สร้างคนเก่งคนเดียวไม่เท่าสร้างทีมแกร่งที่รู้ใจกัน

เพราะคนคือสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับองค์กร

เวลาบริษัทยักษ์ใหญ่ออกมาพูดเรื่องการทำให้รู้ใจบุคลากร หลายคนคงขำแบบยักไหล่ เพราะปีที่แล้วบริษัทหลายแห่งเพิ่งรวมกันประกาศเลย์ออฟพนักงานไปอยู่หยก ๆ โดย Google เองก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลดจำนวนคนลง แต่ราคาหุ้นของบริษัทกลับโตขึ้นเกือบ 50% ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวขององค์กรได้ดีทีเดียว

แต่อะไรคือสิ่งที่ทำให้ Google เติบโตกันนะ เพราะที่นี่ก็เหมือนกับองค์กรอื่น ๆ มีทั้งคนที่ฉลาด มีทั้งคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และคนที่ทำงานหนัก ซึ่งนวัตกรรมแบบไหนที่ทำให้ Google เติบโต และบริหารเรื่องคนได้น่ะเหรอ

คำตอบคือ การรวมทีมที่รู้ใจกันยังไงล่ะ

เป็นเวลาหลายปีที่ฝ่าย HR ของ Google ได้พยายามวิเคราะห์ทุกความเป็นไปได้ในชีวิตของพนักงาน เพื่อดูว่าจะทำอย่างไรถึงจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้พนักงาน รวมถึงทำให้พวกเขารู้ใจกันในเรื่องงานมากกว่านี้ และสิ่งที่พวกเขาพบคือ การเพิ่มประสิทธิภาพให้พนักงาน ไม่ได้เกิดจากการที่องค์กรมีพนักงานแบบไหน แต่คือการที่พนักงานจะทำงานร่วมกันอย่างไร

ตอนแรก Google ทำการวิจัยการทำงานของคนกว่า 180 ทีมทั่วทั้งบริษัท เพื่อหาว่าใครที่ไม่จำเป็นในองค์กร แต่สิ่งที่พวกเขาพบคือ ไม่มีตำแหน่งไหนที่ไม่จำเป็น เพียงแต่ต้องเอาพวกเขาไปอยู่กับงานที่ถูกต้องต่างหากเพราะเราต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกองค์กรจะสามารถหาคนที่เพอร์เฟกต์ จนทำได้ครบเครื่องตั้งแต่แรก ดังนั้นแล้ว Google จึงสร้างเทคนิคการรวมทีมที่รู้ใจกันขึ้นมา โดยคำนึงถึงการทำงานที่รู้ใจกัน มากกว่ารวมทีมที่มีแต่หัวกะทิ

เทคนิคนี้ทำให้พนักงานมี Collaboration สูงขึ้น เพราะทีมโฟกัสแค่ว่า วางแผนงาน แก้ไขปัญหา ตัดสินใจ และทบทวนความคืบหน้า ซึ่งการสร้างทีมที่รู้ใจกัน จะทำให้พนักงานไม่ได้รู้สึกว่าตนไร้ค่า เพราะถ้าพนักงานได้เจองานที่ไม่ถนัด พวกเขาก็จะพยายามสร้างประโยชน์ในรูปแบบอื่นเท่าที่ทำได้ ดังนั้นแล้ว บางครั้งหากคนคนนั้นอยู่คนเดียว พวกเขาอาจจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ย แต่เมื่อรวมทีมแล้ว คนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเหล่านี้ อาจเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และทำงานแบบรู้ใจกันที่สุด

แล้วจะทำอย่างไร เพื่อสร้างกาวที่ประสานใจ ให้พนักงานรวมทีมได้อย่างรู้ใจกันนะ

1. สร้างพื้นที่ปลอดภัยในเรื่องสุขภาวะทางจิต

Psychologyl safety เป็นรากฐานสำคัญของทีมที่รู้ใจกันจนประสบความสำเร็จ มันหมายถึงการสร้างองค์กรให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจ ซึ่งการสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบนี้ จะทำให้พนักงานรู้สึกมั่นใจ ว่าพวกเขาจะไม่ถูกลงโทษ และโดนด่า เมื่อพวกเขาถามคำถาม หรือเสนอไอเดียใหม่ ๆ ในสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน

2. ทุกคนต้องมีความเชื่อใจ

ความเชื่อใจเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการที่สมาชิกในทีม สามารถทำงานที่มีคุณภาพให้เสร็จตามเวลา มีความรับผิดชอบ ปฏิบัติตามแผนที่กำหนด จะช่วยสร้างความไว้วางใจ จนทีมสามารถทำงานได้ด้วยการรู้ใจ เพราะบางครั้งพนักงานที่ขาดความเชื่อใจเพียงคนเดียว อาจขัดขวางความเชื่อใจกันของทั้งทีมได้

3. มี OKR ที่ชัดเจน

เป้าหมาย แผนงาน และบทบาทที่ชัดเจนถือเป็นสิ่งสำคัญต่อประสิทธิภาพ และการรู้ใจของคนในทีม ซึ่งการตั้งวัตถุประสงค์ และผลลัพธ์ (OKR) ของ Google เป็นตัวอย่างว่าการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนนั้น จะนำทางทีมไปสู่เป้าหมายไร โดยทาง CREATIVE TALK เคยเขียนบทความวิธีตั้ง OKR แบบ Google ไปแล้ว สามารถไปอ่านได้ที่

ไม่ต้องทำเต็มร้อย แต่ได้ผลลัพธ์เกินร้อย โดย Google

ตามปกติแล้ว ถ้าจะบรรลุเป้าหมาย หลายคนมักจะตั้ง KPI ไว้ที่ 100% แต่ถ้าเรากำลังทำ OKRs อยู่ การทำได้แค่ 70% ก็ไม่ใช่เรื่องแย่หรอกเลยล่ะ

Creative TalkPeerapon Sodsup

4. เข้าใจจุดมุ่งหมายในการทำงานของแต่ละคน

การค้นหาจุดมุ่งหมายในการทำงาน หรือผลลัพธ์ของงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแรงจูงใจ และการรู้ใจของทั้งทีม ซึ่งเอาจริงแล้ว ความหมายในการทำงานของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป บางคนก็ทำเพื่อเงิน บางคนก็ทำเพื่อความมั่นคงทางอาชีพ บางคนก็อยากเติบโต หรือช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จ เพราะเมื่อทีมเข้าใจจุดมุ่งหมายในการทำงานของแต่ละคนมากขึ้น จะทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมจนเป็นกาวที่รู้ใจกันอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ

5. เข้าใจถึงผลกระทบในงานของงานเรา

งานที่เราปล่อยออกไปจะเป็นแบบไหน คนที่ชมอยู่จะรู้สึกอย่างไร
การเข้าใจว่างานที่ทำออกมา จะมีผลกระทบกับสังคมอย่างไร ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายในการทำงาน เพราะไม่ว่าผลกระทบเหล่านี้จะออกมาอย่างไร แต่การได้รู้ว่าเรากำลังทำเพื่ออะไร จะทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่า จนช่วยเพิ่มความรู้สึกที่รู้ใจกันมากขึ้น

แปล เรียบเรียง: พีรพล สดทรัพย์

ที่มา

• Google Research Says These 5 Factors Make Teams Productive and Effective, and Team Members Feel Satisfied and Fulfilled | Inc.com
• Google Says The Best Teams Have These 5 Things (forbes.com)