แม้ TikTok เริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้นในแวดวงการตลาดดิจิตอลของไทยตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา แต่ TikTok มาบูม แมสไปทั่วประเทศก็ช่วง ทุกคน Social distancing ตั้งแต่มีนาคมต่อเนื่องถึงเมษายนปีนี้เองครับ
ไม่เฉพาะไทยเท่านั้น จากข้อมูลของ Hootsuite x WeAreSocial เมื่อปลายเดือนเมษายนแสดงให้เห็นว่า ช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ TikTok ขึ้นแท่นมาเป็นแอปที่มีคนดาวน์โหลดเยอะที่สุดในโลกเป็นอันดับหนึ่ง มี active user มากเป็นอันดับ 6 รวมถึงผู้บริโภคใช้เวลาด้วยสูงสุดเป็นอันดับ 6 เช่นกัน
นอกจากเหตุผลที่คนใช้สื่อโซเชียลมากขึ้นเพราะต้องอยู่บ้านเพื่อสร้าง Social distancing บทความนี้เราจะลองมาวิเคราะห์กันเพิ่มเติมครับว่าทำไม โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มที่เน้นการแชร์วิดีโอสั้น ๆ 15 วินาที ขวัญใจชาว Gen Z นี้ถึงกลายมาเป็นโซเชียลมีเดียที่คนเล่นกันทั่วบ้านทั่วเมืองในปัจจุบันครับ
7 เหตุผลที่ทำให้ TikTok เป็นที่นิยมในไทย
1. #Challege สนุกๆ ที่เล่นง่ายไม่ว่าใครก็ทำได้และหลากหลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นท่าเต้นตามเพลงแบบง่ายๆ เพียงใช้เวลาฝึกนิดหน่อยก็สามารถทำตามได้ หรือ Challenge ลิปซิงตามเพลงดัง กระทั่งการเลียนแบบคลิปเสียงบทสนทนาที่อยู่ในกระแสก็สร้างความฮาและสนุกกันได้ทุกคน ในแอปยังมีให้เลื่อนเล่นได้มากมายตามใจและความถนัดของผู้ใช้งานแต่ละคน
2. แหล่งรวมดาราและคนดังจากทั่วโลกพร้อมฟีเจอร์ Duet ที่จะดวลกับใครก็ได้
น่าจะเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่แจ้งเกิดให้ TikTok เลยทีเดียว จากที่ก่อนหน้านี้เน้นให้ผู้ใช้งานมา duet ดวลเพลงหรือร้องคู่กัน ต่อมาผู้ใช้งานประยุกต์เอามาเป็น duet สนุก ๆ อีกมากมาย ทั้งเต้นดวลกัน ต่อบทสนทนา หรือการใส่ลูกเล่นตลก ๆ เชิญคนอื่น ๆ มา duet กัน และที่สำคัญผู้ใช้งานจะ duet กับใครก็ได้ในโลกนี้ ซึ่งก็รวมถึงการ duet กับดาราดังได้แบบง่าย ๆ ซึ่งตอนนี้มีดารา นักร้อง และคนดังระดับโลกอยู่ใน TikTok เต็มไปหมด ที่สำคัญและแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นก็คือ เราจะได้เห็นพวกเขาในมุมที่ดูเข้าถึงได้ เต้นและทำอะไรตลก ๆ แบบถ่ายทำเองที่บ้านผ่านมือถือ แถมบางคนยังดึงคนในครอบครัวมาเล่นด้วย เป็นภาพที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันมากนักบน platform อื่น ๆ ที่มักจะนำเสนอวิดีโอแบบปรับแต่งออกมาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว รูปแบบของ TikTok จึงสมกับวลีที่ว่า “Real is the new perfect” นะครับ ซึ่งหมายความว่าปัจจุบันผู้บริโภคไม่ต้องการดูอะไรที่เพอร์เฟกต์สมบูรณ์แบบ แต่อยากดูอะไรที่จริงใจไม่ต้องปรุงแต่งเยอะ และทุกคนสามารถจะ duet หรือทำตามชาเลนจ์คนดังเหล่านั้นได้เลยทันที
3. มี Effects น่ารัก ๆ ฮา ๆ มันส์ ๆ ให้เลือกเล่นเต็มไปหมด
เป็นอีกฟีเจอร์ที่ทำให้ TikTok เป็นที่นิยมในหมู่ Gen Z ถ้าใครที่เคยเล่น ฟีลเตอร์ของ Instagram Stories มาบ้างแล้ว อยากจะบอกว่าของ TikTok นี่เป็นอีกขั้นหนึ่งไปเลยครับ โดยการนำเทคโนโลยีของ AR มาใช้ ทำให้เกิดรูปแบบของเอฟเฟกต์ที่หลากหลายสร้างความสนุก น่ารัก น่าสนใจให้กับวิดีโอของผู้ใช้งานทุกคน
4. เน้นเรื่องบันเทิงล้วน ๆ
