบงานเขียนมากกว่าทุกสิ่ง และชอบตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตที่หาคำตอบไม่ค่อยเจอ