ใส่ใจฟัง, อย่าผิดซ้ำ, แอ็คชั่นให้ไว สรุปเทคนิค ‘ง้อ’ ลูกค้า ให้หาย ‘งอน’

จากงาน Content Shifu Meetup ครั้งที่ 4 โดย Burger King และ EX10

Last updated on มี.ค. 27, 2024

Posted on มี.ค. 27, 2024

แฟนงอนว่าแย่แล้ว ลูกค้างอนทีไปต่อไม่ถูกเลย 🥹

ในงาน Content Shifu Meetup ครั้งที่ 4 “Elevating Customer Engagement” เซสชัน How to Engage with Customer Better on Social Chats: คุยกับลูกค้าบน Social Chats อย่างไรให้ลูกค้าไม่งอน ได้พูดถึงวิธีการสื่อสารกับลูกค้า และเทคนิคที่จะช่วยให้ลูกค้ากลับมารักแบรนด์ได้อีกครั้ง! โดยคุณสิทธิ เทียมเมฆา, Chief Product / Technology Officer จาก EX10 และคุณชนินทร์ นาคะรัตนากร, Digital Marketing Manager จาก Burger King Thailand

❗️ลูกค้าต้องการสเปคแบบไหน❗️

  • ต้องการคนที่พร้อมคุยกันตลอดเวลา เพราะจากผลสำรวจบอกว่า 90% ของลูกค้าต้องการการตอบกลับทันที
  • เมื่อบอกว่า ‘ทันที’ นั่นแปลว่าคุณมีเวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้นในการตอบกลับ
  • ต้องการคนที่พร้อมช่วยแก้ปัญหาให้ได้ เพราะถ้าหาข้อมูลเองแล้วไม่เจอจะทำให้หงุดหงิดมากถึง 28%
  • ต้องการคนที่ไม่ต้องพูดอะไรซ้ำ ๆ โดยจากสถิติพบว่า 33% ของลูกค้างอนเพราะต้องทวนคำถามซ้ำ ๆ กับ Agent หลาย ๆ คน

หากทำได้ไม่ตรงสเปคที่หวัง จนงอนขึ้นมา ก็พบว่า 15% ของลูกค้าเมื่องอนแล้วจะไม่กลับมารักในแบรนด์อีก


🫶 ง้อลูกค้าด้วยเทคนิค ‘5ส.’ โดย Ex10 🫶

  1. ใส่ใจ: รับฟังทุกเรื่องของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องติ หรือเรื่องชม และหมั่นคอยติดตามทุกเคสในทุกช่องทาง เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าเราใส่ใจจริง ๆ
  2. สื่อสาร: สื่อสารให้รวดเร็ว ตรงประเด็น ตั้งแต่แอดมินที่สามารถตอบแชทได้ทันที หรือการมีแชทบอทที่สามารถให้คำตอบเบื้องต้นได้ทันที
  3. สม่ำเสมอ: ไม่ว่าลูกค้าจะได้คุยกับใคร ก็จะสามารถได้คำตอบ ทางออกของปัญหาเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อมูลสินค้า โปรโมชันต่าง ๆ เป็นต้น
  4. สนิทสนม: เรียนรู้ จดจำ ปรับตัว จำให้ได้ว่าลูกค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนพิเศษอยู่เสมอ
  5. สุดพิเศษ: เซอร์ไพรส์ ให้ของขวัญ สร้าง Engagement เพิ่มเติมกับลูกค้าตั้งแต่การให้สิทธิพิเศษ หรือแม้แต่การให้ส่วนลด เป็นต้น

🫶 สานสัมพันธ์ให้รักยั่งยืน แบบ Burger King 🫶

  1. Receiving: รับเรื่อง รับฟังทุกปัญหาของลูกค้าอย่างเข้าอกเข้าใจ
  2. Understanding: ทำความเข้าใจปัญหา หรือสิ่งที่ลูกค้าคอยบอกกับเรา ถามคำถามหาคำตอบที่แท้จริง
  3. Helping: เมื่อเข้าใจแล้ว ก็ดูว่าจะเสนอความช่วยเหลือใดกลับไป
  4. Keeping: คอยติดตามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าอยากให้ความสัมพันธ์นี้อยู่ต่อไปได้อย่างยั่งยืน ก็ต้องรักษาการเปลี่ยนแปลงนี้ไว้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่พอลูกค้าแจ้งปัญหามา เราแก้ไข แล้วก็กลับไปทำผิดซ้ำอีก

สุดท้าย CRM จะกลายเป็นเรื่องของทุกคน ทุกฝ่าย เพราะลูกค้าเจอกับเราตั้งแต่ต้นทางมาจนถึงปลายทาง และต่อยอดไปเรื่อย ๆ


ต่อไปจะไม่ใช่ “แบรนด์สะดวกแบบไหน” แต่เป็น “ลูกค้าสะดวกแบบไหน”


เรียบเรียง: กองบรรณาธิการ CREATIVE TALK

trending trending sports recipe

Share on