เอาจริง ๆ เลยนะครับ TikTok นี่บันเทิงล้วน ๆ ในขณะที่เฟซบุ๊กยังมีเพจให้ความรู้และติดตามข่าว เช่นเดียวกับ Twitter ที่เอาไว้ตามกระแสสังคม แต่กับ TikTok แม้จะมีสายความรู้และสาระอยู่บ้างแต่ก็ยังน้อยมาก ๆ ซึ่งการที่เป็น platform ที่เน้นเรื่องบันเทิงเป็นหลักคงทำให้ถูกใจผู้ใช้งานคนไทยส่วนใหญ่อยู่พอสมควรครับ
5. อัดแน่นไปด้วยเพลงดัง ๆ (และไม่ดัง) มากมาย
ในขณะที่เฟซบุ๊กเข้มงวดกับการนำเพลงที่มีลิขสิทธิ์มาอัปโหลดประกอบวิดีโอ เมื่อระบบพบว่าวิดีโอที่ใช้เพลงนั้นติดลิขสิทธิ์ระบบจะแจ้งเตือนและ mute เสียงเพลงออก แต่ของ TikTok นั้นอัดแน่นไปด้วยเพลงดัง ๆ มากมายที่นำมาใช้ประกอบชาเลนจ์ ต่าง ๆ ได้อย่างสนุกสนาน
6. มีฟีเจอร์ตัดต่อวิดีโอเจ๋ง ๆ พร้อมในตัว
จากที่ผมลองเล่น TikTok อย่างจริงจังในช่วงเดือนที่ผ่านมา พบว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ TikTok ทำได้ดีกว่า platform อื่นก็คือฟีเจอร์ตัดต่อวิดีโอในตัวที่มีลูกเล่นมากมายและทรงพลังมาก ๆ ดีแบบที่ว่าผู้ใช้งานไม่ต้องไปพึ่ง app ตัดต่อวิดีโออื่นมาช่วยในการผลิตวิดีโอเจ๋ง ๆ เลยครับ เสียอย่างเดียวกินแบตมาก ๆ
7. ทุกคนกลายเป็นคนดังได้ใน TikTok
“Everyone can be someone.” น่าจะเป็นหนึ่งในนิยามที่บ่งบอกความเป็น TikTok ได้เป็นอย่างดีนะครับ สำหรับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์หรือมีทักษะในการแสดงออกในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะการทำอะไรที่ฮา ๆ สนุก ๆ เน้นบันเทิง โอกาสที่จะสร้างฐานผู้ตามจำนวนมากใน TikTok ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากจนเกินเอื้อมนะครับ ลองไปส่องดูบัญชีที่มีคนติดตามเป็นล้าน หลาย ๆ คนดูเป็นวัยรุ่นทั่วไปไม่ใช่คนดังอะไรมาก่อนแต่สามารถสร้างเนื้อหาให้คนมาติดตามจำนวนมากได้นะครับ
อยากเริ่มทำการตลาดและลงโฆษณาบน TikTok ต้องทำอย่างไร
จริง ๆ แล้วเหมือนกับโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มอื่นเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตราแกรมหรือทวีตเตอร์หลัก ๆ แล้วแบรนด์มีวิธีทำการตลาดผ่าน TikTok ได้หลัก ๆ สองวิธี วิธีแรกคือผ่าน Advertising solution คล้าย ๆ กับที่เฟซบุ๊กมีให้บริการครับ ส่วนวิธีที่สองคือผ่าน Influencers หรือเหล่า idol ที่มีคนติดตามเยอะ ๆ และมีคาแรกเตอร์เหมาะสมกับแบรนด์ของเรานั่นเองครับ
ในส่วน Advertising solution ของ TikTok นั้น ตอนนี้หลัก ๆ มีรูปแบบดังนี้ครับ
- Brand Takeover – หน้าแรกเวลาผู้ใช้งานเข้า app
- TopView – วิดีโอแรกสุดเมื่อผู้ใช้งานเข้า Feed
- In-Feed Ads – โฆษณาที่ขั้นอยู่ระหว่างวิดีโอใน Feed
- Hashtag Challenge – เป็น challenge พิเศษที่แบรนด์สามารถเพิ่มลงใน platform เชิญชวนกลุ่มเป้าหมายมาเล่นตาม
- Branded Effect – คือการสร้าง Effect พิเศษที่โปรโมตแบรนด์หรือเป็นส่วนหนึ่งของ challenge ที่สร้างขึ้นมาครับ
แต่จากเรทตอนนี้ราคาค่าโฆษณาของ Tiktok จะโหดหน่อยนะครับ ลองดูข้อมูลเรทราคาคร่าว ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Link นี้ครับ
และหากอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบโฆษณาของ TikTok สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่นะครับ ข้อมูลผู้ใช้งานและรูปแบบโฆษณาของ TikTok ในไทย
สำหรับนักการตลาดที่สนใจจะลองลงโฆษณาเองโดยตรงกับ TikTok ลองไปสร้างบัญชีและศึกษาเพิ่มเติมได้ตามลิงก์นี้ครับ https://getstarted.tiktok.com/home หรือถ้านักการตลาดท่านใดมีเอเจนซี่คอยดูแลเรื่องซื้อสื่อโฆษณาลองสอบถามเอเจนซี่ของคุณเพิ่มเติมดูได้เช่นกันครับ
แบรนด์เราเหมาะกับ TikTok ไหม?
เฉกเช่นเดียวกับการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียอื่น ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนวางแผนซื้อโฆษณา อย่าลืมวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมให้กับแบรนด์ของเราก่อนนะครับ ทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย แผนการสื่อสารที่เหมาะสม และไอเดียครีเอทีฟของเนื้อหาที่จะนำเสนอ
แม้ตอนนี้ TikTok จะมาแรงมากก็จริงแต่ก็ไม่ใช่ทุกแบรนด์จะเหมาะกับ TikTok นะครับ อ้างอิงข้อแนะนำจาก Hootsuite ซึ่งผมนำมาสรุปไว้ดังนี้ครับ “ ถ้า Gen Z เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณ และความสนุกและขี้เล่นเป็นโทนที่เหมาะสมกับแบรนด์ ในปี 2020 คงต้องเริ่มสร้าง content ใน TikTok แล้ว แต่ถ้าไม่ใช่จงมองข้าม TikTok ไปก่อนแล้วเอาเวลากับทรัพยากรไปลงที่ social platform อื่นน่าจะดีกว่า…”
ส่วนตัวผมเห็นด้วยนะครับ โดยเฉพาะเรื่องที่ระบุว่าแบรนด์ที่เหมาะกับ TikTok ควรเป็นแบรนด์ที่มีโทนของความสนุกและขี้เล่นพอสมควรและไม่เป็นทางการมาก ส่วนประเด็นที่ควรเน้นเจาะเฉพาะกลุ่ม Gen Z นั้น จริงอยู่ว่านี่เป็นกลุ่มอายุที่จำนวนเยอะที่สุดใน TikTok ตามข้อมูลที่ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่จากการที่ผมลองไปนั่งดู feed ของ TikTok ในช่วงเดือนที่ผ่านมาพบว่า นอกจาก Gen Z แล้ว ก็เริ่มมี Gen Y และ X โผล่มาใน feed บ้างพอสมควรนะครับทั้งดาราและคนทั่วไป ผมเองคิดว่าอีกสักพักอาจจะโกแมสมากกว่าแค่กลุ่ม Gen Z กลุ่มเดียวก็ได้นะครับ
อย่างไรก็ดี ในมุมมองของผมเชื่อว่าปัจจุบัน TikTok น่าจะเหมาะกับการทำการตลาดที่เน้นเรื่อง awareness มากที่สุดครับ รองลงมาคือเรื่องของการสร้าง engagagement ระหว่างกลุ่มเป้าหมายและแบรนด์ผ่านการทำชาเลนจ์ต่างๆ ส่วนเรื่อง conversion นั้น TikTok อาจจะยังไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นครับ
Credit: TikTok Ads Facebook Page
สุดท้ายนี้อยากชวนนักการตลาดทุกท่านเมื่ออ่านบทความนี้จบแล้วลองไปเล่น TikTok แบบจริงจังดูสักอาทิตย์สองอาทิตย์นะครับ รับรองว่าจะเข้าใจ platform มากขึ้นและเผลอ ๆ อาจจะติดใจเล่น TikTok จนกลายเป็นผู้ใช้งานประจำคนหนึ่งเลยก็ได้นะครับ
เรื่อง : ณรงค์ยศ มหิทธิวาณิชชา Chief Digital Officer & Co-Founder The Flight 19 Agency
ภาพ : สุธาทิพย์ อุปสุข
บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ
- 3 เทรนด์การตลาด Social Media ที่ต้องจับตามองในปี 2020 จาก HootSuite
- 5 Conversion ที่มากกว่ายอดขาย เมื่อคุณตัดสินใจทำ Digital Marketing
- Digital Marketing ไม่ใช่ยาวิเศษ ที่จะรักษาโรคขายไม่ดีได้ทุกชนิด!